ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – บรรยากาศใกล้เปิดเทอมใหม่เจ้าหน้าที่เตรียมแผนรักษาความปลอดภัยเข้มให้กับครูในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ "ครูยะลา" มั่นใจแผน รปภ.จากกองกำลังภาคประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นหน่วยสนับสนุน "ครูปัตตานี" วอนลดความเข้มงวดในการประเมินผลงานเพื่อเลื่อนวิทยฐานะ โดยส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย เช่นเดียวกับครูนราฯถูกจดหมายขู่ขอย้ายแล้ว 130 คน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ายันรักษาความปลอดภัยได้
บุคลากรครูในเขตพื้นที่ จ.ยะลา เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียนใหม่ที่กำลังจะมีขึ้น ซึ่งในขณะนี้ครูในพื้นที่ จ.ยะลา มีขวัญและกำลังใจที่ดีขึ้นมาก เนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่ลดน้อยลง
นายอรรถสิทธิ์ รัตนแคล้ว ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 1 กล่าวว่า ขณะนี้คณะครูในพื้นที่ จ.ยะลา หลายอำเภอได้มีการประชุมหารือเพื่อวางมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย และประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ที่เข้ามาดูแลได้มีการทบทวนมาตรการในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา พบว่าคณะครูมีความพึงพอใจในระดับหนึ่งและในภาคเรียนที่ใกล้จะเปิดนี้ ก็ได้มีการประสานงานขอกำลังเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมในการเข้ามาดูแลเส้นทางหลักเส้นทางรองให้มากขึ้น
นายนพพร มากคงแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 2 เปิดเผยว่า ก่อนเปิดภาคเรียนตนร่วมกับนายอำเภอ ผกก. ผบ.ฉก.ในพื้นที่เรียกประชุมผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษา ในพื้นที่ อ.กาบัง ยะหา และบันนังสตา มาประชุม เพื่อเตรียมความพร้อมมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับครูโดยกำหนดประชุมในพื้นที่ อ.กาบัง ยะหา และ บันนังสตา ตามลำดับ
สำหรับเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 2 นั้นมีหน้าที่รับผิดชอบ 3 อำเภอ คือ อ.กาบัง ยะหา และ บันนังสตา มีโรงเรียนที่ต้องดูแล รับผิดชอบ 75 โรง มีบุคลากรครูประมาณ 1,000 คน ซึ่งมาตรการรักษาความปลอดภัย ทางเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง มีแผนการปฏิบัติการเรียบร้อยแล้ว แต่ทั้งนี้ยังไม่ขอเปิดเผยในแผนการปฏิบัติงานในครั้งนี้ สำหรับอัตราครูที่ขอย้ายออกจากพื้นที่พบว่า มีจำนวนลดลงกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าอาจจะเป็นเพราะการปรับตัว และ มีความเข้าใจกับสถานการณ์มากขึ้น
ด้าน พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการข่าวสารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ยังไม่ได้ใช้กำลังประชาชนอย่างเต็มที่ ไม่ได้รับการอนุมัติให้บรรจุผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน โครงการต่างๆ อยู่ในระหว่างการเบิกจ่าย ในวันนี้สิ่งต่างๆ ค่อนข้างจะสมบูรณ์ อัตรากำลังต่างๆ ก็ได้รับการอนุมัติ การจัดตั้ง การดำเนินการฝึก การบริหารและการบูรณาการการใช้กำลังประชาชนในพื้นที่ค่อนข้างที่จะเข้มแข็ง เจ้าหน้าที่สามารถใช้กำลังประชาชนได้ถูกฝาถูกตัวมากขึ้น เช่นคนที่อยู่ในพื้นที่ ต.ท่าสาป ก็จะเป็นกำลังในการดูแลโรงเรียน หรือ สถานที่ต่างๆ ในตำบลท่าสาป
จากที่เคยมีเจ้าหน้าที่ทหารดูแลรักษาความปลอดภัยโรงเรียน ก็จะมีกองกำลังประชาชนในการดูแลรักษาความปลอดภัยโรงเรียนแทน โดยจะมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เป็นตัวเสริม หากต้องการเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ในการดูแลรักษาความปลอดภัยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมให้การสนับสนุนทุกอย่าง และที่สำคัญทางเจ้าหน้าที่ทหารก็จะได้มีเวลาไปดูแลในส่วนอื่นอีกด้วย
ส่วนในพื้นที่ จ.ปัตตานี ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมามีโรงเรียนบางแห่งได้เปิดการเรียนการสอนแล้ว แต่ก็ยังมีโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยหลายแห่งต้องเปิดการเรียนการสอนในวันที่ 16 พ.ค.เนื่องจากเป็นมติของสมาพันธ์ครูชายแดนใต้และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติที่ดูแลความปลอดภัย โดยที่โรงเรียนบ้านดอนรัก อ.หนองจิก ถือเป็นโรงเรียนหนึ่งที่เปิดการเรียนการสอนในวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นโรงเรียนที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิดและครูมีความปลอดภัยมากขึ้น แต่ในความรู้สึกของครูหลาย คนก็ยังหวั่นใจไม่น้อยถึงความปลอดภัยหลังจากเปิดภาคเรียนครั้งนี้ สิ่งหนึ่งที่จะเป็นขวัญกำลังใจให้กับครู นอกจากกำลังใจเรื่องความปลอดภัยแล้ว ก็ยังมีองค์ประกอบหลายสิ่งที่ครูต้องการ
โดยนายสุพล จันทรประดิษฐ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดอนรัก เปิดเผยว่า สิ่งที่ครูต้องการคือการลดความเข้มในการตรวจผลงานด้านวิชาการเพื่อประเมินในการเลื่อนวิทยฐานะของครูผู้สอน นอกจากที่ครูได้รับความคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ เพราะโอกาสที่ครูจะทำผลงานมีน้อย เนื่องจากเวลาการสอนสั้นลงเหลือ 6 ชั่วโมงเพราะครูต้องมาและกลับตามเวลาที่เจ้าหน้าที่กำหนดเพื่อความปลอดภัย ฉะนั้น การทำผลงานหรืองานวิจัยจึงมีเวลาน้อย ตนในฐานะตัวแทนครูใน 3 จังหวัดมีความเสี่ยงในชีวิต แต่ก็ต้องการขวัญกำลังใจในการทำผลงานเพื่อเลื่อนวิทยฐานะจึงอยากให้ผู้บริหารลดความเข้มในการประเมินตรงจุดนี้
อีกประเด็นคือการสนับสนุนงบประมาณในการจัดกิจกรรมร่วมกับชุมชน ทั้งกิจกรรมด้านวิชาการ ด้านศาสนาและวัฒนธรรมของท้องถิ่นเพื่อให้โรงเรียนเป็นแกนนำในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างความคุ้นเคยระหว่างโรงเรียนและชุมชน เชื่อมั่นว่าจะเกิดความสามัคคีขึ้นทันทีที่สำคัญเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างความสันติสุข
สำหรับโรงเรียนอีกหลายโรงที่จะเปิดเทอมในวันที่ 16 พ.ค.นี้ จากการประชุมร่วมกับฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็จะใช้มาตราการณ์เดิมในการดูแลความปลอดภัย ซึ่งครูและผู้บริหารโรงเรียนมีความมั่นใจมากขึ้น จึงอยากให้ครูอย่าได้ประมาทเพราะถ้าประมาทก็จะเป็นโอกาสของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่คอยจ้องทำร้ายทุกเวลา ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ดูแลความปลอดภัยครูตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครองที่มีความห่วงใยครูในพื้นที่
ด้านนายสงวน อินทรักษ์ ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงมาตรการในการดูแลความปลอดภัยของกลุ่มครูในช่วงการเปิดภาคเรียนว่า ขณะนี้ทางกลุ่มครูในแต่ละพื้นที่ยังคงใช้มาตรการเดิมที่ทางครูเคยวางไว้อยู่ โดยเฉพาะการเน้นการดูแลความปลอดภัยให้กับตนเองเป็นหลักทั้งการเดินทางเข้า - ออกโรงเรียน ซึ่งหลังจากเปิดภาคเรียนไปแล้วทางครูจะมีการร่วมประชุมเพื่อหารือถึงการวางมาตรการกันใหม่เพื่อที่จะเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ที่ได้วางไว้
ส่วนด้านขวัญและกำลังของครูในพื้นที่นั้นขณะนี้ส่วนใหญ่ถือว่าไม่มีขวัญและกำลังใจในการทำงานเท่าที่ควร เนื่องจากตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมามีการข่มขู่ด้วยใบปลิวจากกลุ่มก่อความไม่สงบมาโดยตลอด โดยมีใจความว่า "จะมาเอาชีวิตของข้าราชการ" ซึ่งทำให้ครูส่วนใหญ่เกิดความหวาดกลัว
นายสงวน กล่าวถึงยอดการขอย้ายของครูออกนอกพื้นที่ด้วยว่า ในปีการศึกษานี้มีครูขอย้ายออกจากพื้นที่จำนวนมาก โดยรวมทั้ง 3 เขตพื้นที่การศึกษามีครูขอย้ายออกจำนวนกว่า 300 คนเฉพาะในเขตพื้นที่การศึกษาเขต 2 นราธิวาสนั้นก็มียอดขอย้ายออกแล้ว 130 คน ซึ่งหลังจากนี้เขตพื้นที่การศึกษาแต่ละแห่งจะต้องเร่งหากำลังครูเข้ามาทดแทน
บุคลากรครูในเขตพื้นที่ จ.ยะลา เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียนใหม่ที่กำลังจะมีขึ้น ซึ่งในขณะนี้ครูในพื้นที่ จ.ยะลา มีขวัญและกำลังใจที่ดีขึ้นมาก เนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่ลดน้อยลง
นายอรรถสิทธิ์ รัตนแคล้ว ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 1 กล่าวว่า ขณะนี้คณะครูในพื้นที่ จ.ยะลา หลายอำเภอได้มีการประชุมหารือเพื่อวางมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย และประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ที่เข้ามาดูแลได้มีการทบทวนมาตรการในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา พบว่าคณะครูมีความพึงพอใจในระดับหนึ่งและในภาคเรียนที่ใกล้จะเปิดนี้ ก็ได้มีการประสานงานขอกำลังเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมในการเข้ามาดูแลเส้นทางหลักเส้นทางรองให้มากขึ้น
นายนพพร มากคงแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 2 เปิดเผยว่า ก่อนเปิดภาคเรียนตนร่วมกับนายอำเภอ ผกก. ผบ.ฉก.ในพื้นที่เรียกประชุมผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษา ในพื้นที่ อ.กาบัง ยะหา และบันนังสตา มาประชุม เพื่อเตรียมความพร้อมมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับครูโดยกำหนดประชุมในพื้นที่ อ.กาบัง ยะหา และ บันนังสตา ตามลำดับ
สำหรับเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 2 นั้นมีหน้าที่รับผิดชอบ 3 อำเภอ คือ อ.กาบัง ยะหา และ บันนังสตา มีโรงเรียนที่ต้องดูแล รับผิดชอบ 75 โรง มีบุคลากรครูประมาณ 1,000 คน ซึ่งมาตรการรักษาความปลอดภัย ทางเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง มีแผนการปฏิบัติการเรียบร้อยแล้ว แต่ทั้งนี้ยังไม่ขอเปิดเผยในแผนการปฏิบัติงานในครั้งนี้ สำหรับอัตราครูที่ขอย้ายออกจากพื้นที่พบว่า มีจำนวนลดลงกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าอาจจะเป็นเพราะการปรับตัว และ มีความเข้าใจกับสถานการณ์มากขึ้น
ด้าน พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการข่าวสารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ยังไม่ได้ใช้กำลังประชาชนอย่างเต็มที่ ไม่ได้รับการอนุมัติให้บรรจุผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน โครงการต่างๆ อยู่ในระหว่างการเบิกจ่าย ในวันนี้สิ่งต่างๆ ค่อนข้างจะสมบูรณ์ อัตรากำลังต่างๆ ก็ได้รับการอนุมัติ การจัดตั้ง การดำเนินการฝึก การบริหารและการบูรณาการการใช้กำลังประชาชนในพื้นที่ค่อนข้างที่จะเข้มแข็ง เจ้าหน้าที่สามารถใช้กำลังประชาชนได้ถูกฝาถูกตัวมากขึ้น เช่นคนที่อยู่ในพื้นที่ ต.ท่าสาป ก็จะเป็นกำลังในการดูแลโรงเรียน หรือ สถานที่ต่างๆ ในตำบลท่าสาป
จากที่เคยมีเจ้าหน้าที่ทหารดูแลรักษาความปลอดภัยโรงเรียน ก็จะมีกองกำลังประชาชนในการดูแลรักษาความปลอดภัยโรงเรียนแทน โดยจะมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เป็นตัวเสริม หากต้องการเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ในการดูแลรักษาความปลอดภัยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมให้การสนับสนุนทุกอย่าง และที่สำคัญทางเจ้าหน้าที่ทหารก็จะได้มีเวลาไปดูแลในส่วนอื่นอีกด้วย
ส่วนในพื้นที่ จ.ปัตตานี ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมามีโรงเรียนบางแห่งได้เปิดการเรียนการสอนแล้ว แต่ก็ยังมีโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยหลายแห่งต้องเปิดการเรียนการสอนในวันที่ 16 พ.ค.เนื่องจากเป็นมติของสมาพันธ์ครูชายแดนใต้และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติที่ดูแลความปลอดภัย โดยที่โรงเรียนบ้านดอนรัก อ.หนองจิก ถือเป็นโรงเรียนหนึ่งที่เปิดการเรียนการสอนในวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นโรงเรียนที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิดและครูมีความปลอดภัยมากขึ้น แต่ในความรู้สึกของครูหลาย คนก็ยังหวั่นใจไม่น้อยถึงความปลอดภัยหลังจากเปิดภาคเรียนครั้งนี้ สิ่งหนึ่งที่จะเป็นขวัญกำลังใจให้กับครู นอกจากกำลังใจเรื่องความปลอดภัยแล้ว ก็ยังมีองค์ประกอบหลายสิ่งที่ครูต้องการ
โดยนายสุพล จันทรประดิษฐ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดอนรัก เปิดเผยว่า สิ่งที่ครูต้องการคือการลดความเข้มในการตรวจผลงานด้านวิชาการเพื่อประเมินในการเลื่อนวิทยฐานะของครูผู้สอน นอกจากที่ครูได้รับความคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ เพราะโอกาสที่ครูจะทำผลงานมีน้อย เนื่องจากเวลาการสอนสั้นลงเหลือ 6 ชั่วโมงเพราะครูต้องมาและกลับตามเวลาที่เจ้าหน้าที่กำหนดเพื่อความปลอดภัย ฉะนั้น การทำผลงานหรืองานวิจัยจึงมีเวลาน้อย ตนในฐานะตัวแทนครูใน 3 จังหวัดมีความเสี่ยงในชีวิต แต่ก็ต้องการขวัญกำลังใจในการทำผลงานเพื่อเลื่อนวิทยฐานะจึงอยากให้ผู้บริหารลดความเข้มในการประเมินตรงจุดนี้
อีกประเด็นคือการสนับสนุนงบประมาณในการจัดกิจกรรมร่วมกับชุมชน ทั้งกิจกรรมด้านวิชาการ ด้านศาสนาและวัฒนธรรมของท้องถิ่นเพื่อให้โรงเรียนเป็นแกนนำในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างความคุ้นเคยระหว่างโรงเรียนและชุมชน เชื่อมั่นว่าจะเกิดความสามัคคีขึ้นทันทีที่สำคัญเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างความสันติสุข
สำหรับโรงเรียนอีกหลายโรงที่จะเปิดเทอมในวันที่ 16 พ.ค.นี้ จากการประชุมร่วมกับฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็จะใช้มาตราการณ์เดิมในการดูแลความปลอดภัย ซึ่งครูและผู้บริหารโรงเรียนมีความมั่นใจมากขึ้น จึงอยากให้ครูอย่าได้ประมาทเพราะถ้าประมาทก็จะเป็นโอกาสของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่คอยจ้องทำร้ายทุกเวลา ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ดูแลความปลอดภัยครูตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครองที่มีความห่วงใยครูในพื้นที่
ด้านนายสงวน อินทรักษ์ ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงมาตรการในการดูแลความปลอดภัยของกลุ่มครูในช่วงการเปิดภาคเรียนว่า ขณะนี้ทางกลุ่มครูในแต่ละพื้นที่ยังคงใช้มาตรการเดิมที่ทางครูเคยวางไว้อยู่ โดยเฉพาะการเน้นการดูแลความปลอดภัยให้กับตนเองเป็นหลักทั้งการเดินทางเข้า - ออกโรงเรียน ซึ่งหลังจากเปิดภาคเรียนไปแล้วทางครูจะมีการร่วมประชุมเพื่อหารือถึงการวางมาตรการกันใหม่เพื่อที่จะเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ที่ได้วางไว้
ส่วนด้านขวัญและกำลังของครูในพื้นที่นั้นขณะนี้ส่วนใหญ่ถือว่าไม่มีขวัญและกำลังใจในการทำงานเท่าที่ควร เนื่องจากตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมามีการข่มขู่ด้วยใบปลิวจากกลุ่มก่อความไม่สงบมาโดยตลอด โดยมีใจความว่า "จะมาเอาชีวิตของข้าราชการ" ซึ่งทำให้ครูส่วนใหญ่เกิดความหวาดกลัว
นายสงวน กล่าวถึงยอดการขอย้ายของครูออกนอกพื้นที่ด้วยว่า ในปีการศึกษานี้มีครูขอย้ายออกจากพื้นที่จำนวนมาก โดยรวมทั้ง 3 เขตพื้นที่การศึกษามีครูขอย้ายออกจำนวนกว่า 300 คนเฉพาะในเขตพื้นที่การศึกษาเขต 2 นราธิวาสนั้นก็มียอดขอย้ายออกแล้ว 130 คน ซึ่งหลังจากนี้เขตพื้นที่การศึกษาแต่ละแห่งจะต้องเร่งหากำลังครูเข้ามาทดแทน
