พัทลุง – น้ำเสียจากกองขยะเทศบาลเมืองพัทลุงไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลา สร้างวิกฤตแก่ผู้ประกอบการประมงพื้นบ้านอย่างหนัก เผยครอบคลุมถึง 4 อำเภอ ชาวประมงเดือดร้อนแล้วกว่า 500 ราย แถมยังส่งผลกระทบต่อ
สัตว์น้ำหลายหลากชนิด โดยเฉพาะ “โลมาอิรวดี” ฝูงสุดท้ายที่กำลังจะสูญพันธุ์
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมทะเลสาบในพื้นที่ตำบลลำปำ อำเภอ เมืองพัทลุง ร่วมกันเปิดเผยว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพหาปลาในทะเลสาบสงขลามานานกว่า 10 ปี ในอดีตปลาในทะเลสาบมีความอุดมสมบูรณ์ การออกทะเลหาปลาแต่ละครั้งของชาวประมงพื้นบ้าน ริมชายฝั่งจะมีรายได้กว่า 500 บาทต่อเที่ยว
แต่ปัจจุบันสภาพความอุดมสมบูรณ์ของทะเลสาบเปลี่ยนไป ปลาที่เคยหาได้ เช่น ปลาบึก ปลาหัวโม่ง ปลาลิ้นหมา ซึ่งล้วนเป็นพันธุ์ปลาประจำถิ่นกลับหาได้ยากลำบากขึ้น ส่วนหนึ่งมีผลกระทบมาจากกองขยะเทศบาลเมืองพัทลุงที่มาทิ้งอยู่เหนือทะเลสาบในพื้นที่ตำบลลำปำ อำเภอเมืองพัทลุง
โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝนตก หรือช่วงหน้าฝนจะมีผลกระทบโดยตรง น้ำเสียที่เอ่อล้นออกมาจากกองขยะผ่านทางลำคลองลงสู่ทะเลสาบ ส่งผลทำให้สัตว์น้ำตายและเริ่มที่จะสูญพันธ์ อีกทั้งยังส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับชาวประมงพื้นบ้านในแถบอำเภอเมือง อำเภอบางแก้ว อำเภอเขาชัยสน และอำเภอปากพะยูน กว่า 500 ราย
สำหรับกองขยะเทศบาลเมืองพัทลุงที่ตำบลลำปำนั้น จัดเป็นศูนย์รวมขยะของ อบต.และเทศบาลต่างๆ ในจังหวัดพัทลุงกว่า 60 แห่ง และผลกระทบดังกล่าวยังเพิ่มอัตราเสี่ยงในการสูญพันธุ์ของโลมาอิรวดีฝูงสุดท้ายในทะเลสาบสงขลาอีกด้วย