xs
xsm
sm
md
lg

“ปู่ชัย” โดนถอนหงอก-ใส่วาระ “สมเกียรติ” อ้างให้สภาคึกคัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ปู่ชัย” ว่างจัด นำเรื่องตำรวจขอตัว “สมเกียรติ” ไปให้ปากคำคดีหมิ่นเบื้องสูง เข้าถกในสภาเพื่อขอเอกสิทธิ์คุ้มครอง เปิดช่องลิ่วล้อ “แม้ว” อภิปรายเหน็บแนมเล่น แต่สุดท้ายหน้าแตก เมื่อ ส.ส.แกนนำพันธมิตรฯ ยืนยันจะไปให้ปากคำ ตร.เป็นบรรทัดฐาน ไม่หนีคดี ประธานเฒ่าทารกโดนถอนหงอก อ้างเสียงอ่อยแค่อยากให้สภาคึกคักขึ้น

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (14 ส.ค.) หลังจากการพิจารณากระทู้ถามสดเสร็จสิ้น พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ ได้แจ้งว่า ผู้กำกับการ สน.มักกะสัน รักษาราชการ สน.นางเลิ้ง ได้มีหนังสือแจ้งยังสภาเพื่อการขออนุญาตขอตัวนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อไปให้ปากคำเพิ่มเติมในวันที่ 16 ส.ค.นี้ ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพในระหว่างเปิดสมัยประชุม

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ได้ลุกทักท้วงว่า ยังไม่มีการแจ้งรายละเอียดวาระนี้ หรือมีหนังสือขออนุญาตดังกล่าวให้สมาชิกได้ทราบก่อนเข้าสู่วาระการประชุม เมื่อไม่มีรายละเอียด จึงไม่สามารถพิจารณาให้ความเห็นได้ เพราะก่อนการประชุมทุกครั้งจะมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า แต่ไม่ทรายว่าเป็นเพราะเหตุใดกรณีนี้จึงไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

จากนั้น นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ขึ้นทำหน้าที่ประธาน โดยได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าเพิ่งได้รับแจ้งตอนเที่ยง และเห็นว่าเป็นวันประชุมวันสุดท้ายของสัปดาห์ จึงแจ้งให้ที่ประชุมพิจารณาเป็นเรื่องปกติธรรมดา ส่วนรายละเอียดของหนังสือก็เป็นคำบันทึกของพนักงานสอบสวน อย่างไรก็ตาม ในช่วงสมัยประชุมสภาไม่เคยอนุมัติให้ใครไปดำเนินคดีขอให้ที่ประชุมพิจารณาด้วย

ต่อมาประธานได้ขอให้สมาชิกแสดงตนเพื่อนับองค์ประชุม ปรากฏว่ามีผู้เข้าร่วมประชุมเพียง 203 คน จึงเห็นว่าไม่ครบองค์ประชุมจึงไม่สามารถดำเนินการประชุม ได้ขอสั่งพักการประชุม 5 นาที

หลังจากครบกำหนดพักการประชุมได้เริ่มประชุมอีกครั้ง ประธานได้เรียกให้ให้สมาชิกเข้าห้องประชุมเพื่อแสดงตนนับองค์ประชุมหลายครั้ง กินเวลาประมาณ 10 นาที ในที่สุดเมื่อขอให้สมาชิกแสดงตนอีกครั้ง ปรากฏว่ามีจำนวนสมาชิกอยู่ในที่ประชุม 248 คนถือว่าครบองค์ประชุมจึงได้ดำเนินการประชุมต่อ และประธานได้อ่านหนังสือขออนุญาตขอตัวนายสมเกียรติให้สมาชิกรับทราบอีกครั้งโดยละเอียด

จากนั้น ส.ส.จากฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านได้ลุกอภิปรายในทิศทางเดียวกัน เห็นควรให้สภาปกป้องคุ้มครองสิทธิของสมาชิกในการทำหน้าที่ โดยนายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคพลังประชาชน ได้อภิปรายว่า เมื่อเป็น ส.ส.ก็ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน จึงขอให้สมาชิกปกป้องคุ้มครองสิทธิเพื่อให้เป็นไปตามประเพณีอันดีงามของสภา นายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคพลังประชาชน อภิปรายว่า แม้ว่าที่ผ่านสมาชิกคนดังกล่าวอาจจะเคยไปทำให้สภาและสมาชิกเสื่อมเสีย แต่เห็นว่าเพื่อเป็นไปตามประเพณีที่ปฏิบัติกันมา

ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคพลังประชาชน อภิปรายเห็นว่า เอกสิทธิ์คุ้มครองเป็นประเพณีอันดีงาม แต่กรณีนี้ได้ไปกระทำการนอกสภาแล้วละเมิดสถาบันเบื้องสูง แต่ต้องดูเหตุจูงใจด้วยว่ามีอะไรให้ทำอย่างนั้นหรือไม่ ถึงแม้ ส.ส.จะมีเอกสิทธิ์ให้ความคุ้มครองครอบจักรวาล แต่จะให้กับ ส.ส.ที่ไม่สำเหนียกในภาระหน้าที่ของตัวเองแล้วมาขอเอกสิทธิ์คุ้มครองในสภาเหมาะสมแล้วหรือไม่ เราจะต้องคำนึงด้วย มูลเหตุในคดีนี้ไม่ควรจะให้การคุ้มครอง แต่เมื่อเป็นสมาชิกก็ต้องให้เอกสิทธิ์คุ้มครอง

ขณะที่ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.สัดส่วน นายเจริญ คันธวงค์ นายทิวา เงินยวง ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ต่างอภิปรายสนับสนุนไม่ควรอนุมัติให้นำตัวสมาชิกในระหว่างเปิดสมัยประชุมสภา ในอดีตก็ไม่เคยมีการอนุมัติจากสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นประธานได้ขอให้วิปทั้งสองฝ่ายไปหารือกัน ปรากฏว่า นายสมเกียติยกมือขอใช้สิทธิในการอภิปราย โดยกล่าวขอบคุณสมาชิกที่ขอให้ใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง แม้จะมีอภิปรายต่อว่าอย่างไร แต่ตนตั้งใจขออนุญาต จะขออนุญาตประธานเพื่อไปถูกดำเนินคดีเพราะไม่ต้องการหนีคดีใดๆ ไม่ว่าจะเป็นระดับชุมชนหรือประเทศชาติ ด้วยการหนีออกไปนอกประเทศ

นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า ตนได้ถูกกลุ่มคนแจ้งความดำเนินคดีกว่า 10 คดี และในวันที่ 16 ส.ค.นี้เป็นวันที่ตำรวจนัดให้ตนไปยื่นเอกสารเพิ่มเติม ความจริงไม่ต้องการขออนุมัติจากสภาเพราะตนได้รับการประกันตัวมาแล้ว และได้เตรียมเอกสารในการให้ปากคำไว้พร้อมแล้วด้วย ดังนั้น แม้สภาจะมีมติอย่างไร ตนก็ต้องไปเพราะความล่าช้าคือความไม่ยุติธรรม

“ขออนุญาต สภาปล่อยผมไปเถอะ ปล่อยผมไปถูกดำเนินคดี ผมไม่หนีไปไหน เพราะมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม เพื่อแจะได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงและเป็นบรรทัดฐานต่อไป” นายสมเกียรติย้ำ

ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้น่ายค้านในสภาฯ กล่าวว่าข้องใจกับการหยิบยกเรื่องนี้ของประธานขึ้นมา เพราะนายสมเกียรติจะต้องไปให้ปากคำตามทีได้นัดกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 16 ส.ค.นี้อยู่แล้ว การกระทำของประธานไม่แน่ใจว่า ที่ว่าขอนั้นขออะไร เพราะนายสมเกียรติ ก็พร้อมพิสูจน์ตัวเอง

นายชัยได้ตัดบทชี้แจงว่า การหยิบยกเรื่องนี้มาหารือสมาชิกเพราะเห็นว่าสภาโหรงเหรง เมื่อนำเรื่องนี้เข้ามาหารือสภาก็คึกคักขึ้น เมื่อพูดจบ ทำให้นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายตำหนิว่า “ไม่นึกว่าประธานจะไม่มีอะไรทำ ถึงได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดเล่นๆ ถือว่าไม่ควรทำอย่างนี้”

ในที่สุด นายชัยได้ขอถอนเรื่องดังกล่าวออกจากการหารือ และไม่ต้องขอให้ที่ประชุมอนุมัติแต่อย่างไรและได้ดำเนินการประชุมไปตามระเบียบวาระต่อไป
ชัย ชิดชอบ

กำลังโหลดความคิดเห็น