กาฬสินธุ์ - บรรยากาศการส่งทหารเกณฑ์ เพื่อเป็นทหารกองประจำการ 3 เหล่าทัพที่จังหวัดกาฬสินธุ์เต็มไปด้วยความคึกคัก ทหารใหม่ต่างเต็มใจรับใช้ชาติ พร้อมประจำการยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หากชาติต้องการ
นายทิศเสถียร มะลิจักร บ้านเลขที่ 179 หมู่ 6 ต.หนองบอน อ.ท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการที่ได้รับฟังข่าวสารมาตลอด 3-4 ปีว่าที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์และพลเรือนที่ปฏิบัติหน้าที่ ได้รับอันตราย สร้างความเสียหายต่อสภาพเศรษฐกิจ และบั่นทอนสภาพจิตของประชาชนเป็นอย่างมาก
จากเหตุผลดังกล่าวจึงมีความคิดที่อยากจะเป็นทหาร เพื่อไปร่วมปราบปรามผู้ก่อการร้าย ให้บ้านเมืองพบกับความสงบเสียที พออายุถึงเกณฑ์จึงไม่ลังเลที่จะสมัคร เพื่อเป็นทหารรับใช้ชาติในครั้งนี้ ซึ่งพ่อแม่ก็ให้กำลังใจ และอวยพรให้ตนกับเพื่อนๆโชคดี
ด้านนางเลิศรัตน์ ฤทธิ์รุ่ง อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 23 บ้านโคกล่าม หมู่ 1 ต.ห้วยเม็ก อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าลูกชายของตนจับได้ใบแดง ซึ่งจะได้ไปประจำการเป็นทหารบกที่จังหวัดกาญจนบุรี ตอนที่ลูกชายจับได้ใบแดงนั้น ตนรู้สึกตกใจเป็นธรรมดาของผู้เป็นแม่ ที่ไม่อยากให้ลูกพลัดพรากจากไป เนื่องจากมีลูกชายคนเดียว แต่พอนึกว่าได้ว่าไปเป็นทหารรับใช้ชาติในสมัยนี้ ไม่ลำบากอย่างที่คิด และยังได้รับสวัสดิการต่างๆจากทางการที่สูงกว่าสมัยก่อนอีกด้วย จึงทำใจยอมรับและให้กำลังใจลูกชายด้วยซ้ำไปว่า ถ้าหากมีใจรักด้านการเป็นทหาร ก็ยินดีสนับสนุนให้ศึกษาต่อเป็นทหารนายสิบได้
ขณะที่พันโทธนพันธุ์ จันทร์ศิริ รักษาการสัสดีจังหวัดกาฬสินธุ์กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีที่ชายฉกรรจ์ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์มีเลือดรักชาติอย่างเข้มข้น โดยในการตรวจเลือกระหว่างวันที่ 1-10 เมษายนในทุกอำเภอที่ผ่านมา ปรากฎว่ามีผู้มาสมัครเป็นทหารกองประจำการใน 3 เหล่าทัพด้วยความเต็มใจจำนวนกว่า 200 นาย ขณะมีความต้องการกำลังพลจำนวน 1,600 นาย ซึ่งสำนักงานสัสดีจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จัดส่งไปประจำการในผลัดแรกนี้เป็นจำนวน 780 นาย
นายทิศเสถียร มะลิจักร บ้านเลขที่ 179 หมู่ 6 ต.หนองบอน อ.ท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการที่ได้รับฟังข่าวสารมาตลอด 3-4 ปีว่าที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์และพลเรือนที่ปฏิบัติหน้าที่ ได้รับอันตราย สร้างความเสียหายต่อสภาพเศรษฐกิจ และบั่นทอนสภาพจิตของประชาชนเป็นอย่างมาก
จากเหตุผลดังกล่าวจึงมีความคิดที่อยากจะเป็นทหาร เพื่อไปร่วมปราบปรามผู้ก่อการร้าย ให้บ้านเมืองพบกับความสงบเสียที พออายุถึงเกณฑ์จึงไม่ลังเลที่จะสมัคร เพื่อเป็นทหารรับใช้ชาติในครั้งนี้ ซึ่งพ่อแม่ก็ให้กำลังใจ และอวยพรให้ตนกับเพื่อนๆโชคดี
ด้านนางเลิศรัตน์ ฤทธิ์รุ่ง อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 23 บ้านโคกล่าม หมู่ 1 ต.ห้วยเม็ก อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าลูกชายของตนจับได้ใบแดง ซึ่งจะได้ไปประจำการเป็นทหารบกที่จังหวัดกาญจนบุรี ตอนที่ลูกชายจับได้ใบแดงนั้น ตนรู้สึกตกใจเป็นธรรมดาของผู้เป็นแม่ ที่ไม่อยากให้ลูกพลัดพรากจากไป เนื่องจากมีลูกชายคนเดียว แต่พอนึกว่าได้ว่าไปเป็นทหารรับใช้ชาติในสมัยนี้ ไม่ลำบากอย่างที่คิด และยังได้รับสวัสดิการต่างๆจากทางการที่สูงกว่าสมัยก่อนอีกด้วย จึงทำใจยอมรับและให้กำลังใจลูกชายด้วยซ้ำไปว่า ถ้าหากมีใจรักด้านการเป็นทหาร ก็ยินดีสนับสนุนให้ศึกษาต่อเป็นทหารนายสิบได้
ขณะที่พันโทธนพันธุ์ จันทร์ศิริ รักษาการสัสดีจังหวัดกาฬสินธุ์กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีที่ชายฉกรรจ์ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์มีเลือดรักชาติอย่างเข้มข้น โดยในการตรวจเลือกระหว่างวันที่ 1-10 เมษายนในทุกอำเภอที่ผ่านมา ปรากฎว่ามีผู้มาสมัครเป็นทหารกองประจำการใน 3 เหล่าทัพด้วยความเต็มใจจำนวนกว่า 200 นาย ขณะมีความต้องการกำลังพลจำนวน 1,600 นาย ซึ่งสำนักงานสัสดีจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จัดส่งไปประจำการในผลัดแรกนี้เป็นจำนวน 780 นาย