ตรัง – นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์แถลงข่าว กรณีโปสเตอร์และบัตรหาเสียง ของผู้สมัคร ส.อบจ.ที่นำรูปตนเองลงในโปสเตอร์ เกรงประชาชนเกิดความสับสน
วันนี้ (30 พ.ค.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย ผู้สมัคร ส.อบจ.เขตพื้นที่อำเภอห้วยยอด ทั้ง 5 เขตเลือกตั้ง และผู้สมัคร ส.อบจ.เขตพื้นที่อำเภอวังวิเศษ และอำเภอรัษฎา ในนามทีมกิจปวงชน ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่บ้านพักนายชวน หลีกภัย บนถนนวิเศษกุล ในเขตเทศบาลนครตรัง เกี่ยวกับกรณีโปสเตอร์และบัตรเล็กหาเสียง ของผู้สมัคร ส.อบจ.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ในเขตพื้นที่ดังกล่าวนั้น ได้นำรูปนายชวน หลีกภัย ติดร่วมกับรูปของผู้สมัคพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถือเป็นการสร้างความสับสนให้กับพี่น้องประชาชนชาวตรัง
นายชวน หลีกภัย กล่าวว่า ตนได้มีการพูดคุยกับ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย มาแล้ว 3-4 ครั้ง เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยที่ นายสาทิตย์ ก็มีความเห็นเช่นเดียวกัน และรับปากว่าจะพูดคุยกับผู้สมัครทั้งหมดในเรื่องดังกล่าว และจะนำรูปตนลงทั้งหมด เนื่องจากการเมืองท้องถิ่นเป็นเรื่องของตัวบุคคล ไม่ควรให้เกิดความแตกแยก และไม่ควรให้กระทบกับการเมืองระดับชาติ และตนก็มองว่าทั้ง 2 ฝ่ายเป็นพวกเดียวกัน จึงไม่ควรสร้างปัญหาให้เกิดความแตกแยกแต่อย่างใด
นายชวน กล่าวอีกว่า แต่ตนเพิ่งมาเห็นที่ นายสาทิตย์ ให้สัมภาษณ์ว่าการเอารูปใครขึ้นนั้น เป็นสิทธิของผู้สมัคร แต่จริงแล้วต้องมีการขออนุญาตอย่างชัดเจน และตนก็ไม่เคยอนุญาตเพราะเกรงว่าประชาชนจะเกิดความสับสน และล่าสุด เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 30 พฤษภาคม 2551 ตนก็ได้คุยโทรศัพท์กับ นายสาทิตย์ ถึงเรื่องดังกล่าว ว่ายังคงมีผู้สมัครนำรูปตนขึ้นอีกนั้น ให้ดำเนินการนำลงให้เรียบร้อย รวมทั้งบัตรเล็กแนะนำตัวของผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ด้วย เนื่องจากขณะนี้เกิดความสับสนกับประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่ง นายสาทิตย์ ก็รับปากว่า จะเดินทางลงมาดูด้วยตนเอง และจะพูดคุยกับผู้สมัครทั้งหมดให้เข้าใจ
ต่อข้อถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า หากผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันจะไม่นำป้ายลงนั้น นายชวนจะดำเนินการอย่างไร โดยที่ นายชวน ยืนยันว่า นายสาทิตย์ รับปากแล้วว่าจะดูแลด้วยตนเอง ก็น่าจะไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งการที่ผู้สมัครจะนำรูปใครลงคู่นั้น ด้วยหลักการแล้วจะต้องมีการขออนุญาต เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
นอกจากนี้ นายชวน ยังยืนยันว่า ตนเองจะไม่ลงพื้นที่ เพื่อตอบคำถามและแก้ไขความสับสนของประชาชนในเรื่องที่เกิดขึ้น และยืนยันว่า ขณะนี้ไม่ได้เกิดความแตกแยก เพียงแต่เกิดความสับสนของประชาชนเท่านั้น ส่วนเรื่องของการเปิดเวทีปราศรัยนั้น ยังไม่มีการพูดคุยแต่อย่างใด
