ข่าวภูเก็ต -พันธมิตรฯ และกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต รวมพลังประมาณ 500 คน เดินทางขบวนยื่นแถลงการณ์แสดงจุดยืนทวงคืนปราสาทพระวิหาร ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และกระทรวงการต่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดภูเก็ต รายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (10 ก.ค.) กลุ่มพันธมิตรประชาชานเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต รวมถึงนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ได้รวมตัวกันประมาณ 500 คน ที่บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี ถนนถลาง อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อร่วมกันแสดงจุดยืนทวงคืนปราสาทพระวิหาร ด้วยการเดินขบวนจากสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชินี ไปยังศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อยื่นแถลงการณ์กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต ต่อจุดยืนในการทวงคืนปราสาทพระวิหาร ต่อนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และกระทรวงการต่างประเทศ
ทั้งนี้ ขบวนได้ออกจากสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาฯ ไปตามเส้นทางถนนมนตรี ผ่านวงเวียนหอนาฬิกา เข้าถนนภูเก็ต ผ่านวงเวียนสุริยเดช เข้าถนนพังงา เลี้ยวช้ายเข้าถนนมนตรีและเลี้ยวขวาเข้าถนนนริศร เข้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ซึ่งตลอดเส้นทางได้มีการปราศรัยและขับไล่รัฐบาลนอมินีของนายสมัคร สุนทรเวช
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จัดกำลังในการดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ตลอดเส้นทางจนถึงศาลากลางรวมทั้งจัดการจราจร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหารถติด รวมทั้งตลอดเส้นทางที่กลุ่มพันธมิตรฯเดินผ่านมีประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ต ออกมาให้กำลังอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม กลุ่มพันธมิตรฯได้เดินทางถึงศาลากลางจังหวัดภูเก็ตในเวลา 14.30 น. ซึ่งมีนายตรี อัครเดชา รองผู้ว่าราชการมารับหนังสือแถลงการณ์จากพันธมิตรฯ แทนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตที่ติดราชการ โดยนายณัชจรงค์ เอกเพิ่มทรัพย์ ประธานกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ตได้อ่านแถลงการณ์ก่อนที่จะยื่นว่า
จากกรณีเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2551 ที่ผ่านมา ยูเนสโกประกาศให้ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ทั้งที่ พื้นที่บางส่วนของปราสาทพระวิหารอยู่ในเขตราชอาณาจักรของประเทศไทย โดยการดำเนินการของกระทรวงต่างประเทศ ที่มีนายนพดล ปัทมะ เป็นเจ้ากระทรวง ส่งผลให้ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศรู้สึกเสมือนสูญสิ้นอำนาจอธิปไตยไปให้ต่างชาติ หลังจากที่เราไม่เคยเสียดินแดนไปให้ชาติใดมานานนับ 100 ปี
ถือเป็นความสูญเสียซึ่งศักดิ์ และศรีของประชาชนชาวไทยทั้งชาติ โดยขาดซึ่งความรับผิดชอบของคณะรัฐบาล ที่มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี มีเพียงคำกล่าวที่ว่า ปราสาทวิหารเราสูญเสียไปนานแล้วเท่านั้น เป็นคำกล่าวที่เสียดแทงใจคนทั้งประเทศ กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต ในฐานะที่เป็นชาวไทยคนหนึ่ง ซึ่งรักในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ขอเรียกร้องให้รัฐบาล และรัฐมนตรีทุกคน แสดงความรับผิดชอบดังต่อไปนี้
1.ขอเรียกร้องให้รัฐบาล และคณะรัฐมนตรีทุกคน ภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบใด ๆ ก็ตาม ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ จากผลการกระทำของนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ที่ทำให้ประเทศไทยสูญเสียอธิปไตยไปให้ต่างชาติ จากการที่ยูเนสโกประกาศให้ปราสาทพระวิหาร เป็นมรดกโลกของประเทศกัมพูชา ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าอับอาย และน่าอดสูใจอย่างที่สุด
2.ขอเรียกร้องให้นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทวงต่างประเทศ แสดงความรับผิดชอบจากการกระทำใด ๆ ก็ตาม ที่ทำให้ประเทศไทยสูญเสียอธิปไตย และดินแดนไปให้ต่างชาติ จากการที่ยูเนสโกประกาศให้ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชา ทั้งที่พื้นที่ส่วนหนึ่งของปราสาทพระวิหารตั้งอยู่ในประเทศไทย และยังมีวาระซ่อนเร้นที่ให้อำนาจแก่ประเทศอีก 6 ประเทศเข้ามาบริหารจัดการพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา
3.ขอเรียกร้องให้กองทัพทำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ในการปกป้องการเสียอธิปไตยของชาติในครั้งนี้ และพึงระวังการเสียอธิปไตยที่จะตามมาในเขตอ่าวไทย และส่วนอื่น ๆ ของชาติ
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต เป็นไปตามหลักสงบ สันติ และอหิงสา ไม่ต้องการให้เกิดความแตกแยก และความรุนแรงใด ๆ ขึ้นในประเทศภายใต้รัฐธรรมนูญปี 50 มาตราที่ 63 และเป็นสิทธิอันชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญของราชอาณาจักรไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ภายจากที่รับหนังสือ นายตรี อัครเดชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวกับกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า จะนำแถลงการณ์ที่มายื่นให้ในวันนี้เสนอผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และส่งถึงรัฐบาลอย่างแน่นอนและขอชื่นชมกลุ่มพันธมิตรฯที่ตลอดระยะเวลาของการชุมชน ชุมนุมอยู่ในความสงบ หลังจากนั้นกลุ่มพันธมิตรฯได้แยกย้ายกันกลับ และจะรวมตัวกันชมการถ่ายสดที่บริเวณปลายแหลมสะพานหินอีกในคืนนี้