“พิเชฐ” แฉ! รัฐบาลทรราช ตั้ง “เพ็ญ” อดีตหัวหน้านรกป่วนกรุง และผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง เป็นหัวหน้าทีมแถลงข่าวสื่อเทศต่อกรณีวิกฤตการณ์ในบ้านเมือง ประเดิมงานแรก แหลเบ็ดเสร็จบึ้มป้อมตำรวจที่มัฆวานฯ เป็นฝีมือกองโจรพันธมิตรฯ ขณะเดียวกัน เผยฮิวแมนไรต์ ได้หลักฐานเด็ดมัดตัว “พลังแม้ว” บงการสั่งฆ่า ให้ นปก.ป่วนพันธมิตรฯ เมื่อวานนี้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิเชฐ พัฒนโชติ ปราศรัย
เมื่อวันที่ 2 ก.ย.เวลา 23.25 น. ที่เวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในทำเนียบรัฐบาล นายพิเชฐ พัฒนโชติ อดีตรองประธานวุฒิสภา ปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ ตอนหนึ่งว่า เหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาทำให้ประชาชนเสียชีวิตบาดเจ็บ แต่ผู้ปกครองบ้านเมืองมาถามว่า ฝ่ายไหน มันแบ่งคนในบ้านเมืองเป็นฝักฝ่าย ขณะที่ประชาชนบาดเจ็บล้มตาย ครม.ประชุมเพียงเรื่องเดียวอนุมัติงบประมาณซื้อรถเมล์ 4 พันคัน
“อดีต ส.ส.พลังประชาชน และส.ส.พลังประชาชนบางคนได้ปราศรัยบอกว่า ให้ประชาชนที่อยู่ที่ท้องสนามหลวงมาที่สะพานมัฆวานฯ และเข่นฆ่าประชาชนที่นี่ได้เลย คุณสุนัย ผาสุก ซึ่งเป็นตัวแทนในประเทศไทยของ ฮิวแมนไรต์วอตช์ ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้กับไทยพีบีเอส โดยระบุว่าได้เก็บหลักฐนเรื่องนี้ไว้ดว้ย พี่น้องที่ทราบข้อมูลเก็บหลักฐานไว้ด้วย เพราะคำพูดนี้เป็นทั้งตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้เข่นฆ่าประชาชน” นายพิเชฐ ระบุ
นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า เพียงพอแล้วหรือยังสำหรับการที่ประชาชนมีความชอบธรรมในการที่จะโค่นล้มรัฐบาลทรราช ที่ตนพูดแค่นี้ก็มากมายก่ายกองแล้ว แต่เหตุการณ์เมื่อวานมาถึงวันนี้ยังมีเรื่องอีกมากมายเหลือเกินที่พี่น้องประชาชนมีความชอบธรรมเพียงพอจะโค่นล้มขับไล่รัฐบาลทรราช
ทั้งนี้ นายพิเชฐ ระบุถึง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังด้วยว่า เขาเคยบอกว่ารัฐบาลจะไม่ให้กลุ่ม นปก.และพันธมิตรฯ ปะทะกัน แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา ลูกหมาที่ไหนมาแล้วตีประชาชนที่นี่ แล้วยังให้สัมภาษณ์หน้าตาเฉยเลยว่าถ้าพันธมิตรฯ ไม่พอใจก็ให้ไปแก้ปัญหากันในสภา มันปาหี่ทางการเมือง คนเห็นกันทั่วโลก แล้วยังบอกว่าคนที่มาอยู่ในทำเนียบฯ เป็นคนส่วนน้อยเพียงแค่หมื่นสองหมื่นเท่านั้น
นอกจากนั้น นายพิเชฐ ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีการตั้งคณะทำงานแถลงข่าวกับสื่อต่างประเทศในภาวะวิกฤตนี้ โดยตั้งนายจักรภพ เพ็ญแข เป็นประธานคณะทำงาน ผลงานชิ้นแรกที่นายจักรภพและคณะทำงานของเขาได้แถลงกับสื่อต่างประเทศ บอกว่า ความกังวลต่อการที่จะเกิดปฏิวัติรัฐประหารในประเทศไทยหายไปทันที เมื่อนายสมัครได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 30 ส.ค.51 มันเอาการเข้าเฝ้าฯ เป็นประโยชน์ทางการเมือง บังอาจมากเกินไป เป็นคำรบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ สิ่งเหล่านี้จะถูกเก็บเอาไว้แล้วดำเนินการทันทีเมื่อประชาชนได้รับชัยชนะ
“นอกจากนั้นมันยังแถลงกับสื่อต่างประเทศว่าป้อมตำรวจที่ถูกระเบิดเป็นฝีมือของนักรบกองโจรพันธมิตรฯ มันแถลงกับสื่อต่างประเทศ พร้อมๆ กับที่โฆษกรัฐบาล ก็แถลงกับสื่อในประเทศบอกเหตุที่ระเบิดเป็นนายพลเอกคนนั้น ก็แปลความว่า นักรบกองโจรมียศเป็นพลเอกด้วย เราดีใจได้เลยว่าเรามีนักรบเป็นพลเอกด้วย” นายพิเชฐ กล่าว และว่า เขาบอกอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์ และพันธมิตรฯ ต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองด้วยกระบองและผ้าโพกหัว
นายพิเชฐ กล่าวว่า โฆษกรัฐบาลบอกว่ารัฐบาลนี้จะไม่ใช้พระราชกำหนดในภาวะฉุกเฉินแล้วที่บอกเมื่อเช้านี่มันเป็นเศษกระดาษหรือไง มันโกหกหลอกลวงกันคร้งแล้วครั้งเล่า แล้วยังบอกอีกว่า อำนาจนิติบัญญัติถูกทำลายโดยพรรคประชาธิปัตย์ เรื่องนี้ก็มอบหมายให้ประชาธิปัตย์ไปดำเนินการเองก็แล้วกัน แล้วัยงบอกว่าอำนาจบริหารถูกทำลายโดยพันธมิตรฯ วันนี้อำนาจบริหารพันธมิตรฯได้เข้ามากวาดล้างให้เป็นอำนาจที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม นายพิเชฐ กล่าวด้วยว่า เมื่อมีการเอา พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาใช้ ได้แต่งตั้ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ให้แก้ไขวิกฤต พี่น้องบอกดังๆ ทีว่าใครเป็นคนทำให้เกิดวิกฤต ก็คือนายสมัคร ดังนั้น พล.อ.อนุพงษ์ต้องรีบดำเนินการแก้ไขภาวะวิกฤตโดยการจับนายสมัครทันที