ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ผู้ว่าฯเชียงใหม่ สั่งนายอำเภอแม่แตง และปฏิรูปที่ดินจังหวัดเข้าตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก.4-01 กว่า 70 ไร่ ที่กลุ่มนายทุนทำการแบ่งแปลงขายให้กลุ่มชาวต่างด้าวสร้างบ้านอยู่อาศัยเป็นหมู่บ้าน เบื้องต้นพบมีนายทุนอยู่เบื้องหลัง 3 ราย ลั่นหากมีความผิดจะลงโทษตามกฎหมายพร้อมดำเนินการเพิกถอนพื้นที่
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีมีนายทุนนำที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ที่บ้านหนองผึ้งใหม่ ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ จัดสรรเป็นแปลงแล้วแบ่งขายให้กลุ่มชาวต่างด้าวสร้างบ้านอยู่อาศัยรวมกว่า 200 แปลง บนพื้นที่ประมาณ 70 ไร่ ว่า ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ และนายอำเภอแม่แตง เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวแล้ว
เบื้องต้นพบว่า มีนายทุน 3 ราย ที่เป็นเจ้าของที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ดังกล่าว ที่มีที่ดินรวมกันไม่ต่ำกว่า 70 ไร่ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง หากพบว่ามีความผิดจะทำการเพิกถอนที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ดังกล่าว
สำหรับกลุ่มชาวต่างด้าวที่เข้ามาซื้อที่ดินสร้างบ้านอยู่อาศัยบนที่ดิน ส.ป.ก.-4-01 ดังกล่าวนั้น เป็นกลุ่มชาวไทใหญ่ที่ได้รับการผ่อนผันให้อยู่อาศัยในประเทศไทยได้ อย่างไรก็ตามจะต้องมีการตรวจสอบที่ไปที่มาอย่างละเอียดอีกครั้ง
นอกจากนี้ จะต้องมีการตรวจสอบด้วยว่ากระบวนการทั้งหมดในการแบ่งขายที่ดินและนำชาวต่างด้าวกลุ่มนี้มาสร้างบ้านอยู่อาศัยนั้น มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลังด้วยหรือไม่ หากพบก็จะดำเนินการลงโทษพร้อมกับผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด
ทั้งนี้ ในวันที่ 3 เม.ย.2551 นี้ จะมอบหมายให้ นายชุมพร แสงมณี ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีกำหนดเดินทางตรวจราชการในพื้นที่อำเภอแม่แตงและเชียงดาว เดินทางพร้อมด้วยนายอำเภอแม่แตง และเจ้าหน้าที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ เข้าไปดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวอีกครั้งหนึ่งด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ดังกล่าวนั้น ในเวลานี้มีบ้านเรือนของกลุ่มชาวต่างด้าวที่สร้างอยู่อาศัยแล้วนับร้อยหลังคาเรือน และกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีกเป็นจำนวนมาก โดยบ้านแต่ละหลังสามารถใช้บริการกรแสไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและน้ำประปาได้ด้วย ทั้งนี้การซื้อขายที่ดินดังกล่าวนั้น ชาวต่างด้าวระบุว่าได้มีการทำสัญญาซื้อขายที่ดินกับเจ้าของที่ดิน โดยมีผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เป็นพยานลงนามในสัญญาซื้อขายที่ดิน ซึ่งยังมีหนังสือสัญญาเก็บไว้เป็นหลักฐาน