พัทลุง –รถสองแถวในจังหวัดพัทลุงหยุดวิ่งบริการประชาชนแล้วกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ หลังเกิดวิกฤตน้ำมันแพง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า ผู้ประกอบการรถสองแถวในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ที่วิ่งสายพัทลุง-ป่าพะยอม และสายที่วิ่งออกจากตัวเมืองสู่อำเภอรอบนอกกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ได้ทำการหยุดวิ่ง เนื่องจากทนแบกภาวะราคาน้ำมันแพงไม่ไหว ส่วนเจ้าของรถที่ยังขับอยู่ส่วนหนึ่ง ได้ปรับราคาเพิ่มขึ้นจากเดิม 20 บาท เป็น 30 บาท
โดยนายอาคม ธีระกุล อายุ 57 ปี เจ้าของรถโดยสารสายพัทลุง ป่าพะยอม กล่าวว่า จากสภาวะวิกฤติน้ำมันที่ปรับราคาสูง ขึ้น 40 กว่าบาท ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรถสองแถวโดยสารอย่างหนักเนื่องจากต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงจนทำให้เจ้าของรถโดยสารบางราย ไม่มีเงินส่งค่างวดรถกับบริษัท ต้องปล่อยให้รถโดนยึดไป และส่วนหนึ่งก็ต้องหยุดกิจการไปประกอบอาชีพอย่างอื่นแทน
จากเดิมรถสายป่าพะยอมวิ่งรับส่งผู้โดยสารอยู่เกือบประมาณ 100 คัน ตอนนี้เหลือเพียง 25 คัน และวิ่งในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนเท่านั้นคือตอนเช้า และเย็น เนื่องจากในช่วงธรรมดาไม่มีผู้โดยสาร และหากจะหยุดเดินรถก็เป็นห่วงนักเรียนที่ต้องเดินทางไปกลับในแต่ละวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า ผู้ประกอบการรถสองแถวในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ที่วิ่งสายพัทลุง-ป่าพะยอม และสายที่วิ่งออกจากตัวเมืองสู่อำเภอรอบนอกกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ได้ทำการหยุดวิ่ง เนื่องจากทนแบกภาวะราคาน้ำมันแพงไม่ไหว ส่วนเจ้าของรถที่ยังขับอยู่ส่วนหนึ่ง ได้ปรับราคาเพิ่มขึ้นจากเดิม 20 บาท เป็น 30 บาท
โดยนายอาคม ธีระกุล อายุ 57 ปี เจ้าของรถโดยสารสายพัทลุง ป่าพะยอม กล่าวว่า จากสภาวะวิกฤติน้ำมันที่ปรับราคาสูง ขึ้น 40 กว่าบาท ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรถสองแถวโดยสารอย่างหนักเนื่องจากต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงจนทำให้เจ้าของรถโดยสารบางราย ไม่มีเงินส่งค่างวดรถกับบริษัท ต้องปล่อยให้รถโดนยึดไป และส่วนหนึ่งก็ต้องหยุดกิจการไปประกอบอาชีพอย่างอื่นแทน
จากเดิมรถสายป่าพะยอมวิ่งรับส่งผู้โดยสารอยู่เกือบประมาณ 100 คัน ตอนนี้เหลือเพียง 25 คัน และวิ่งในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนเท่านั้นคือตอนเช้า และเย็น เนื่องจากในช่วงธรรมดาไม่มีผู้โดยสาร และหากจะหยุดเดินรถก็เป็นห่วงนักเรียนที่ต้องเดินทางไปกลับในแต่ละวัน