เชียงใหม่ - คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ มีมติให้ผู้ครอบครอง เอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ที่นำที่ดินไปจัดสรร แบ่งขายให้กับแรงงานต่างด้าว รื้อถอนภายใน 30 วัน หากครบกำหนดยังไม่ดำเนินการ ก็จะเพิกถอนสิทธิ
วันนี้ (18 เม.ย.) ที่ประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมี นางสาวเรืองวรรณ บัวนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน ได้มีมติให้ นางอรทัย รัตนพจน์ และนางกนกรัฐ อึ้งศรีวงศ์ ผู้ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ในตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ 2 แปลงรวมกว่า 70 ไร่ ที่นำที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ไปจัดสรร แบ่งล็อกขายให้กับแรงงานต่างด้าวชาวพม่ากว่า 200 แปลง ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และปรับปรุงพื้นที่ให้อยู่ในสภาพเดิมภายใน 30 วัน
หากครบกำหนด ยังไม่ดำเนินการ เจ้าหน้าที่ก็จะเข้าไปรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง พร้อมทั้งเพิกถอนสิทธิ์ การครอบครองที่ดินทั้งหมด นอกจากนั้น ยังได้แจ้งความดำเนินคดีกับแรงงานต่างด้าวที่เข้าไปบุกรุกพื้นที่ ปลูกสร้างบ้านรวมทั้งหมด 177 ราย
นายปกรณ์ สุริวรรณ ปลัดอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงว่า ชาวบ้านหนองผึ้งใหม่บางส่วน ย้ายมาจากอำเภอตามแนวชายแดน ซึ่งมีบัตรเขียวขอบแดง หรือบัตรบุคคลบนพื้นที่สูง แล้วยังชักชวนต่างด้าวชาวพม่า เข้ามาพักอาศัยอยู่ อีกเป็นจำนวนมาก จนเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีประชากรมากกว่า 1,700 คน บางส่วนทางอำเภอได้ออกหลักฐานถิ่นที่อยู่ให้แล้ว หากมีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง จะต้องมีการหาที่อยู่ใหม่ ให้กับแรงงานต่างด้าว ตามหลักสิทธิมนุษยชนด้วย
ด้านพันตำรวจเอก ประยุทธ ชมมาลี ผู้กำกับด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ เผยว่า ขณะนี้แรงงานต่างด้าวและบุคคลบนพื้นที่สูงที่ออกนอกเขตควบคุมทั้งหมด ที่เข้ามาปลูกบ้านพักอาศัย ในที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ในหมู่บ้านหนองผึ้งใหม่ ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ถูกจับกุมได้รวมกว่า 60 คน ยังควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ และสถานีตำรวจภูธรอำเภอแม่แตง เพื่อรอสอบปากคำในฐานะพยานเพื่อเอาผิดผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
โดยคาดว่า สิ้นเดือนเมษายนนี้ น่าจะสรุปสำนวนเอาผิดผู้เกี่ยวข้องได้ ส่วน นายส่างมล ผู้นำชุมชนหมู่บ้านต่างด้าว หากพบเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ก็จะเสนอถอนหนังสือถิ่นที่อยู่ ซึ่งเป็นหนังสือสำคัญในการออกสัญชาติไทยด้วย
วันนี้ (18 เม.ย.) ที่ประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมี นางสาวเรืองวรรณ บัวนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน ได้มีมติให้ นางอรทัย รัตนพจน์ และนางกนกรัฐ อึ้งศรีวงศ์ ผู้ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ในตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ 2 แปลงรวมกว่า 70 ไร่ ที่นำที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ไปจัดสรร แบ่งล็อกขายให้กับแรงงานต่างด้าวชาวพม่ากว่า 200 แปลง ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และปรับปรุงพื้นที่ให้อยู่ในสภาพเดิมภายใน 30 วัน
หากครบกำหนด ยังไม่ดำเนินการ เจ้าหน้าที่ก็จะเข้าไปรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง พร้อมทั้งเพิกถอนสิทธิ์ การครอบครองที่ดินทั้งหมด นอกจากนั้น ยังได้แจ้งความดำเนินคดีกับแรงงานต่างด้าวที่เข้าไปบุกรุกพื้นที่ ปลูกสร้างบ้านรวมทั้งหมด 177 ราย
นายปกรณ์ สุริวรรณ ปลัดอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงว่า ชาวบ้านหนองผึ้งใหม่บางส่วน ย้ายมาจากอำเภอตามแนวชายแดน ซึ่งมีบัตรเขียวขอบแดง หรือบัตรบุคคลบนพื้นที่สูง แล้วยังชักชวนต่างด้าวชาวพม่า เข้ามาพักอาศัยอยู่ อีกเป็นจำนวนมาก จนเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีประชากรมากกว่า 1,700 คน บางส่วนทางอำเภอได้ออกหลักฐานถิ่นที่อยู่ให้แล้ว หากมีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง จะต้องมีการหาที่อยู่ใหม่ ให้กับแรงงานต่างด้าว ตามหลักสิทธิมนุษยชนด้วย
ด้านพันตำรวจเอก ประยุทธ ชมมาลี ผู้กำกับด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ เผยว่า ขณะนี้แรงงานต่างด้าวและบุคคลบนพื้นที่สูงที่ออกนอกเขตควบคุมทั้งหมด ที่เข้ามาปลูกบ้านพักอาศัย ในที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ในหมู่บ้านหนองผึ้งใหม่ ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ถูกจับกุมได้รวมกว่า 60 คน ยังควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ และสถานีตำรวจภูธรอำเภอแม่แตง เพื่อรอสอบปากคำในฐานะพยานเพื่อเอาผิดผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
โดยคาดว่า สิ้นเดือนเมษายนนี้ น่าจะสรุปสำนวนเอาผิดผู้เกี่ยวข้องได้ ส่วน นายส่างมล ผู้นำชุมชนหมู่บ้านต่างด้าว หากพบเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ก็จะเสนอถอนหนังสือถิ่นที่อยู่ ซึ่งเป็นหนังสือสำคัญในการออกสัญชาติไทยด้วย