พัทลุง – เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งขาว จ.พัทลุง วอนรัฐบาลช่วยเหลือ เนื่องจากขณะนี้เกษตรกรต้องล้มเลิกกิจการไปแล้ว 90% เพราะพิษราคาน้ำมัน และอาหารกุ้งแพง
จากผลกระทบปัญหาราคาน้ำมันแพงได้ขยายความเดือดร้อนเป็นวงกว้างมากขึ้น ล่าสุดเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งขาวในพื้นที่ตำบลเกาะนางคำ อำเภอปากพะยูนกว่า 50 รายต้องเลิกกิจการ และบางรายก็ต้องลดจำนวนบ่อเลี้ยงกุ้งลงเหลือเพียงรายล่ะไม่เกิน 2 บ่อ
นายประดิษฐ์ สันสาคร อายุ 39 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง กล่าวว่า จากเดิมตนเลี้ยงกุ้งจำนวน 7 บ่อ ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ 1 บ่อเท่านั้นเนื่องจากสู้กับต้นทุนการเลี้ยงกุ้งที่เพิ่มสูงขึ้นจากปัญหาราคาน้ำมันและอาหารกุ้งแพงไม่ไหว โดยเฉลี่ยจากเดิมจะมีต้นทุนการเลี้ยงกุ้งอยู่ที่บ่อล่ะ 5 แสนบาท ต่อกุ้งจำนวน 7-8 แสนตัวต่อบ่อ
แต่ปัจจุบันต้นทุนการเลี้ยงกลับเพิ่มขึ้น เฉลี่ยอยู่ที่ 7-8 แสนบาทต่อบ่อ บวกกับราคาจำหน่ายกุ้งที่ไม่ปรับเพิ่มขึ้น ยังคงอยู่ที่ราคา 80-100 บาท ต่อ กก.ตามขนาด ทำให้เพื่อนเกษตรกรในพื้นที่จำนวนหลายรายต้องลดจำนวนบ่อที่เลี้ยงลง โดยเฉพาะเกษตรกรที่ต้องเช่าที่ในการทำบ่อกุ้งส่วนใหญ่ต้องเลิกกิจการไปเลยเพราะประสบปัญหาการขาดทุนอย่างหนัก
จากความเดือดร้อนดังกล่าวเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งจึงวิงวอนขอให้รัฐบาลได้เล็งเห็นถึงปัญหาและเข้ามาให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนด้วย โดยเฉพาะชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ต้องได้รับผลกระทบหนักเพราะเมื่อบ่อกุ้งต้องเลิกกิจการส่งผลทำให้ขาดการจ้างแรงงานในพื้นที่ ซึ่งแรงงานเหล่านั้นจะหันไปประกอบอาชีพทำการประมงออกหาปลาก็ไม่ได้เพราะสัตว์น้ำในทะเลสาบมีจำนวนน้อยลงทุกทีเนื่องจากสภาพปัญหาน้ำเสียและการเอาหินมาปิดปากอ่าวบริเวณท่าเรือน้ำลึกในพื้นที่จังหวัดสงขลา ทำให้น้ำเค็มไม่สามารถเข้ามาหมุนเวียนได้
โดยคาดว่าสัตว์น้ำบางชนิดที่มีจำนวนน้อยอยู่แล้วจะสูญพันธุ์ไปในที่สุด และชาวบ้านส่วนใหญ่จะเกิดความเครียดเพราะไม่มีรายได้เข้ามาจุนเจือครอบครัวในขณะที่ค่าครองชีพแต่ล่ะวันกลับเพิ่มขึ้นเท่าตัว