ตรัง – จังหวัดตรัง ย้ายหอเตือนภัย ที่หาดปากเมง สัญญาณเสียงมีปัญหา หลังจากมีการฝึกซ้อมใหญ่แผนระบบเตือนภัย และการอพยพคลื่นยักษ์สึนามิ พร้อมกัน 79 หอเตือนภัย
วันนี้ (7 ก.ค.) ที่บริเวณสามแยกปากเมง ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง นายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายเสรี พาณิชย์กุล นายอำเภอสิเกา นายสันต์ จันทรวงศ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง และ พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ ภัทรภานุ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ตรวจสอบการฝึกซ้อมใหญ่แผนระบบเตือนภัย และอพยพหลบภัยคลื่นยักษ์สึนามิแบบเต็มรูปแบบ โดยศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ จัดพร้อมกันทั้ง 79 หอเตือนภัย ในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน
ทั้งนี้ ในส่วนของจังหวัดตรัง ได้มีการติดตั้งหอเตือนภัยแล้ว ทั้งหมด 11 แห่ง โดยเฉพาะที่บริเวณชายหาดปากเมง ถือเป็นที่สนใจ และมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นสถานที่สำคัญของจังหวัดตรัง ซึ่งมีการติดตั้งหอเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิ ไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจังหวัดตรัง
โดยอยู่ห่างจากบริเวณสามแยกชายหาดปากเมง ประมาณ 500 เมตร แต่เมื่อทางศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้มีการเปิดสัญญาณเตือนพร้อมกันนั้น ปรากฏว่า สัญญาณเตือนที่บริเวณหาดปากเมงมีเสียงเบามาก เช่นเดียวกับการฝึกซ้อมใหญ่เมื่อ 2 ครั้งที่ผ่านมา คือ เมื่อปี 2549 และปี 2550 ที่ผ่านมา
ดังนั้น ทางจังหวัดตรัง จึงได้มีการเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า ด้วยการเปิดเสียงสัญญาณไซเรน จากรถสายตรวจ 191 สภ.สิเกา มาช่วยเสริม เพื่อให้การฝึกซ้อมใหญ่เป็นไปอย่างสมบูรณ์ ซึ่งถือว่าครั้งล่าสุดนี้เป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง โดยมีนักเรียนจากโรงเรียนบ้านหาดปากเมง ประชาชน และนักท่องเที่ยว เข้าร่วมในการฝึกซ้อมจำนวนกว่า 300 คน และใช้เวลาในการฝึกซ้อมประมาณ 30 นาที ก็แล้วเสร็จ
นายสันต์ จันทรวงศ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง กล่าวว่า สำหรับปัญหาของเสียงสัญญาณเตือนภัยที่เบานั้น ทางจังหวัดได้ทำรายงานเสนอไปยังศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติแล้ว ตั้งแต่การฝึกซ้อม 2 ครั้งที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เบื้องต้นมองว่าปัญหาน่าจะเกิดจากเสาสัญญาณมีความสูงที่ยังไม่ได้ระดับ เนื่องจากละแวกดังกล่าวล้อมรอบด้วยต้นสน จึงเป็นการบังทิศทางของคลื่นเสียง
อย่างไรก็ตาม ทราบว่า ทางศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ จะมีการย้ายหอเตือนหาดปากเมง ไปติดตั้งยังพื้นที่ที่มีความเหมาะสมทดแทน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และสำรวจสถานที่ เพื่อเตรียมการให้ความช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยว หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นในอนาคตอย่างเต็ม 100% ต่อไป