ศูนย์ข่าวภูเก็ต - นัดชี้ชะตาครองที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ภูเก็ต อีก 2 รายพรุ่งนี้ ขณะที่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดมีมติไม่มอบพื้นที่ให้เกษตรกรรายใหม่หลัดยึดที่ดินกลับมาได้แล้ว 3 แปลง เตรียมนำไปปลูกป่าฟื้นฟูสภาพแวดล้อม
นายธีรวุฒิ ถาวรพัฒนพงศ์ ปฎิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าการอ่านคำพิพากษาศาลฎิกาคดี ส.ป.ก.ฟ้องขับไล่จำเลยที่ถูก ส.ป.ก.เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดิน ส.ป.ก.4-01 เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (22 เม.ย.) เวลา 13.30 น.ศาลจังหวัดภูเก็ตนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีเพ่ง ส.ป.ก.เป็นโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดิน ส.ป.ก.4-01 จำนวน 2 ราย คือ รายของ นายณรงค์ นพดารา ครอบครองที่ดินจำนวน 21 ไร่ ในพื้นที่ป่าเทือกเขานาคเกิด ม.2 ต.กะรน อ.เมือง และรายของ นางวิภาพรรณ ชูทรัพย์ ครอบครองที่ดินจำนวน 57 ไร่ อยู่ในพื้นที่ ม.4 ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต
อย่างไรก็ตาม สำหรับการตัดสินคดี ส.ป.ก.ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ได้ตัดสินมาแล้ว 3 คดี คือคดีของ นายทศพร เทพบุตร นายเจริญ ถาวรว่องวงค์ และนายบันลือ ตันติวิท ซึ่งทั้งหมดศาลฎีกาตัดสินให้ออกจากที่ดิน ส.ป.ก.4-01 และในวันพรุ่งนี้เป็นการตัดสินคดีรายที่ 4 และที่ 5 ซึ่งยังเหลืออีก 6 รายที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ประกอบด้วย นายธเนศ เอกวานิช, นายบุ่นเก้ง ศรีแสนสุชาติ, นายวานิช เอกวานิช, นายสมนึก ไกรทัศน์, นายโสภณ เอกวานิช และ นายหัตถ์ กตัญชลีกุล
“การฟ้องขับไล่ผู้ครอบครองที่ดินทั้ง 11 รายนั้น ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2541 เนื่องจาก ส.ป.ก.ได้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับ ส.ป.ก.4-01 เมื่อปี 2537 พบว่า ทั้ง 11 รายขาดคุณสมบัติการเป็นเกษตรกรทาง ส.ป.ก.จึงได้เพิกถอนเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ของทั้ง 11 ราย” นายธีรวุฒิ กล่าว และว่า
สำหรับการดำเนินการกับที่ดินที่ศาลตัดสินและยึดที่ดินกลับมาเป็นของ ส.ป.ก.ทั้ง 3 รายนั้น ขณะนี้ในส่วนของ นายทศพร ได้ออกจากพื้นที่แล้ว ส่วนที่เหลืออีก 2 รายยังไม่ยอมออก ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ส่วนการดำเนินการกับพื้นที่ที่ยึดกลับมานั้นได้มีการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ตแล้ว โดยที่ประชุมมีมติที่จะไม่นำที่ดินของทั้ง 3 ราย ไปจัดสรรให้กับเกษตรกรรายอื่น แต่จะนำที่ดินดังกล่าวซึ่งมีประมาณ 181 ไร่ มาฟื้นฟูสภาพแวดล้อมล้อมโดยการปลูกป่า เร็วๆ นี้ จะประชุมเพื่อของบประมาณจากทางจังหวัดมาดำเนินการปลูกป่าในที่ดินที่ยึดกลับมาจำนวน 100 ไร่ ก่อนโดยจะใช้งบประมาณในการดำเนินการ 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดที่ต้องการเพิ่มที่ป่าให้กับจังหวัดภูเก็ต
นายธีรวุฒิ ถาวรพัฒนพงศ์ ปฎิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าการอ่านคำพิพากษาศาลฎิกาคดี ส.ป.ก.ฟ้องขับไล่จำเลยที่ถูก ส.ป.ก.เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดิน ส.ป.ก.4-01 เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (22 เม.ย.) เวลา 13.30 น.ศาลจังหวัดภูเก็ตนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีเพ่ง ส.ป.ก.เป็นโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดิน ส.ป.ก.4-01 จำนวน 2 ราย คือ รายของ นายณรงค์ นพดารา ครอบครองที่ดินจำนวน 21 ไร่ ในพื้นที่ป่าเทือกเขานาคเกิด ม.2 ต.กะรน อ.เมือง และรายของ นางวิภาพรรณ ชูทรัพย์ ครอบครองที่ดินจำนวน 57 ไร่ อยู่ในพื้นที่ ม.4 ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต
อย่างไรก็ตาม สำหรับการตัดสินคดี ส.ป.ก.ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ได้ตัดสินมาแล้ว 3 คดี คือคดีของ นายทศพร เทพบุตร นายเจริญ ถาวรว่องวงค์ และนายบันลือ ตันติวิท ซึ่งทั้งหมดศาลฎีกาตัดสินให้ออกจากที่ดิน ส.ป.ก.4-01 และในวันพรุ่งนี้เป็นการตัดสินคดีรายที่ 4 และที่ 5 ซึ่งยังเหลืออีก 6 รายที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ประกอบด้วย นายธเนศ เอกวานิช, นายบุ่นเก้ง ศรีแสนสุชาติ, นายวานิช เอกวานิช, นายสมนึก ไกรทัศน์, นายโสภณ เอกวานิช และ นายหัตถ์ กตัญชลีกุล
“การฟ้องขับไล่ผู้ครอบครองที่ดินทั้ง 11 รายนั้น ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2541 เนื่องจาก ส.ป.ก.ได้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับ ส.ป.ก.4-01 เมื่อปี 2537 พบว่า ทั้ง 11 รายขาดคุณสมบัติการเป็นเกษตรกรทาง ส.ป.ก.จึงได้เพิกถอนเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ของทั้ง 11 ราย” นายธีรวุฒิ กล่าว และว่า
สำหรับการดำเนินการกับที่ดินที่ศาลตัดสินและยึดที่ดินกลับมาเป็นของ ส.ป.ก.ทั้ง 3 รายนั้น ขณะนี้ในส่วนของ นายทศพร ได้ออกจากพื้นที่แล้ว ส่วนที่เหลืออีก 2 รายยังไม่ยอมออก ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ส่วนการดำเนินการกับพื้นที่ที่ยึดกลับมานั้นได้มีการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ตแล้ว โดยที่ประชุมมีมติที่จะไม่นำที่ดินของทั้ง 3 ราย ไปจัดสรรให้กับเกษตรกรรายอื่น แต่จะนำที่ดินดังกล่าวซึ่งมีประมาณ 181 ไร่ มาฟื้นฟูสภาพแวดล้อมล้อมโดยการปลูกป่า เร็วๆ นี้ จะประชุมเพื่อของบประมาณจากทางจังหวัดมาดำเนินการปลูกป่าในที่ดินที่ยึดกลับมาจำนวน 100 ไร่ ก่อนโดยจะใช้งบประมาณในการดำเนินการ 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดที่ต้องการเพิ่มที่ป่าให้กับจังหวัดภูเก็ต
