นครศรีธรรมราช – ชาวนาในพื้นที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชฟื้นฟูนาร้างเป็นนาข้าว ขณะที่ชาวบ้านบุกถึงตัว รมช.เกษตรฯ ฟ้องขายข้าวไม่ได้ราคา
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (16 พ.ค.) นายสมพัฒน์ แก้วพิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานเปิดงานการฟื้นฟูพื้นที่นาร้างเพื่อปลูกข้าว โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่บ้านเสม็ดเอน ม.7 ต.คลองกระบือ อ.ปากพนัง นครศรีธรรมราช
ทั้งนี้ พื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังมีพื้นที่นาร้าง ซึ่งประชาชนได้ทิ้งร้างไม่ได้ทำนาเหมือนในอดีตถึง 70,258 ไร่ และในจำนวนนี้เป็นเขตพื้นที่ปลูกข้าวเพื่อการค้าโดยมีการฟื้นฟูพื้นที่นาร้างโดยสถานีพัฒนาที่ดินนครศรีธรรมราช ในปี 2551 จำนวน 20,000 ไร่ และฟื้นฟูที่นาที่ได้ผลผลิตไม่เต็มศักยภาพของพื้นที่ 2,382 ไร่
โดยมีการจัดทำระบบโครงสร้างการพัฒนาที่ดินหลายรูปแบบด้วยกันรวมถึงการส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ข้าวพันธุ์ดีที่เหมาะสมในการปลูกการรักษาที่ถูกวิธี และให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เข้ามารองรับด้านการตลาดเพื่อที่จะพุ่งเป้าให้พื้นที่นาร้างในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังหมดไปมีการใช้ประโยชน์ที่ดินเต็มศักยภาพ และพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังได้กลับมาเป็นแหล่งอู่ข้าวอู่น้ำเหมือนในอดีต ซึ่งหลังจากที่ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ทำพิธีเปิดงานแล้วได้มีการขับรถไถนาในการไถกลบซังข้าวเพื่อลดภาวะโลกร้อนด้วย
ขณะที่ รมช.เกษตรฯ ได้เดินทักทายประชาชนที่มาร่วมต้อนรับอยู่นั้นได้มี นายสุพจน์ กุ้ยเซ่งอายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 394 ม.3 ต.ปากพนังฝั่งตะวันตก อ.ปากพนัง นครศรีธรรมราชได้เข้ามาร้องเรียนต่อ รมช.ในเรื่องของราคาข้าว โดยระบุว่า ตนเองและชาวนาในพื้นที่นครศรีธรรมราชขายข้าว ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมาขายข้าวพันธ์ชัยนาทได้เพียงเกวียนละ 9,000 บาทเท่านั้นในขณะที่รัฐบาลประกาศประกันราคาข้าวเกวียนละ 14,000 บาท แต่ชาวนาในนครศรีธรรมราชไม่เคยขายข้าวได้ในราคาที่รัฐบาลประกาศ
โดยขายข้าวได้เพียงเกวียนละ 9,000 บาทเท่านั้น ในความชื้นไม่เกิน 15% ตามที่กำหนดซึ่งการขายได้มีการขายกับโรงสีในพื้นที่ ซึ่งไม่เคยขายได้ตามที่รัฐบาลประกาศประกันราคาอยากจะให้มีการช่วยเหลือเพราะต้นทุนในการผลิตตอนนี้ก็อยู่ที่เกวียนละ 7,000 บาทแล้วแต่ขายได้ในราคาเท่านี้ไม่คุ้มทุน จึงอยากจะให้รัฐบาลช่วยดูแลปัญหาตรงนี้ด้วยอย่ามองว่าเป็นคนใต้แล้วไม่สนใจ เพราะทุกคนก็เป็นคนไทยด้วยกัน
หลังจากที่ รมช.เกษตรฯ ได้รับฟังปัญหาแล้วได้มอบหมายให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชในการติดตามแก้ปัญหาในเรื่องนี้ต่อไปสร้างความพอใจแก่ชาวนาที่สอบถามปัญหา จากนั้นคณะของ รมช.เกษตรฯ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังต่อไป
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (16 พ.ค.) นายสมพัฒน์ แก้วพิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานเปิดงานการฟื้นฟูพื้นที่นาร้างเพื่อปลูกข้าว โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่บ้านเสม็ดเอน ม.7 ต.คลองกระบือ อ.ปากพนัง นครศรีธรรมราช
ทั้งนี้ พื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังมีพื้นที่นาร้าง ซึ่งประชาชนได้ทิ้งร้างไม่ได้ทำนาเหมือนในอดีตถึง 70,258 ไร่ และในจำนวนนี้เป็นเขตพื้นที่ปลูกข้าวเพื่อการค้าโดยมีการฟื้นฟูพื้นที่นาร้างโดยสถานีพัฒนาที่ดินนครศรีธรรมราช ในปี 2551 จำนวน 20,000 ไร่ และฟื้นฟูที่นาที่ได้ผลผลิตไม่เต็มศักยภาพของพื้นที่ 2,382 ไร่
โดยมีการจัดทำระบบโครงสร้างการพัฒนาที่ดินหลายรูปแบบด้วยกันรวมถึงการส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ข้าวพันธุ์ดีที่เหมาะสมในการปลูกการรักษาที่ถูกวิธี และให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เข้ามารองรับด้านการตลาดเพื่อที่จะพุ่งเป้าให้พื้นที่นาร้างในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังหมดไปมีการใช้ประโยชน์ที่ดินเต็มศักยภาพ และพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังได้กลับมาเป็นแหล่งอู่ข้าวอู่น้ำเหมือนในอดีต ซึ่งหลังจากที่ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ทำพิธีเปิดงานแล้วได้มีการขับรถไถนาในการไถกลบซังข้าวเพื่อลดภาวะโลกร้อนด้วย
ขณะที่ รมช.เกษตรฯ ได้เดินทักทายประชาชนที่มาร่วมต้อนรับอยู่นั้นได้มี นายสุพจน์ กุ้ยเซ่งอายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 394 ม.3 ต.ปากพนังฝั่งตะวันตก อ.ปากพนัง นครศรีธรรมราชได้เข้ามาร้องเรียนต่อ รมช.ในเรื่องของราคาข้าว โดยระบุว่า ตนเองและชาวนาในพื้นที่นครศรีธรรมราชขายข้าว ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมาขายข้าวพันธ์ชัยนาทได้เพียงเกวียนละ 9,000 บาทเท่านั้นในขณะที่รัฐบาลประกาศประกันราคาข้าวเกวียนละ 14,000 บาท แต่ชาวนาในนครศรีธรรมราชไม่เคยขายข้าวได้ในราคาที่รัฐบาลประกาศ
โดยขายข้าวได้เพียงเกวียนละ 9,000 บาทเท่านั้น ในความชื้นไม่เกิน 15% ตามที่กำหนดซึ่งการขายได้มีการขายกับโรงสีในพื้นที่ ซึ่งไม่เคยขายได้ตามที่รัฐบาลประกาศประกันราคาอยากจะให้มีการช่วยเหลือเพราะต้นทุนในการผลิตตอนนี้ก็อยู่ที่เกวียนละ 7,000 บาทแล้วแต่ขายได้ในราคาเท่านี้ไม่คุ้มทุน จึงอยากจะให้รัฐบาลช่วยดูแลปัญหาตรงนี้ด้วยอย่ามองว่าเป็นคนใต้แล้วไม่สนใจ เพราะทุกคนก็เป็นคนไทยด้วยกัน
หลังจากที่ รมช.เกษตรฯ ได้รับฟังปัญหาแล้วได้มอบหมายให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชในการติดตามแก้ปัญหาในเรื่องนี้ต่อไปสร้างความพอใจแก่ชาวนาที่สอบถามปัญหา จากนั้นคณะของ รมช.เกษตรฯ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังต่อไป
