ภูเก็ตนำที่ดิน สปก.ถูกยึดคืนปลูกป่า - สร้างสวนสาธารณะ

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตเตรียมนำที่ดิน สปก.ที่ยึดคืนโดยศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด ทำโครงการปลูกป่า สร้างสวนสาธารณะ ฟื้นฟูสภาพแวดล้อม เลือกที่แปลง“บุญลือ ตันติวิท”นำร่อง

วันนี้ (1พ.ค.) นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานประชุมหัวหน้าส่วนราชการและผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีพื้นที่ สปก.แปลงที่ศาลฎีกาพิพากษาถึงที่สุดอยู่ในเขตพื้นที่ เพื่อกำหนดแนวทางในการฟื้นฟูพื้นที่ สปก.ที่ยึดกลับมาได้แล้วจำนวน 5 ราย 11 แปลง

นายนิรันดร์ กล่าวว่า ตามที่ศาลฎีกาพิพากษาให้เพิกถอนหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินจำนวน 3 ราย จำนวนที่ดิน 6 แปลง เนื้อที่รวมประมาณ 182 ไร่ และล่าสุดมีการตัดสินอีก 2 คดี ซึ่งศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ให้จำเลยออกจากที่ดิน สปก.ทั้ง 2 รายมีเนื้อที่รวม 78 ไร่ นอกจากนั้นยังมีที่ดินรายนายสุทิน เทพบุตร อีก 1 แปลงที่ยอมออกจากพื้นที่โดยไม่ต้องมีการฟ้องขับไล่ เนื้อที่ประมาณ 36 ไร่

ที่ผ่านมาคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดได้มีมติเห็นชอบในหลักการว่าไม่ควรจัดที่ดินดังกล่าวให้บุคคลอื่นเข้าไปทำประโยชน์ แต่ให้นำที่ดินดังกล่าวไปดำเนินโครงการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมในเขตปฏิรูปที่ดิน เช่น ปลูกต้นไม้ยืนต้น ทำแปลงอนุรักษ์พันธุกรรมพืช หรือโครงการอื่นๆ ที่เหมาะสม

ด้านนายธีรวุฒิ ถาวรพัฒนพงศ์ หัวหน้าสำนักงานปฎิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ต กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ได้มีการมอบเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ให้ราษฎร และได้มีการตรวจสอบพบว่าขาดคุณสมบัติการเป็นเกษตรกร และมีที่ดินอยู่แล้วเกินจำนวนที่กฎหมายกำหนด จึงได้มีการสั่งเพิกถอน แต่มีบางรายไม่ยอมออกจากพื้นที่ และได้มีการฟ้องร้องจนถึงศาลฎีกาซึ่งได้มีคำพิพากษาให้ขับไล่จำเลยพร้อมบริวารออกจากพื้นที่ ประกอบด้วย แปลงของนายทศพร เทพบุตร เนื้อที่ประมาณ 98 ไร่ ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งยอมปฎิบัติตามคำสั่งศาล

แปลงของนายเจริญ ถาวรว่องวงศ์ มี 4 แปลง ตั้งอยู่พื้นที่ ต.กมลา อ.กะทู้ ซึ่งไม่ยินยอมออกจากพื้นที่ โดยในแปลงได้มีการนำหมายบังคับคดีไปติดไว้ และขณะนี้ครบ 8 วันแล้ว ส่วนอีก 3 แปลงที่เหลือมีสิ่งปลูกสร้าง จะใช้วิธีการแจ้งตำรวจเข้าทำการจับกุมตามหมายบังคับคดี

แปลงต่อมาเป็นของนายบันลือ ตันติวิท (เสียชีวิตแล้ว) เนื้อที่ประมาณ 69 ไร่ ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ต.ป่าตอง ปรากฎว่ามีผู้บุกรุกเข้าไปทำประโยชน์โดนอ้างว่าถือครองมาเป็นเวลา 20 ปี ซึ่งก็ได้แจ้งอัยการออกหมายบังคับคดีและนำไปติดแล้ว และรู้ตัวผู้บุกรุกด้วย ซึ่งก็จะได้แจ้งความดำเนินคดีต่อไป

ส่วนอีก 2 รายซึ่งศาลเพิ่งตัดสิน คือ แปลงของนายณรงค์ นพดารา เนื้อที่ประมาณ 21 ไร่ ตั้งอยู่ หมู่ที่ 2 ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต กับแปลงของนางวิภาพรรณ ชูทรัพย์ จำนวน 4 แปลง เนื้อที่รวมประมาณ 57 ไร่ ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ต.ป่าตอง อ.กะทู้

ในการฟื้นฟูพื้นที่ สปก.ที่คดีถึงที่สุดแล้วนั้น นายนิรันดร์ ได้สรุปว่า เบื้องต้นเลือกพื้นที่แปลงของนายบันลือ ตันติวิท ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 69 ไร่ เพื่อปลูกป่าตามนโยบายเร่งด่วน และให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการจัดทำแผนผังว่าจะปลูกพันธุ์ไม้อะไรบ้างตามความเหมาะสม พร้อมทำป้ายชื่อแสดงให้เห็นชัดเจน โดยแบ่งพื้นที่ทั้งหมดในการปลูกป่า 70 % ส่วนที่เหลืออีก 30 % เพื่อใช้สอยอื่นๆ ตามความเหมาะสม และเชิญผู้ใหญ่มาร่วมในงานวันเปิดโครงการ

ส่วนที่เหลือที่จะดำเนินการในแปลงอื่นๆ ในระยะยาวเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืนก็ให้ท้องถิ่นที่มีพื้นที่ดังกล่าวไปดำเนินการขอใช้พื้นที่ และจัดทำโครงการพร้อมจัดตั้งงบประมาณเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง เสนอมายังฝ่ายเลขาฯ เพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งส่วนของหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งประกอบด้วยเทศบาลเมืองป่าตอง อ.กะทู้ เทศบาลตำบลราไวย์ อ.ราไวย์ และองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา อ.กะทู้ ต่างก็ขานรับโครงการดังกล่าวพร้อมที่จะทำหนังสือถือ สปก.เพื่อขอใช้พื้นที่ในการดำเนินการปลูกป่าและสร้างสวนสาธารณในพื้นที่

สำหรับพันธุ์ไม้ที่จะมีการนำไปปลูกและมีการเตรียมไว้แล้วบางส่วน เช่น ประดู่บ้านสะเดาเทียม ตะเคียน กระถินเทพา ต้นทัง เป็นต้น