ศึก อบจ.ตรัง ปชป.ส่ง ส.จ.ลงแข่งกับทีมน้องชาย “ชวน”-“สาทิตย์” แจงดัดหลังคนแปรพักตร์

ตรัง – ศึกเลือกตั้ง อบจ.ตรัง เข้มข้น ประชาธิปัตย์ ส่ง ส.จ.ลงแข่งชิงตำแหน่ง กับทีมกิจปวงชน ของน้องชายอดีตหัวหน้าพรรค ขณะที่ “สาทิตย์” แจงส่งเพียง 4 เขต ยันไม่ใช่ชนวนความขัดแย้ง เผยเพียงแต่ต้องการให้คนที่เคยแปรพักตร์ไปเข้ากับไทยรักไทยบางคนได้จดจำ

วันนี้ (19 พ.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนกรณีการส่ง ส.จ.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ลงแข่งกับทีมกิจปวงชน ที่นำโดย นายกิจ หลีกภัย นายก อบจ.ตรัง 2 สมัย และพี่ชาย นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ว่า การเลือกตั้ง อบจ.ตรัง ครั้งนี้ ทางพรรคประชาธิปัตย์ ส่งผู้สมัคร ส.จ. เฉพาะใน 6 เขตเลือกตั้ง และใน 6 คนนั้น ก็ต้องแข่งกับผู้สมัคร ส.จ.ในนามทีมกิจปวงชน เพียง 4 เขตเลือกตั้ง ซึ่งผลการเลือกตั้งที่จะออกมาในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ จึงไม่ส่งผลกระทบต่อการดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ตรัง ของ นายกิจ หลีกภัย และทีมกิจปวงชน เนื่องจากไม่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นการแข่งขันกัน และไม่อาจจะเป็นชนวนความขัดแย้งให้เกิดขึ้นได้

นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ทางพรรคประชาธิปัตย์ ได้ตัดสินใจส่งผู้สมัคร ส.จ.ใน 6 เขตเลือกตั้งดังกล่าว เป็นเรื่องเฉพาะในอำเภอห้วยยอด รัษฎา และวังวิเศษ เท่านั้น อันเป็นผลมาจากเรื่องเก่าๆ ที่ค้างคาใจผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อครั้งที่ต้องต่อสู้กับอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย คนหนึ่งในพื้นที่ เนื่องจากขณะนั้น มี ส.จ.ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ บางคนไปช่วยหาเสียงให้พรรคไทยรักไทย พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์ นายชวน และพรรคประชาธิปัตย์ อย่างรุนแรง

โดยเฉพาะเหตุการณ์สำคัญที่ฝังใจคนตรัง และพรรคประชาธิปัตย์ ก็คือ เมื่อคราวที่ นายชวน และแกนนำของพรรค ไปปราศรัยที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่กลับถูกผู้สนับสนุนพรรคไทยรักไทย บางกลุ่มรุมทำร้าย สร้างความไม่พอใจให้ผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ในจังหวัดตรัง อย่างยิ่ง จนถึงกับมีการเดินขบวนไปประท้วงหน้าที่ทำการพรรคไทยรักไทย ของ นายทวี สุระบาล ที่อำเภอห้วยยอด ซึ่งครั้งนั้นนำโดย นายสาธร วงศ์หนองเตย น้องชายของตน ร่วมกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีรายชื่อลงสมัคร ส.จ.ในนามพรรคครั้งนี้ และในครั้งนั้นก็มีอดีต ส.จ. ของพรรคประชาธิปัตย์ บางคน ไปยืนร่วมกับ นายทวี สุระบาล ผู้สมัคร ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่หันไปสังกัดพรรคไทยรักไทย และมีท่าทีต่อต้านการประท้วงอย่างชัดเจน

นายสาทิตย์ กล่าวด้วยว่า ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ หากกลุ่มบุคคลดังกล่าวไปลงสมัคร ส.จ.ในนามทีมกิจปวงชน แล้ว จะให้พวกตนตอบประชาชนในพื้นที่ทั้ง 3 อำเภออย่างไร พร้อมยืนยันการส่งผู้สมัคร ส.จ.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ นั้น เป็นการเสนอของคณะกรรมการสาขาพรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งที่ 1 ไม่ใช่เกิดจาก ส.ส.พื้นที่ และพรรคก็ไม่ได้ต้องการแข่งขันกับ นายกิจ เพียงแต่เป็นเรื่องกรรมเก่าที่ต้องชดใช้ของคนบางคนเท่านั้น

สำหรับแนวทางการหาเสียงของผู้สมัคร ส.จ.ในนามพรรคประชาธิปัตย์นั้น จะใช้วิธีการเคาะประตูบ้าน และเปิดเวทีปราศรัย เพื่อชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะเชิญกรรมการบริหารพรรคในส่วนกลางมาช่วยด้วย เพื่อยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ กับ นายกิจ ไม่ได้มีความขัดแย้งกัน ส่วนที่มีผู้สมัคร ส.จ.บางคน ในนามพรรคประชาธิปัตย์ นำโปสเตอร์หาเสียงที่มีภาพ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และภาพ นายชวน มาขึ้นหาเสียงนั้น เป็นสิทธิ์ที่ผู้สมัคร ส.จ. ของพรรคประชาธิปัตย์ ทุกคน ทุกจังหวัด สามารถทำได้ ซึ่งเรื่องนี้ทั้ง นายชวน และ นายกิจ ได้โทรศัพท์มาสอบถามแล้ว แต่ตนก็ได้อธิบายให้เกิดความเข้าใจแล้วเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก ส.จ.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ พ่ายแพ้ต่อ ส.จ.ในนามทีมกิจปวงชน จะถือว่าพรรคประชาธิปัตย์ พ่ายแพ้หรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะการต่อสู้ทางการเมือง การแพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดา และไม่ใช่สาระหลัก ซึ่งถ้าผู้สมัคร ส.จ.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ชนะ ก็ถือว่าประชาชนได้ทำในสิ่งที่ค้างคาใจแล้ว แต่ขณะนี้ก็ยังประเมินไม่ได้ว่าจะแพ้ชนะสักกี่ที่นั่ง อย่างไรก็ตาม ในการเปิดเวทีปราศัยใหญ่ของผู้สมัคร ส.จ.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ นั้น แม้พวกตนจะประกาศชัดเจนว่า สนับสนุน นายกิจ นั่งนายก อบจ.ตรัง สมัยที่ 3 แต่ก็คงไม่เชิญ นายกิจ มาหาเสียงบนเวทีร่วมกันอย่างแน่นอน