ร้องสื่อนายทุนกินป่าไม้อย่างหนักที่ตรัง

ตรัง – ชาวเมืองหมูย่างร้องเรียนสื่อ มีกลุ่มนายทุนบุกรุกป่าอย่างหนักในเขต อ.ปะเหลียน จ.ตรัง พร้อมถ่ายภาพของกลางเพื่อเป็นการยืนยัน

วันนี้ (20 มี.ค.) ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 14 บ้านเจ้าพะ ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ได้ส่งภาพถ่ายพร้อมกับรายละเอียดของการบุกรุกทำลายป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด บนเทือกเขาบรรทัด ซึ่งเป็นพื้นที่แหล่งต้นน้ำที่สำคัญที่สุดจังหวัดตรัง และจังหวัดใกล้เคียง เช่น พัทลุง สตูล มาให้ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง ได้รับทราบถึงความจริงที่กำลังเกิดขึ้น

ทั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่ป่าไม้ที่เคยอุดมสมบูรณ์ได้ถูกนายทุน ว่าจ้างให้ชาวบ้านเข้าไปบุกรุกทำลาย ด้วยการตัดโค่นและเผาปรนแล้ว ประมาณ 400-500 ไร่ โดยได้มีการตัดโค่นและเผาปรนเป็นจุดๆ ซึ่งแต่ละจุดจะกินพื้นที่ตั้งแต่ 50-100 ไร่ และมีลักษณะของการบุกรุกแผ้วถางป่า เพื่อใช้เป็นพื้นที่ทางด้านการเกษตร เช่น การปลูกยางพารา หรือปาล์มน้ำมัน

บางจุดจะมีการบุกรุกพื้นที่ไปจนเกือบจะถึงยอดเขา และมีการตัดโค่นต้นไม้ใหญ่จนโล่งเตียน ขณะที่บางจุดได้มีการโค่นต้นไม้ไปแล้วระยะหนึ่ง เพื่อที่จะรอการเผาปรน ส่วนบางจุดก็มีลักษณะที่เพิ่งตัดโค่นต้นไม้ไปใหม่ๆ ซึ่งมีทั้งต้นไม้ขนาดใหญ่และขนาดเล็กปะปนกันหลายชนิด

สำหรับพื้นที่ป่าบนเทือกเขาบรรทัด ได้มีการบุกรุกแผ้วถางมาเป็นระยะเวลานานแล้ว แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในเขตรับผิดชอบ จะได้มีการเข้าตรวจสอบและดูแลพื้นที่อยู่เป็นประจำ แต่ไม่เคยตรวจพบการบุกรุกแผ้วถาง และสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ เนื่องจากชาวบ้านที่รับจ้างจะรู้จักเวลาและเส้นทาง ในการเข้าไปตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ทำให้ชาวบ้านที่มีจิตใจอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่ ต้องอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกและพูดอะไรไม่ได้

นอกจากนั้น เมื่อมีชาวบ้านรายใดพบเห็นพฤติกรรมการบุกรุกแผ้วถางป่า แล้วโทรศัพท์เข้าไปแจ้งยังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ กลับได้คำตอบมาว่า ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ เนื่องจากไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบ ขณะที่ชาวบ้านเองก็ไม่กล้าที่จะกระทำอย่างหนึ่งอย่างใด เพราะเกรงกลัวต่ออิทธิพลของนายทุนผู้จ้างวาง โดยทราบว่าชาวบ้านที่รับจ้างเข้าไปบุกรุกแผ้วถางป่านั้น จะได้ค่าตอบแทนในราคาเหมา 10 ไร่ 30,000 บาท หรือประมาณไร่ละ 3,000 บาท

ปัจจุบันนี้ การบุกรุกแผ้วถางบนเทือกเขาบรรทัด สามารถทำได้ง่าย เนื่องจากเครื่องเลื่อยยนต์ขนาดเล็กที่หาซื้อมาจากประเทศเพื่อนบ้านนั้น มีขนาดกะทัดรัด และมีราคาถูก จึงสะดวกต่อการลักลอบนำเข้าไปตัดไม้ทำลายป่า ทั้งนี้ นายทุนจะเป็นผู้ที่จัดหาเครื่องเลื่อยยนต์มาให้ และจะมีการกระทำกันเป็นขบวนการ หากชาวบ้านที่รับจ้างพลาดพลั้งถูกจับกุม นายทุนก็จะส่งคนมาประกันตัวให้เรียบร้อย จึงทำให้ชาวบ้านที่รับจ้างเกิดความพอใจและทำงานอย่างเต็มกำลัง เพราะได้ค่าตอบแทนสูงและมีความปลอดภัยด้วย

อย่างไรก็ตาม พื้นที่ที่กำลังถูกแผ้วถางอย่างหนักในขณะนี้ ยังเป็นที่อยู่อาศัยของชาวซาไก ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดตรัง ประมาณ 40-50 คน สำหรับพฤติกรรมของชาวซาไกนั้น จะอยู่อาศัยภายในป่าลึก โดยจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนเมือง และใช้ชีวิตด้วยการหาของป่า แต่ขณะนี้พฤติกรรมของชาวซาไกต้องเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากเริ่มจะไม่มีพื้นที่ไว้อยู่อาศัยและดำรงชีวิต หลังจากที่ถูกนายทุนเข้าไปตัดไม้ทำลายป่า จึงเสี่ยงต่อการที่จะทำให้ชาวซาไกในพื้นที่จังหวัดตรังต้องสูญพันธุ์ไปอย่างยิ่ง