พัทลุง – จากภาวะราคาน้ำมันแพง ส่งผลให้ราคาวัสดุก่อสร้างปรับขึ้นราคาเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ผู้รับเหมาก่อสร้างในจังหวัดพัทลุงต้องปิดตัวลงกว่า 50 แห่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดพัทลุงจากสภาวะราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบกับร้านจำหน่ายวัสดุสิ่งก่อสร้างใน จ.พัทลุง กว่า 50 แห่ง บางรายต้องปิดตัวไปโดยปริยาย เนื่องจากราคาวัสดุ สิ่งก่อสร้างเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัว โดยเฉพาะค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น อิฐ หิน ปูน ทราย และเหล็กเส้น มีราคาแพงขึ้นกว่า 2 เท่าตัว จากเดิมปูนกระสอบละ 95 บาทเพิ่มขึ้นเป็น 130-150 บาท ส่วนค่าแรงปูกระเบื้องจากตารางเมตรละ 60-70 บาทปัจจุบัน เพิ่มค่าแรงขึ้นเป็นตารางเมตรละ 100-120 บาท หาก ปูผนังยิ่งราคาสูงขึ้นกว่าตารางเมตรละ 140-150 บาท
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในตัวเมืองเบนซิน ลิตรละ 41 กว่าบาท และตามอำเภอรอยนอก ปั๊มหมุน ราคาลิตรละ 45-46 บาท ซึ่งค่าขนส่งและค่ายานพาหนะของช่างที่ใช้รถจักรยานยนต์และรถยนต์มารับจ้างทำงาน ต้องปรับราคาสูงขึ้นเป็นเงาตามตัวไม่เช่นนั้นต้องประสบกับปัญหาขาดทุน
จากการสำรวจพบว่า มีหลายร้านที่กำลังปิดตัวและเลิกกิจการก่อนชั่วคราวเนื่องจากทนแบกสู้กับราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไมไหว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดพัทลุงจากสภาวะราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบกับร้านจำหน่ายวัสดุสิ่งก่อสร้างใน จ.พัทลุง กว่า 50 แห่ง บางรายต้องปิดตัวไปโดยปริยาย เนื่องจากราคาวัสดุ สิ่งก่อสร้างเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัว โดยเฉพาะค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น อิฐ หิน ปูน ทราย และเหล็กเส้น มีราคาแพงขึ้นกว่า 2 เท่าตัว จากเดิมปูนกระสอบละ 95 บาทเพิ่มขึ้นเป็น 130-150 บาท ส่วนค่าแรงปูกระเบื้องจากตารางเมตรละ 60-70 บาทปัจจุบัน เพิ่มค่าแรงขึ้นเป็นตารางเมตรละ 100-120 บาท หาก ปูผนังยิ่งราคาสูงขึ้นกว่าตารางเมตรละ 140-150 บาท
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในตัวเมืองเบนซิน ลิตรละ 41 กว่าบาท และตามอำเภอรอยนอก ปั๊มหมุน ราคาลิตรละ 45-46 บาท ซึ่งค่าขนส่งและค่ายานพาหนะของช่างที่ใช้รถจักรยานยนต์และรถยนต์มารับจ้างทำงาน ต้องปรับราคาสูงขึ้นเป็นเงาตามตัวไม่เช่นนั้นต้องประสบกับปัญหาขาดทุน
จากการสำรวจพบว่า มีหลายร้านที่กำลังปิดตัวและเลิกกิจการก่อนชั่วคราวเนื่องจากทนแบกสู้กับราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไมไหว