ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ประธานสภาเทศบาลเมืองป่าตองไม่บรรจุ 3 ญัตติเร่งด่วน ที่ฝ่ายบริหารเสนอ ในการประชุมสภาเทศบาลป่าตอง ทั้งเรื่องการออกแบบปรับปรุงเรียนบ้านไสน้ำเย็นงบ 5 ล้านบาท โครงการออกแบบถนนสายก 6 ล้านบาท และโครงการศึกษาออกแบบรายละเอียดอุโมงค์เขาป่าตอง 39 ล้านบาท ให้เหตุผลสภาใกล้หมดอายุและไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ด้านฝ่ายบริหารฉะสร้างความเสียหายให้กับคนป่าตอง เพราะเอาเรื่องดังกล่าวมาโยงการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงว่า ในการประชุมสภาเทศบาลเมืองป่าตอง เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมพระพิสิฎฐ์กรณีย์ เทศบาลเมืองป่าตอง อ.กะทู้ จ.เก็ต นายรักษ์ศักดิ์ หนูเชต ประธานสภาเทศบาลเมืองป่าตอง เป็นประธานการประชุมสภาเทศบาลเมืองป่าตอง สมัยสามัญ สมัยที่ 2 ประจำปี 2551 ซึ่งในวาระการประชุม นอกจากวาระประธานแจ้งให้ทราบ การรับรองรายงานการประชุมสภาเทศบาลเมืองป่าตอง สมัยสามัญ สมัยแรก เมื่อวันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2551 ยังมีญัตติขออนุมัติจ่ายขาดเงินสะสมก่อสร้างบ่อสูบ พร้อมเครื่องสูบน้ำและท่อส่งน้ำในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยมีสมาชิกสภาเทศบาลเมืองป่าตอง และฝ่ายบริหาร นำโดยนายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีฯเข้าร่วม
หลังจากประธานได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบ และมีการรับรองรายงานการประชุมแล้ว นายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ได้เสนอขอถอนญัตติขออนุมัติจ่ายขาดเงินสะสมก่อสร้างบ่อสูบพร้อมเครื่องสูบน้ำ และท่อส่งน้ำในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม พร้อมได้สอบถามถึงกรณีที่ประธานสภาฯ ไม่อนุญาตให้บรรจุญัตติจ่ายขาดเงินสะสม 6 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงออกแบบและแก้ไขรายละเอียดบางส่วนของถนนสาย ก
ญัตติจ่ายขาดเงินสะสม 39,680,000 บาท โครงการว่าจ้างที่ปรึกษาทำการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วิศวกรรมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่เชื่อมต่อกะทู้-ป่าตอง (อุโมงค์เขาป่าตอง) เพื่อแก้ไขปรับปรุง เพิ่มมาตรฐานด้านการจราจรและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และนักท่องเที่ยว ที่ใช้เส้นทาง ทางหลวงหมายเลข 4029
และญัตติจ่ายขาดเงินสะสม 5,342,214 บาท ว่าจ้างออกแบบในการก่อสร้างปรับปรุงโรงเรียนบ้านใสน้ำเย็น
ไม่บรรจุ3ญัตติเร่งด่วนที่ฝ่ายบริหารเสนอ
นายรักษ์ศักดิ์ ชี้แจงถึงการไม่บรรจุญัตติ จ่ายขาดเงินสะสม 6 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงออกแบบและแก้ไขรายละเอียดบางส่วนของถนนสาย ก เนื่องจากสภาฯ โดยที่ประชุมไม่อนุมัติในการประชุมนัดที่แล้ว การเสนอเข้ามาใหม่ในครั้งนี้ ยังไม่มีรายละเอียดหรือข้อมูลเพิ่มเติม และเห็นว่ายังไม่มีเหตุสำคัญเร่งด่วน เนื่องจากเทศบาลเมืองป่าตองใกล้หมดวาระ
ส่วนของญัตติจ่ายขาดเงินสะสม 39,680,000 บาท โครงการว่าจ้างที่ปรึกษาทำการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วิศวกรรมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่เชื่อมต่อกะทู้-ป่าตองนั้น เนื่องจากเป็นการกระทำที่มีผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในท้องถิ่น ในสาระสำคัญตามมาตรา 287 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 สมควรที่จะต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อน
ญัตติจ่ายขาดเงินสะสม 5,342,214 บาท ว่าจ้างออกแบบในการก่อสร้างปรับปรุงโรงเรียนบ้านใสน้ำเย็น เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่ายังไม่มีเรื่องเร่งด่วน เนื่องจากสภาเทศบาลใกล้หมดวาระ ประกอบกับโรงเรียนยังไม่ได้รับโอนอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม นายเปี่ยน ได้พยายามชี้แจงเหตุผลถึงความจำเป็นของแต่ละโครงการ และขอให้บันทึกในการประชุมว่า ให้มีการนำญัตติดังกล่าวไปไว้ในการประชุมสมัยต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีสมาชิกสภาฯ ท่านหนึ่งได้สอบถามกรณีงบประมาณ 6 ล้านบาท ที่จะออกแบบปรับปรุงโรงเรียนไสน้ำเย็น ซึ่งเรื่องของการศึกษาถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยนายรักษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ในเรื่องของการศึกษานั้นเป็นเรื่องสำคัญ และที่ผ่านมาเมื่อมีการนำเสนอโครงการเกี่ยวกับการศึกษาก็ไม่เคยขัดข้อง แต่เนื่องจากยังไม่มีการมอบโรงเรียนมาให้เทศบาลอย่างเป็นทางการจึงไม่สามารถดำเนินการได้ พร้อมกล่าวว่า เนื่องจากสภาฯ และผู้บริหารเหลือระยะเวลาในการทำงานอีกประมาณ 1 เดือน ดังนั้น ในเรื่องเหล่านี้ควรจะให้เป็นหน้าที่ของทางคณะผู้บริหารชุดใหม่ในการดำเนินการต่อไป
จากนั้นได้มีสอบถามว่ามีผู้จะเสนออะไรอีกหรือไม่ เมื่อไม่มีก็ได้ปิดประชุมโดยใช้เวลาการประชุมประมาณ 50 นาที
นายกฯเผย3โครงการปิ๋วสร้างความเสียหาย
ทางด้านนายเปี่ยน กล่าวภายหลังการประชุม ว่า การเสนอญัตติทั้ง 3 เรื่องให้สภาฯนั้น เพราะแต่ละโครงการมีความจำเป็นเร่งด่วนต่อประชาชนและนักท่องเที่ยว อย่างกรณีของโครงการว่าจ้างที่ปรึกษาทำการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วิศวกรรมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่เชื่อมต่อกะทู้-ป่าตอง หรือการทำอุโมงค์เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะปัจจุบันเส้นทางที่ใช้อยู่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้งเฉลี่ยปีละ 400-500 ครั้ง และปริมาณรถที่เดินทางเข้าออกเฉลี่ย 40,000 เที่ยวต่อวัน
ส่วนที่ประธานสภาฯ แจ้งว่าจะต้องไปสอบถามความคิดเห็นของประชาชนก่อน ซึ่งตามขั้นตอนจะมีการกำหนดไว้อยู่แล้วในข้อตกลงของการว่าจ้าง ดังนั้นต้องผ่านขั้นตอนขอความเห็นชอบต่อสภาฯก่อน
"การที่ไม่อนุญาตให้บรรจุวาระเข้าในการประชุม ถือเป็นการปิดกั้นในการที่ทางสมาชิกสภาฯ จะได้มีการเสนอความคิดเห็น จึงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และยืนยันว่าการนำเสนอโครงการนั้น เพื่อแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ได้มองผลทางการเมืองแต่อย่างใด เพราะหากไม่มีการดำเนินการดังกล่าวก็จะเกิดความเสียหายขึ้นได้"นายเปี่ยน กล่าวและว่า
การกระทำดังกล่าวของประธานสภาฯ ยังเป็นการไม่เคารพเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 122 ที่ต้องการให้ผู้แทนราษฎรในทุกระดับสามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มกำลัง มาตรา 283 ได้กำหนดชัดเจนว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นย่อมมีอำนาจหน้าที่โดยทั่วไป ในการดูแล และจัดทำบริการสาธารณะ เพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่น และย่อมเป็นอิสระในการกำหนดนโยบาย การบริหาร การจัดการสาธาณณะและอื่นๆ โดยต้องคำนึงถึงความสอดคล้องกับการพัฒนาของจังหวัดและประเทศโดยรวมด้วย
นอกจากนี้ ในมาตรา 287 กำหนดให้ประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการบริหารกิจการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการที่ฝ่ายบริหารเสนอญัตติดังกล่าวต่อที่ประชุม ก็เพื่อให้สมาชิกสภาฯซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนได้พิจารณา และวิพากษ์ วิจารณ์ แสดงความคิดเห็นตามอำนาจหน้าที่ แต่การใช้อำนาจยับยั้งไม่ให้มีการนำญัตติเข้าสู่วาระการประชุม ถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ในอำนาจหน้าที่ของฝ่ายบริหาร และสมาชิกสภาฯในการทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนประชาชน นายเปี่ยนกล่าว
ด้านนายชัยรัตน์ สุขบาล รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าว การไม่บรรจุญัตติดังกล่าวเข้าที่ประชุมทำให้เกิดความเสียหายและเสียโอกาสในด้านการพัฒนาเป็นอย่างมาก เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเร่งดำเนินการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่และน ักท่องเที่ยวในการใช้รถใช้ถนน และควรที่จะมีการบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมเพื่อให้สมาชิกฯได้วิพากษ์วิจารณ์และตัดสินใจว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ ไม่ใช่ยับยั้งเช่นนี้
สำหรับโครงการก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่เชื่อมต่อกะทู้-ป่าตอง (อุโมงค์เขาป่าตอง) เพื่อแก้ไขปรับปรุง เพิ่มมาตรฐานด้านการจราจรและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และนักท่องเที่ยว ที่ใช้เส้นทาง ทางหลวงหมายเลข 4029 นั้น เป็นโครงการที่มีการพูดคุยกันมาเป็นเวลาร่วม 10 ปี และที่ผ่านมาเคยมีการศึกษาสำรวจออกแบบโครงการมาแล้วบางส่วน เพื่อแก้ปัญหาอุบัติเหตุบนเขาป่าตอง ซึ่งหากมีการขุดอุโมงค์คาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท