ตรัง – ศึกชิง อบจ.เมืองหมูย่างแนวโน้มมันหยด “สาทิตย์” ดันตั้งทีมผู้สมัคร ส.จ.ลงแข่งในนามพรรคประชาธิปัตย์ เผยจะเป็นการชนช้างทีมเดิมภายใต้การนำของ “กิจ หลีกภัย” พี่ชายอดีตนายกฯชวน
จากกรณีที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ตรัง ว่า อาจจะมี ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ บางคนจะขอใช้ชื่อพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งทีม เพื่อส่งผู้ลงสมัครสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ตรัง ลงแข่งขันด้วย เพราะไม่พอใจการจัดสรรตัวผู้ลงสมัคร ส.อบจ.ของทีมกิจปวงชนที่มี นายกิจ หลีกภัย อดีตนายก อบจ.ตรัง 2 สมัย และพี่ชายของ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เป็นหัวหน้าทีม
โดยเฉพาะเขต อ.ห้วยยอด อ.วังวิเศษ และ อ.รัษฎา ซึ่งมีจำนวนเก้าอี้ทั้งหมดรวมกัน 9 ที่นั่ง เพราะผู้นำชุมชนบางคนได้ช่วยงานพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่มาโดยตลอด แต่สุดท้ายกลับไม่มีชื่อลงสมัคร ส.จ.ในนามทีมกิจปวงชนนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดตรัง พรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งที่ 1 กล่าวว่า การเมืองในจังหวัดตรังเป็นการเมืองที่มี 2 ขั้วมาโดยตลอด คือ ฝ่ายที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ กับฝ่ายที่ไม่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนชาวตรังให้การสนับสนุนด้วยดีตลอด ทั้งในระดับชาติและในระดับท้องถิ่น
โดยในการเลือกตั้งนายก อบจ.ตรัง และ ส.อบจ.ครั้งที่แล้ว นายกิจ หลีกภัย ลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์อย่างเต็มตัว แต่พอมาถึงการเลือกตั้ง อบจ.ในครั้งนี้ นายกกิจเลือกที่จะไม่ขอใช้ชื่อพรรคประชาธิปัตย์ในการลงสมัคร ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ที่จะสามารถกระทำได้
อย่างไรก็ตาม ผลการพิจารณาผู้ลงสมัคร ส.อบจ.ของทีมกิจปวงชนในบางเขตเลือกตั้ง กลับมีรายชื่อของผู้ลงสมัครบางคนซึ่งเป็นที่น่ากังขา ทั้งนี้ เพราะต้องยอมรับว่า นายกิจ กับพรรคประชาธิปัตย์ นั้น เป็นเนื้อเดียวกัน ขณะที่ อ.ห้วยยอด อ.รัษฎา และ อ.วังวิเศษ ก็เป็นพื้นที่ต่อสู้เข้มข้นในการเลือกตั้งระดับชาติ กับอดีต ส.ส.ที่ย้ายไปจากพรรคประชาธิปัตย์
และว่า ที่ผู้ลงสมัครสมาชิก ส.อบจ.ของทีมกิจปวงชนในพื้นที่ทั้ง 3 อำเภอ ก็มีจำนวนถึง 5 คน ที่เคยเป็นคนสนับสนุนอดีต ส.ส.คนดังกล่าว เมื่อเป็นเช่นนี้คนของพรรคประชาธิปัตย์ จึงจำเป็นที่จะต้องตั้งข้อสังเกตหรือตั้งคำถามขึ้นมา
นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวไม่ได้เป็นผู้เริ่มต้นพูดเรื่องนี้ และก็ไม่ได้เริ่มต้นจากผู้ที่จะลงสมัคร ส.อบจ. แต่เกิดจากคณะกรรมการสาขาพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นคนตั้งข้อสังเกต หรือตั้งคำถามขึ้นมา เพราะมีว่าที่ผู้สมัคร ส.อบจ.บางคนได้ไปพูดจาเยาะเย้ยถากถางให้คนของพรรคประชาธิปัตย์ได้ยินว่า ถึงไม่ได้เชียร์พรรคประชาธิปัตย์ แต่ก็ได้ลงสมัคร ส.อบจ.ในนามทีมกิจปวงชน
“แต่มีการพยายามบิดเบือนว่า ผมและผู้ที่จะลงสมัคร ส.อบจ.นำเรื่องนี้ออกมาพูด เพื่อสร้างกระแสว่าเกิดความไม่พอใจกันขึ้นในพรรคประชาธิปัตย์ โดยส่วนตัวยอมรับว่าหลังคณะกรรมการสาขาพรรคนำเรื่องนี้มาพูดกัน ผมก็ได้อาสาไปพูดคุยกับนายกิจมาแล้ว 2-3 ครั้ง” นายสาทิตย์ กล่าวและว่า
ทั้งนี้ ก็เพื่อสะท้อนให้ได้รับทราบว่าคนของพรรคประชาธิปัตย์คิดอย่างไรต่อเรื่องนี้ พร้อมเสนอว่าจะเป็นเรื่องที่ดีมาก หาก นายกิจ จะทบทวนรายชื่อผู้ลงสมัคร ส.อบจ.บางคน โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องเอาคนที่ช่วยงานของตนมาลงสมัคร หรือจะปล่อยให้ลงสมัครในนามอิสระเพื่อแข่งขันกันเองก็ได้ แต่สุดท้ายนายกิจก็ยืนยันในการตัดสินใจดังกล่าว
ล่าสุด คณะกรรมการสาขาพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการประชุมหารือกันแล้ว มีมติว่าจะสะท้อนปัญหาดังกล่าวเสนอให้คณะกรรมการบริหารพรรคในส่วนกลางได้รับทราบ พร้อมเสนอให้พิจารณาส่งผู้ลงสมัคร ส.อบจ.จังหวัดตรัง ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรคงต้องติดตามกันต่อไป