“หมัก” ลงใต้ครั้งแรก หยอดคำหวานใส่พุทธ-มุสลิมอยู่ร่วมกันได้ อ้างเหตุร้ายลด

ยะลา - "สมัคร"ลงปฎิบัติราชการจังหวัดชายแดนใต้ครั้งแรก หยอดคำหวานมุสลิม-พุทธอยู่กันได้ เผยมีเพื่อนเป็นมุสลิมและรักกันมากอยู่ที่นราธิวาส ไม่ทิ้งลาย สนใจอาหารการกินเป็นพิเศษ อ้างสถานการณ์ใต้ดีขึ้น เหลือก่อเหตุเดือนละ 2 ครั้ง

วันนี้ (10 พ.ค.) เมื่อเวลา 08.45 น. นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผอ.ศอ.บต. เดินทางโดย ฮ.ทหารแบบแบล็กฮอว์ก มาลงที่สนามโรงเรียนบ้านเยาะ เพื่อเดินทางไปเยี่ยมเยียนชาวบ้านบ้านสันติ 2 หมู่ที่ 6 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา โดยมีนายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายกฤษฏา บุญราช รองผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ให้การต้อนรับ และบรรยายสรุปความเป็นมาโครงการเพื่อชุมชนเข้มแข็งและร่มเย็นบ้านสันติ 2 ตามพระราชดำริสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่กว่า 200 คน ต้องอพยพหลบภัยที่วัดนิโรธสังฆาราม อ.เมืองอยะลา เมื่อช่วงเดือน พฤศจิกายน – ธันวาคม 2549 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ได้พูดคุยสอบถามถึงความเป็นอยู่ของพระประทีป เตชะวัณโณ พระสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์บ้านสันติ 2และนายยา ดิงดอรอแม อีหม่ามประจำมัสยิดดารุลอามานซานี บ้านสันติ 2 ด้วย

ในการนี้ นายกรัฐมนตรีสนใจการทำปลาส้มจากปลาน้ำจืด ที่จับได้ในเขื่อนบางลางเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากชาวบ้านที่มาให้การต้อนรับได้สาธิตการทำปลาส้มให้นายกฯ ดู โดยนายสมัครกล่าวว่า ไม่นึกว่าทางใต้จะมีปลาส้มด้วย ตนเข้าใจว่าปลาส้มมีแต่เฉพาะในภาคอีสานเท่านั้น ถ้ารู้อย่างนี้จะได้เตรียมข้าวเหนียวมาจิ้มปลาส้มด้วย โดยใช้เวลาพบปะชาวบ้านที่บ้านสันติ 2 ประมาณ 30 นาที

หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปร่วมประชุมและรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติของหน่วยกำลังและผู้ว่าราชการจังหวัดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ห้องประชุม กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี กันต่อไป

การประชุมที่ค่ายสิรินธร นายกรัฐมนตรีได้ไล่นักข่าวที่เข้าไปบันทึกภาพและรายงานข่าวภายในห้องประชุมออก โดยกล่าวว่ากลัวความลับจะรั่วไหล หลังจากประชุมเสร็จ นายกรัฐมนตรี ได้ทำอาหารประกอบเลี้ยงให้กับทหารใหม่ ที่เป็นทหารเกณฑ์ประจำการที่กรมทหารราบที่ 5 กองพันที่ 3 ณ โรงเลี้ยง ร.5 พัน 5 ภายในค่ายสิรินธร อีกด้วย

หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางไปพบปะเยี่ยมเยียนผู้นำศาสนา และประชาชนชาวมุสลิม ที่มัสยิดกลางประจำจังหวัดยะลาโดยขอให้ทุกคนช่วยกันให้เกิดความสงบสุขโดยเร็ว เพราะจังหวัดยะลามีความอุดมสมบูรณ์ในทุกด้าน พร้อมหยอดคำหวานว่าตัวเองมีเพื่อนรักเป็นมุสลิมอยู่ที่จังหวัดนราธิวาส และไม่เคยคิดเลยว่าเป็นอื่น ดังนั้นของให้ทุกคนรักกัน

หลังจากนั้นนายสมัครได้เดินทางไปนมัสการพระธรรมสิทธิมงคลเจ้าอาวาสวัดเมืองยะลาในฐานะเจ้าคณะจังหวัดยะลา ก่อนที่จะนั่ง ฮ.เดินทางกลับสนามบินหาดใหญ่เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพมหานครกันต่อไป

นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ที่บ้านสันติ 2 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา ถึงการเดินทางลงใต้ในครั้งนี้ว่า เป็นหน้าที่ของตนที่ต้องมาเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ แต่การมาไม่ได้เป็นที่เอิกเกริกใหญ่โต การเดินทางระหว่างทางได้ดูโรงไฟฟ้า โรงแยกแก๊ส มาดูทหารก่อสร้างถนนสายยะลา – ปัตตานี ซึ่งเป็นการดูงานบนอากาศ และมาดูหมู่บ้านแห่งนี้ เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงคิดในเรื่องนี้และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารมาทรงต่องานน่าชื่นใจที่จัดหาที่ให้อยู่บนเชิงเขาอยู่กันอย่างเรียบร้อย โดยมีทหารตำรวจมาดูแลความสงบเรียบร้อย และทางราชการมาช่วยเสริมสร้างอาชีพมาให้อีก ตนไปที่ไหนมีแต่เขาเกลียดเขื่อนแต่มาที่นี้มีแต่เขารักเขื่อน

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลาว่า ขณะนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้นมาก จากการก่อเหตุเดือนละหลายสิบครั้ง เหลือเดือนละ 2 ครั้ง ตนเองดีใจที่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินที่ได้ทรงคิดถึงราษฏรและได้มาเห็นที่ทรงคิด และได้เกิดความจริง สมเด็จพระบรมฯโอรสาธิราช เสด็จทรงมาให้แนวทาง ทหาร ตำรวจ ดำเนินการ ทางราชการมาประกอบ และตนได้ให้ทางราชการโดยเฉพาะมหาดไทยมาเข้าใกล้กับราษฏรให้มาก ตนคิดว่าเป็นการแก้ปัญหาได้