หนองคาย-ผู้ประกอบการทัวร์หนองคายโอดผลกระทบจากวิกฤตน้ำมัน ลูกค้าหายกว่าร้อยละ 50 แถมยังต้องสู้รบกับทัวร์เถื่อน ที่ตัดหน้าแย่งลูกค้าแบบไม่เกรงใจ วอนรัฐเร่งหาทางออกช่วยเหลือทั้งผู้บริโภค และผู้ประกอบการให้อยู่ได้ในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน
นางสุกานดา ยุวนิช ผู้จัดการบริษัทกานตนาทัวร์ เปิดเผยว่า วิกฤตน้ำมันแพงในขณะนี้ส่งผลกระทบกับธุรกิจบริการทัวร์ท่องเที่ยว ที่จังหวัดหนองคายเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เนื่องจากราคาทัวร์ปกติในหนองคายค่อนข้างถูกอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการบัตรผ่านแดนเช้าไป-เย็นกลับ จะไม่สามารถปรับราคาขึ้นได้เลย เพราะมีหลายบริษัทยังคงราคาเดิม หากเราจะเพิ่มราคาก็ไม่ได้ ลูกค้าก็มีสิทธิเลือกสินค้าที่ถูกกว่า ทำให้ลูกค้าที่มีจำนวนลดลงอยู่แล้วจากราคาเพิ่ม หากมีตัวเลือกที่ราคาถูกกว่าลูกค้าก็จะหนีหายหมด
ทั้งนี้ในช่วงที่ราคาน้ำมันยังไม่แพงมากเช่นนี้ แต่ละวันจะมีลูกค้ามาใช้บริการท่องเที่ยวกับบริษัททัวร์จำนวนมาก เนื่องจากการไปเที่ยวที่ลาวจะมีค่าใช้จ่ายไม่ค่อยสูง แต่พอเกิดวิกฤตน้ำมันแพง ลูกค้าก็หายไปประมาณร้อยละ 50 ซึ่งเข้าใจว่าลูกค้าต้องมีการพิจารณาว่าในการเดินทางข้ามไปเที่ยวประเทศลาวนั้นจะต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรเท่าไหร่ ลูกค้าก็จะเซฟตัวเองในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ย้อนไปเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา การให้บริการลูกค้าทัวร์ของบริษัท หากมีลูกค้าจองทัวร์จำนวน 40 คน ไปเที่ยวที่ประเทศลาวแบบเช้าไปเย็นกลับ ทางบริษัทจะคิดราคาคนละ 550 บาท ซึ่งรวมค่าใช้จ่าย ค่าบัตรผ่านแดน ค่าอาหารกลางวัน 1 มื้อ ค่ารถนำเที่ยว ค่าธรรมเนียมด่าน ค่าไกด์ลาว ทุกอย่างเบ็ดเสร็จ เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วทางบริษัททัวร์จะมีรายได้คิดเป็นกำไรประมาณคนละ 50- 70 บาท
ในขณะนี้ทางลาวมีการปรับขึ้นค่ารถ ค่าอาหาร แต่ทัวร์ไทยยังต้องขายราคาเดิม กำไรที่ได้ก็ลดลงเหลือประมาณ คนละ 20-30 บาท คือหายไปครึ่งต่อครึ่ง ผู้ประกอบการทัวร์ตอนนี้พยายามคงราคาเดิม ไม่ลดราคาลงไปกว่านี้ แต่จะค่อย ๆเพิ่มกับกลุ่มลูกค้าใหม่ และต้องชี้แจงให้ลูกค้าเข้าใจว่าต้นทุนเพิ่ม ผู้ประกอบการเริ่มขาดทุน แต่ต้องพิจารณากันอีกครั้งว่าลูกค้าจะสามารถรับการขึ้นราคาได้หรือไม่
นอกจากนี้ผู้ประกอบการทัวร์ยังประสบสู้กับทัวร์เถื่อนที่ไม่จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัท และไม่จ่ายภาษี ที่เริ่มจะมีมากขึ้นในพื้นที่จังหวัดหนองคาย ทำให้ธุรกิจทัวร์ที่จดทะเบียนมีใบอนุญาตถูกต้อง ซึ่งมีอยู่ 35 บริษัท ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากในแต่ละวันหากทัวร์เถื่อนได้กำไรคนละ 10-20 บาท ก็สามารถอยู่ได้ ทัวร์เถื่อนมักจะตัดราคากันเอง และเป็นปัญหากับทัวร์ถูกกฎหมายเป็นอย่างมาก ลูกค้าก็จะหันไปใช้บริการทัวร์เถื่อนมากขึ้น
ถึงแม้ว่าคุณภาพการให้บริการจะต่างกัน แต่ลูกค้าที่ใช้บริการทัวร์เถื่อนจะเป็นประเภทลูกค้าขาจร มาเที่ยวครั้งเดียวแล้วไม่มาอีก
นางสุกานดา กล่าวอีกว่า รถยนต์ที่ใช้ในธุรกิจทัวร์ ยังคงใช้น้ำมัน ไม่ได้เปลี่ยนเป็นพลังงานทดแทนรูปแบบอื่น เนื่องจากในพื้นที่จังหวัดหนองคายยังไม่มีปั๊มบริการแก๊ส NGV ประกอบกับผู้ประกอบการยังไม่มั่นใจในระบบการติดตั้งแก๊สหากมีการดัดแปลงติดตั้งเครื่องยนต์ ว่าจะปลอดภัยหรือไม่
ส่วนรูปแบบในการเช่ารถตู้ของผู้บริโภค ชมรมรถตู้ก็จะเช่าแบบที่ลูกค้าต้องจ่ายค่าน้ำมันเอง จึงทำให้ผู้ประกอบการรถตู้อยู่ได้ ซึ่งก็พบว่าจากเดิมที่ลูกค้าเช่ารถตู้ประมาณ 7 วัน ตอนนี้เหลือเพียง 3 วันเป็นอย่างมา สังเกตว่าลูกค้าเองก็ปรับพฤติกรรมในการเช่าเหมารถตู้เช่นเดียวกันเพื่อประหยัดเงินในกระเป๋า
รัฐบาลควรพิจารณาช่วยเหลือผู้ประกอบการ ปัญหาน้ำมันเป็นวิกฤตทั่วโลก รัฐบาลจะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบการอยู่ได้ หวังว่ารัฐบาลจะมีทางออกที่ดีให้กับประชาชนและผู้ประกอบการ หากมีการปรับราคาขึ้นแล้วผู้บริโภคและผู้ประกอบการอยู่ได้ทั้งสองฝ่ายก็จะเป็นการดี ไม่เช่นนั้นคงจะมีผู้ประกอบการทัวร์หรือธุรกิจประเภทอื่นค่อย ๆ เจ๊งเพราะแบกรับภาระไม่ไหว
