ราคาน้ำมันดิบโลกทะลุ 118 ดอลลาร์ ทำนิวไฮอีกครั้ง ทุกค่ายในไทยพร้อมใจปรับขึ้นเบนซิน 50 สตางค์ต่อลิตรวันนี้ (23 เม.ย.) ส่งผลให้เบนซิน 95 ทะลุ 36 บาทมาอยู่ที่ 36.09 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลทุกค่ายปรับขึ้น 50 สตางค์ต่อลิตรเช่นกันเว้นปตท.และบางจาก ด้านคลัง-พลังงานยังไร้ข้อสรุปเคาะลดภาษีฯน้ำมัน”สมัคร”ฉุนจวกเวิลด์แบงก์“มึงค้าน้ำมันไม่มีเหตุผล”
สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่า ราคาซื้อขายสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด เพื่อการส่งมอบเดือนพฤษภาคม ของตลาดไนเม็กซ์แห่งนิวยอร์ก ทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งหนึ่ง ณ ระดับ 118.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในช่วงการซื้อขายด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ตอนสายวานนี้(22)ของลอนดอน ก่อนที่จะถอยลงมาอยู่แถวๆ 117.73 ดอลลาร์เมื่อช่วงเที่ยงวัน ซึ่งก็ยังสูงกว่าราคาปิดวันจันทร์(21) อยู่ 25 เซ็นต์
สำหรับสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ ของตลาดลอนดอน เพื่อการส่งมอบเดือนมิถุนายน ตอนสายวานนี้ก็ไต่ขึ้นทำนิวไฮที่ 115.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากนั้นก็ไหลลงมานิดหน่อย โดยอยู่ที่ 114.83 ดอลลาร์ตอนเที่ยงวัน เพิ่มขึ้นกว่าคาปิดวันจันทร์ 40 เซ็นต์
เทรดเดอร์ยังคงใช้เหตุผลเดิมๆ ในการอธิบายเรื่องน้ำมันราคาพุ่งลิ่วๆ นั่นคือ ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัว, แรงเก็งกำไร, โอเปกยังไม่ผลิตเพิ่ม, และความหวาดผวาเรื่องซัปพลายติดขัดชะงักงัน โดยเหตุการณ์ล่าสุด คือ กรณีพวกกบฎในไนจีเรียระเบิดท่อส่งน้ำมันสำคัญ และการนัดหยุดงานของคนงานโรงกลั่นน้ำมันในสกอตแลนด์ นอกนั้น ก็มีการอ้างเรื่องตัวเลขความต้องการน้ำมันของจีนเดือนมีนาคมที่สูงขึ้นจากปีก่อนถึง 8%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทเชลล์ แห่งประเทศไทยได้แจ้งนำปรับขึ้นราคาขายปลีกในประเทศทุกชนิด 50 สตางค์ต่อลิตรมีผลวันนี้ (23เม.ย.) ส่งผลให้น้ำมันขายปลีกของไทยทำสถิติสูงสุดหรือนิวไฮทุกชนิด โดยเบนซิน 95 ขยับเป็น 36.09 บาท เบนซิน 91 เป็น 34.99 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 เป็น 32.09 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 เป็น31.29 บาทต่อลิตร และดีเซลเป็น 33.44 บาทต่อลิตรส่งผลให้ผู้ค้ารายอื่นได้แก่ เอสโซ่ เชฟรอน ซัสโก้ ปิโตรนาส ไออาร์พีซี ปรับตามเว้นปตท.และบางจากที่ปรับเฉพาะเบนซิน แต่ไม่เปลี่ยนแปลงดีเซลทำให้ดีเซลและบางจากต่ำกว่ารายอื่น 1 บาทต่อลิตรโดยอยู่ที่ 32.44 บาทต่อลิตร
นายไซมอน เฮิร์ส ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาดค้าปลีกเชลล์ กล่าวว่า บริษัทต้องปรับราคาน้ำมันขึ้นทุกชนิด 50 สตางค์ต่อลิตรมีผลวันนี้ (23เม.ย.) เนื่องจากค่าการตลาดเฉลี่ยสะสมเดือนเม.ย.เหลือเพียง 0.38 บาทต่อลิตร โดยดีเซลขาดทุนอยู่ 2.59 บาทต่อลิตร และแม้จะปรับขึ้นครั้งนี้ยังขาดทุน 2 บาทต่อลิตร เบนซินก็ยังขาดทุน 50 สตางค์ต่อลิตร และตั้งแต่เม.ย.บริษัทรับภาระขาดทุนไปแล้วกว่า 63 ล้านบาท
“น้ำมันตลาดโลกยังคงปรับขึ้นมากทำให้ค่าการตลาดยังต่ำอยู่ ซึ่งสาเหตุน้ำมันโลกขึ้นสูงเหตุจากข่าวกลุ่มกบฏไนจีเรียโจมตีท่อส่งน้ำมัน 2 แห่ง และข่าวเรือน้ำมันญี่ปุ่นนอกชายฝั่งเยเมนถูกโจมตี “นายไซมอน กล่าว
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บมจ.ปตท.กล่าวว่า ปตท.ขอปรับเฉพาะเบนซิน และจะขอติดตามราคาน้ำมันปิดตลาดวันที่ 22 เม.ย.อีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนแปลงดีเซลหรือไม่วันนี้(23เม.ย.) อย่างไรก็ตามยอมรับว่าค่าการตลาดเริ่มตกต่ำอีกครั้งหลังน้ำมันตลาดโลกกลับมาพุ่งสูงอีก
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากฯ กล่าวว่า บางจากฯจะปรับขึ้นเฉพาะเบนซิน 50 สตางค์ต่อลิตรส่วนดีเซลจะดูอีก 1-2 วัน อย่างไรก็ตามการลดภาษีสรรพสามิตดีเซลต้องดูให้รอบคอบ ขณะที่รัฐบาลก็จะสูญเสียรายได้ และหากจะลดภาษีเพื่อช่วยภาคขนส่งเพียงอย่างเดียว ก็อาจจะมีปัญหาเรื่องการควบคุมอย่างไรไม่ให้เกิดการรั่วไหลไปยังภาคอื่นๆ ถ้าราคาสะท้อนกลไกตลาดจริงๆ วันนี้ดีเซลจะต้องไม่ต่ำกว่า 35 บาทแล้ว และหากราคาน้ำมันยังขึ้นไม่หยุดก็อาจเห็นราคาดีเซลไปถึงระดับ 40 บาท/ลิตรได้
นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านพลังงานกล่าวว่า คงจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเพราะน้ำมันค่อนข้างผันผวนจากปัจจัยทั้งท่อไนจีเรียถูกโจมตี โรงกลั่นยุโรปปิดซ่อม ความต้องการที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหากน้ำมันดิบไต่ระดับไปถึง 150 เหรียญต่อบาร์เรลก็จะดันให้ขายปลีกไทยมีโอกาสแตะระดับกว่า 40 บาทต่อลิตรได้เช่นกันดังนั้นยากที่จะคาดเดาได้
สั่งเคาะลดภาษีฯ สัปดาห์นี้
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ระหว่างการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้(22เม.ย.) ได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานถึงการช่วยเหลือผลกระทบจากน้ำมันแพงโดยได้มอบหมายให้ระดับปลัดของทั้งสองกระทรวงไปกำหนดเงื่อนไขและพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะลดภาษีสรรพสามิตดีเซลและทำอย่างไรจะต้องไม่บิดเบือนกลไกตลาด
พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน กล่าวว่า คณะทำงานที่มี 2 ปลัดกระทรวง เป็นประธาน จะร่วมประชุมเร็วๆ นี้หลังจากนั้นรัฐมนตรีทั้ง 2 กระทรวงจะประชุมร่วมกัน และจะมีข้อสรุปให้ได้ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งทางกระทรวงพลังงานได้เสนอข้อมูลอย่างละเอียดว่า กรณีการลดภาษีแต่ละอัตรา เช่น 0.50 หรือ 1 บาทต่อลิตร จะมีผลดีผลเสียอย่างไร
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การลดภาษีน้ำมันชั่วคราว แม้จะมีผลกระทบต่อรายได้ของรัฐบาลบ้าง แต่หากภาครัฐคำนวณแล้วพบว่า ลดภาษีแล้วช่วยทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าดีขึ้น รัฐบาลอาจจะได้ภาษีที่มากกว่าภาษีที่เสียไปก็ได้
“หมัก” จวกเวิลด์แบงค์ “มึงค้าน้ำมันไม่มีเหตุผล”
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตอบข้อซักถามถึงปัญหาเฉพาะหน้าที่บอกว่าน้ำมันจะขึ้นไปถึง 120 เหรียฐต่อบาเรลในไม่ช้าประชาชนจะเป็นคนรับภาระทุกอย่างหมดรัฐบาลจะเข้าไปช่วยดูแลอย่างไร กล่าวว่า นี่รัฐบาลทั้งโลกเขาต้องแบกน้ำหนักหรือไง จะดูในโลกนี้รัฐบาลอื่นเขาทำอย่างไร เราพยายามดูแลพยายามทำทุกอย่าง จะดูสิมันจะบ้าไปขนาดไหน กำลังนี้เมื่อก่อนบอกถึง 100 ก็บ้ากันแล้ว ตอนนี้มาถึง 117 ผมก็ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังถามว่าเวลาไอ้พวกเวิลด์แบงค์(ธนาคารโลก) มันพูดกัน ด่ามันบ้างหรือเปล่า มันมาด่าเราว่าเอาพื้นที่ปลูกข้าวไปปลูกอะไร ไปปลูกพืชน้ำมัน ปลูกอย่างโน้นอย่างนี้ ผมบอกแล้วว่ามันหรือเปล่าว่าพวกมึงค้าน้ำมันกันแบบนี้ไม่มีเหตุผล ขึ้นเอา ขึ้นเอาๆ น้ำมันยังไม่หมดโลกเลย แต่ขึ้นแบบไม่มีเหตุผลถามหรือเปล่า
"เขาบอกเขาพูดนอกวงไม่ได้พูดในที่ประชุม เขาก็ไม่รับทราบหรอก แต่หนังสือไทยก็เอาสิ บอกว่านายกรัฐมนตรีไทยบ่นบอกว่าพวกไปสุมหัวประชุมเวิลด์แบงค์ พูดกันแต่มาดูแคลนเรื่องอาหารการกินกลัวโลกจะขาดแคลน นายบัน คี มุน (เลขาธิการสหประชาชาติ) ออกมาชี้แจงบอกให้ช่วยดูผลิตผลหน่อย แล้วไอ้พวกขายน้ำมันทำเศรษฐกิจโลกปั่นป่วนช่วยจัดการบ้างหรือเปล่า ไม่มีเหตุผลขึ้นราคากันตามใจชอบทำเศรษฐกิจทั้งโลกปั่นป่วนหัวเราะชอบใจกันใหญ่ พอข้าวแพงมาหน่อยทำมาชี้นิ้วว่าอย่าไปปลูกเพื่อแทนน้ำมัน โธ.. แนะ ปชช.เปลี่ยนอาชีพหารายได้เพิ่ม"
ต่อข้อถามว่า รัฐบาลจะให้ความมั่นใจกับประชาชนอย่างไร เพราะนายกฯบอกว่าจะพยายามทำให้รายได้กับรายจ่ายให้มันไปกันได้ นายกรัฐมตรี กล่าวว่า กำลังทำอยู่ แต่ไม่ต้องการพูดให้ราคาสินค้าขึ้น ทำอยู่จะต้องต้องทำให้มันใกล้เคียงกัน จะอธิยาบให้ฟังว่า เขาบอกว่าเมื่อเวลาที่คนเรานั่งตะบันเย็บผ้าได้ 200 บาท จับใส่ๆ ก็ 200 บาท ก็ได้เดือนแค่ 6,000 บาท แต่ถ้าเปลี่ยนออกมาทำอาชีพที่เป็นบริการ เช่นไม่ใช่ผู้หญิงบริการ คนจบ ม.6 กำลังจะมีคอสอบรมเพียง 6 เดือน คือผู้ช่วยพยาบาล ประเทศไทยกำลังต้องการบริการอย่างนี้อย่างยิ่ง และรายได้ก็เริ่มต้นที่ 10,000 บาท แล้วก็ไล่ขึ้นไป และมีคนอายุอาวุโสอย่างตน 60 ขึ้นไปถึง 8 ล้านคน แล้วครึ่งหนึ่งคือประมาณ 4 ล้านคน สามารถจะจ่ายได้ เพียงแต่เปลี่ยจากที่ไปนั่งเย็บมาทำอาชีพอย่างนี้ก็ได้รายได้เพิ่มกว่าเท่าตัว ถ้าสามีภรรยาทำด้วยกันก็ได้เพิ่งถึง 2 เท่าตัว แต่สิ่งที่เรากำลังทำก็ไม่พยายามพูด จะปรับเงินเดือนพอถึงเวลาก็ปรับพรวดเลยกำลังคิดอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก เตรียมขึ้นเงินเดือน ปรับรายได้สมดุลรายจ่าย
นายสมัคร กล่าวว่า ขณะที่ชาวไร่ชาวนาขายของได้ราคาแพงขึ้นทุกอย่างกำลังเคลื่อนที่แรงงานก็มีงานทำ เศรษฐกิจมันเริ่มหมุนเวียน เราจะไปบอกว่าให้ข้าวถูกเพราะกดราคาก็ไม่ควร แต่เราควรจะทิ้งราคาตรงนี้ไว้ แล้วจะเพิ่มรายได้ให้มันสูงขึ้น วงจรมันมี แต่จะกู้เงินมาขึ้นเงินเดือนเป็นไปไม่ได้ แต่ต้องมีแหล่งที่ประเทศชาติจะมีรายได้พอที่จะให้เงินเดือนนั้นขึ้น แต่จะไม่พูดนำว่าจะเป็นเท่าไหร่ แต่จะต้องปรับ กำลังทำอยู่
สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่า ราคาซื้อขายสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด เพื่อการส่งมอบเดือนพฤษภาคม ของตลาดไนเม็กซ์แห่งนิวยอร์ก ทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งหนึ่ง ณ ระดับ 118.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในช่วงการซื้อขายด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ตอนสายวานนี้(22)ของลอนดอน ก่อนที่จะถอยลงมาอยู่แถวๆ 117.73 ดอลลาร์เมื่อช่วงเที่ยงวัน ซึ่งก็ยังสูงกว่าราคาปิดวันจันทร์(21) อยู่ 25 เซ็นต์
สำหรับสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ ของตลาดลอนดอน เพื่อการส่งมอบเดือนมิถุนายน ตอนสายวานนี้ก็ไต่ขึ้นทำนิวไฮที่ 115.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากนั้นก็ไหลลงมานิดหน่อย โดยอยู่ที่ 114.83 ดอลลาร์ตอนเที่ยงวัน เพิ่มขึ้นกว่าคาปิดวันจันทร์ 40 เซ็นต์
เทรดเดอร์ยังคงใช้เหตุผลเดิมๆ ในการอธิบายเรื่องน้ำมันราคาพุ่งลิ่วๆ นั่นคือ ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัว, แรงเก็งกำไร, โอเปกยังไม่ผลิตเพิ่ม, และความหวาดผวาเรื่องซัปพลายติดขัดชะงักงัน โดยเหตุการณ์ล่าสุด คือ กรณีพวกกบฎในไนจีเรียระเบิดท่อส่งน้ำมันสำคัญ และการนัดหยุดงานของคนงานโรงกลั่นน้ำมันในสกอตแลนด์ นอกนั้น ก็มีการอ้างเรื่องตัวเลขความต้องการน้ำมันของจีนเดือนมีนาคมที่สูงขึ้นจากปีก่อนถึง 8%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทเชลล์ แห่งประเทศไทยได้แจ้งนำปรับขึ้นราคาขายปลีกในประเทศทุกชนิด 50 สตางค์ต่อลิตรมีผลวันนี้ (23เม.ย.) ส่งผลให้น้ำมันขายปลีกของไทยทำสถิติสูงสุดหรือนิวไฮทุกชนิด โดยเบนซิน 95 ขยับเป็น 36.09 บาท เบนซิน 91 เป็น 34.99 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 เป็น 32.09 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 เป็น31.29 บาทต่อลิตร และดีเซลเป็น 33.44 บาทต่อลิตรส่งผลให้ผู้ค้ารายอื่นได้แก่ เอสโซ่ เชฟรอน ซัสโก้ ปิโตรนาส ไออาร์พีซี ปรับตามเว้นปตท.และบางจากที่ปรับเฉพาะเบนซิน แต่ไม่เปลี่ยนแปลงดีเซลทำให้ดีเซลและบางจากต่ำกว่ารายอื่น 1 บาทต่อลิตรโดยอยู่ที่ 32.44 บาทต่อลิตร
นายไซมอน เฮิร์ส ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาดค้าปลีกเชลล์ กล่าวว่า บริษัทต้องปรับราคาน้ำมันขึ้นทุกชนิด 50 สตางค์ต่อลิตรมีผลวันนี้ (23เม.ย.) เนื่องจากค่าการตลาดเฉลี่ยสะสมเดือนเม.ย.เหลือเพียง 0.38 บาทต่อลิตร โดยดีเซลขาดทุนอยู่ 2.59 บาทต่อลิตร และแม้จะปรับขึ้นครั้งนี้ยังขาดทุน 2 บาทต่อลิตร เบนซินก็ยังขาดทุน 50 สตางค์ต่อลิตร และตั้งแต่เม.ย.บริษัทรับภาระขาดทุนไปแล้วกว่า 63 ล้านบาท
“น้ำมันตลาดโลกยังคงปรับขึ้นมากทำให้ค่าการตลาดยังต่ำอยู่ ซึ่งสาเหตุน้ำมันโลกขึ้นสูงเหตุจากข่าวกลุ่มกบฏไนจีเรียโจมตีท่อส่งน้ำมัน 2 แห่ง และข่าวเรือน้ำมันญี่ปุ่นนอกชายฝั่งเยเมนถูกโจมตี “นายไซมอน กล่าว
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บมจ.ปตท.กล่าวว่า ปตท.ขอปรับเฉพาะเบนซิน และจะขอติดตามราคาน้ำมันปิดตลาดวันที่ 22 เม.ย.อีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนแปลงดีเซลหรือไม่วันนี้(23เม.ย.) อย่างไรก็ตามยอมรับว่าค่าการตลาดเริ่มตกต่ำอีกครั้งหลังน้ำมันตลาดโลกกลับมาพุ่งสูงอีก
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากฯ กล่าวว่า บางจากฯจะปรับขึ้นเฉพาะเบนซิน 50 สตางค์ต่อลิตรส่วนดีเซลจะดูอีก 1-2 วัน อย่างไรก็ตามการลดภาษีสรรพสามิตดีเซลต้องดูให้รอบคอบ ขณะที่รัฐบาลก็จะสูญเสียรายได้ และหากจะลดภาษีเพื่อช่วยภาคขนส่งเพียงอย่างเดียว ก็อาจจะมีปัญหาเรื่องการควบคุมอย่างไรไม่ให้เกิดการรั่วไหลไปยังภาคอื่นๆ ถ้าราคาสะท้อนกลไกตลาดจริงๆ วันนี้ดีเซลจะต้องไม่ต่ำกว่า 35 บาทแล้ว และหากราคาน้ำมันยังขึ้นไม่หยุดก็อาจเห็นราคาดีเซลไปถึงระดับ 40 บาท/ลิตรได้
นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านพลังงานกล่าวว่า คงจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเพราะน้ำมันค่อนข้างผันผวนจากปัจจัยทั้งท่อไนจีเรียถูกโจมตี โรงกลั่นยุโรปปิดซ่อม ความต้องการที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหากน้ำมันดิบไต่ระดับไปถึง 150 เหรียญต่อบาร์เรลก็จะดันให้ขายปลีกไทยมีโอกาสแตะระดับกว่า 40 บาทต่อลิตรได้เช่นกันดังนั้นยากที่จะคาดเดาได้
สั่งเคาะลดภาษีฯ สัปดาห์นี้
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ระหว่างการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้(22เม.ย.) ได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานถึงการช่วยเหลือผลกระทบจากน้ำมันแพงโดยได้มอบหมายให้ระดับปลัดของทั้งสองกระทรวงไปกำหนดเงื่อนไขและพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะลดภาษีสรรพสามิตดีเซลและทำอย่างไรจะต้องไม่บิดเบือนกลไกตลาด
พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน กล่าวว่า คณะทำงานที่มี 2 ปลัดกระทรวง เป็นประธาน จะร่วมประชุมเร็วๆ นี้หลังจากนั้นรัฐมนตรีทั้ง 2 กระทรวงจะประชุมร่วมกัน และจะมีข้อสรุปให้ได้ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งทางกระทรวงพลังงานได้เสนอข้อมูลอย่างละเอียดว่า กรณีการลดภาษีแต่ละอัตรา เช่น 0.50 หรือ 1 บาทต่อลิตร จะมีผลดีผลเสียอย่างไร
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การลดภาษีน้ำมันชั่วคราว แม้จะมีผลกระทบต่อรายได้ของรัฐบาลบ้าง แต่หากภาครัฐคำนวณแล้วพบว่า ลดภาษีแล้วช่วยทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าดีขึ้น รัฐบาลอาจจะได้ภาษีที่มากกว่าภาษีที่เสียไปก็ได้
“หมัก” จวกเวิลด์แบงค์ “มึงค้าน้ำมันไม่มีเหตุผล”
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตอบข้อซักถามถึงปัญหาเฉพาะหน้าที่บอกว่าน้ำมันจะขึ้นไปถึง 120 เหรียฐต่อบาเรลในไม่ช้าประชาชนจะเป็นคนรับภาระทุกอย่างหมดรัฐบาลจะเข้าไปช่วยดูแลอย่างไร กล่าวว่า นี่รัฐบาลทั้งโลกเขาต้องแบกน้ำหนักหรือไง จะดูในโลกนี้รัฐบาลอื่นเขาทำอย่างไร เราพยายามดูแลพยายามทำทุกอย่าง จะดูสิมันจะบ้าไปขนาดไหน กำลังนี้เมื่อก่อนบอกถึง 100 ก็บ้ากันแล้ว ตอนนี้มาถึง 117 ผมก็ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังถามว่าเวลาไอ้พวกเวิลด์แบงค์(ธนาคารโลก) มันพูดกัน ด่ามันบ้างหรือเปล่า มันมาด่าเราว่าเอาพื้นที่ปลูกข้าวไปปลูกอะไร ไปปลูกพืชน้ำมัน ปลูกอย่างโน้นอย่างนี้ ผมบอกแล้วว่ามันหรือเปล่าว่าพวกมึงค้าน้ำมันกันแบบนี้ไม่มีเหตุผล ขึ้นเอา ขึ้นเอาๆ น้ำมันยังไม่หมดโลกเลย แต่ขึ้นแบบไม่มีเหตุผลถามหรือเปล่า
"เขาบอกเขาพูดนอกวงไม่ได้พูดในที่ประชุม เขาก็ไม่รับทราบหรอก แต่หนังสือไทยก็เอาสิ บอกว่านายกรัฐมนตรีไทยบ่นบอกว่าพวกไปสุมหัวประชุมเวิลด์แบงค์ พูดกันแต่มาดูแคลนเรื่องอาหารการกินกลัวโลกจะขาดแคลน นายบัน คี มุน (เลขาธิการสหประชาชาติ) ออกมาชี้แจงบอกให้ช่วยดูผลิตผลหน่อย แล้วไอ้พวกขายน้ำมันทำเศรษฐกิจโลกปั่นป่วนช่วยจัดการบ้างหรือเปล่า ไม่มีเหตุผลขึ้นราคากันตามใจชอบทำเศรษฐกิจทั้งโลกปั่นป่วนหัวเราะชอบใจกันใหญ่ พอข้าวแพงมาหน่อยทำมาชี้นิ้วว่าอย่าไปปลูกเพื่อแทนน้ำมัน โธ.. แนะ ปชช.เปลี่ยนอาชีพหารายได้เพิ่ม"
ต่อข้อถามว่า รัฐบาลจะให้ความมั่นใจกับประชาชนอย่างไร เพราะนายกฯบอกว่าจะพยายามทำให้รายได้กับรายจ่ายให้มันไปกันได้ นายกรัฐมตรี กล่าวว่า กำลังทำอยู่ แต่ไม่ต้องการพูดให้ราคาสินค้าขึ้น ทำอยู่จะต้องต้องทำให้มันใกล้เคียงกัน จะอธิยาบให้ฟังว่า เขาบอกว่าเมื่อเวลาที่คนเรานั่งตะบันเย็บผ้าได้ 200 บาท จับใส่ๆ ก็ 200 บาท ก็ได้เดือนแค่ 6,000 บาท แต่ถ้าเปลี่ยนออกมาทำอาชีพที่เป็นบริการ เช่นไม่ใช่ผู้หญิงบริการ คนจบ ม.6 กำลังจะมีคอสอบรมเพียง 6 เดือน คือผู้ช่วยพยาบาล ประเทศไทยกำลังต้องการบริการอย่างนี้อย่างยิ่ง และรายได้ก็เริ่มต้นที่ 10,000 บาท แล้วก็ไล่ขึ้นไป และมีคนอายุอาวุโสอย่างตน 60 ขึ้นไปถึง 8 ล้านคน แล้วครึ่งหนึ่งคือประมาณ 4 ล้านคน สามารถจะจ่ายได้ เพียงแต่เปลี่ยจากที่ไปนั่งเย็บมาทำอาชีพอย่างนี้ก็ได้รายได้เพิ่มกว่าเท่าตัว ถ้าสามีภรรยาทำด้วยกันก็ได้เพิ่งถึง 2 เท่าตัว แต่สิ่งที่เรากำลังทำก็ไม่พยายามพูด จะปรับเงินเดือนพอถึงเวลาก็ปรับพรวดเลยกำลังคิดอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก เตรียมขึ้นเงินเดือน ปรับรายได้สมดุลรายจ่าย
นายสมัคร กล่าวว่า ขณะที่ชาวไร่ชาวนาขายของได้ราคาแพงขึ้นทุกอย่างกำลังเคลื่อนที่แรงงานก็มีงานทำ เศรษฐกิจมันเริ่มหมุนเวียน เราจะไปบอกว่าให้ข้าวถูกเพราะกดราคาก็ไม่ควร แต่เราควรจะทิ้งราคาตรงนี้ไว้ แล้วจะเพิ่มรายได้ให้มันสูงขึ้น วงจรมันมี แต่จะกู้เงินมาขึ้นเงินเดือนเป็นไปไม่ได้ แต่ต้องมีแหล่งที่ประเทศชาติจะมีรายได้พอที่จะให้เงินเดือนนั้นขึ้น แต่จะไม่พูดนำว่าจะเป็นเท่าไหร่ แต่จะต้องปรับ กำลังทำอยู่
