ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – เหยื่อแชร์รถทัวร์เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.หาดใหญ่ ระบุ ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้ลงทุนในกิจการให้บริการรถทัวร์ ก่อนเชิดเงินหนี เหยื่อสูญเงินร่วมล้าน
วันนี้ (10 เม.ย.) ร.ต.ท.ภูริทัศน์ ชัยศร ร้อยเวร สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งจากนางนันทนา บุญโสม อาชีพค้าขาย อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 ซอย 3 จันทร์วิโรจน์ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา, นางสาวโสภินภา อุตสาสาร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 ซอย 3 จันทร์วิโรจน์ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และ นางปราณี สื่อรุ่งเรือง อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 ม.1 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยทั้ง 3 คน ให้การว่าเมื่อประมาณปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นางกนกวรรณ อินทร์คีรี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 ม.41 ต.ธานี อ.เมืองสุโขทัย จ.สุโขทัย และเพื่อนหญิงอีกคน ชักชวนให้ร่วมลงทุนกิจการรถทัวร์
โดย นางกนกวรรณ ที่มาทำงานเป็นแม่ครัวร้านอาหารแห่งหนึ่ง ชักชวนว่า มีกิจการรถทัวร์อยู่ที่ จังหวัดสุโขทัย ลงทุนง่ายๆ เพียงคันละ 10,000 บาท จะได้ค่าตอบแทน 2,500 บาท หลังจากลงทุนแล้วประมาณ 3-5 วัน ทางบริษัททัวร์จะโอนเงินมาให้ จะมีรถทัวร์ออกทุกวันรายได้ดี พร้อมกับโชว์รายได้จากการลงทุนดังกล่าวแรกๆ ที่ชักชวนลงทุน นางกนกวรรณ จะรับโอนให้ แต่หลังๆ ให้ผู้ที่ร่วมลงทุนโอนเงินเข้าบัญชีชื่อ นายเจะแส ยุนุ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 634-0-11526-7 ธนาคารกรุงเทพ สาขาคาร์ฟูร์ หาดใหญ่ และพยายามชักชวนให้ร่วมลงทุนกันมากๆ
แต่ระยะหลังปรากฏว่า นางกนกวรรณ หายไปติดต่อไม่ได้ และเงินก็ไม่ได้โอนหรือคืนกลับมาให้ ทำให้กลุ่มผู้ลงทุนคาดว่าอาจจะถูกโกงจากการลงทุนครั้งนี้ จึงมาแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว
ซึ่ง นางนันทนา บุญโสม ร่วมลงทุนดังกล่าวไปแล้วจำนวนเงิน 30,000 บาท นางสาวโสภินภา อุตสาสาร ลงทุนไปแล้วเป็นจำนวนเงิน 30,000 บาท, นางปราณี สื่อรุ่งเรือง ลงทุนไปแล้ว 30,000 บาท
และก่อนหน้านี้ มีผู้เสียหายคดีดังกล่าวเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ภูริทัศน์ ไปแล้ว 3 คน คือ นางบัวลา บุญเสริม อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 ซอย 3 จันทร์วิโรจน์ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ ลงทุนไปแล้วจำนวน 220,000 บาท, นางพันธ์ทิพย์ เอมะรัฐ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 ซอย 3 จันทร์วิโรจน์ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ลงทุนไปจำนวน 130,000 บาท และ นางสาวธัญลักาณ์ ปิยะภัทรกุล อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129/2 ม.1 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ร่วมลงทุน 120,000 บาท ซึ่งผู้ร่วมลงทุนทั้งหมดกล่าวว่า แรกๆ ที่ลงทุนจะได้รับเงินครบตามเวลาที่กำหนด แต่เมื่อลงเงินไปมากๆ กลับไม่สามารถติดต่อผู้ชักชวนได้ จึงเข้าแจ้งต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการต่อไป
วันนี้ (10 เม.ย.) ร.ต.ท.ภูริทัศน์ ชัยศร ร้อยเวร สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งจากนางนันทนา บุญโสม อาชีพค้าขาย อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 ซอย 3 จันทร์วิโรจน์ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา, นางสาวโสภินภา อุตสาสาร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 ซอย 3 จันทร์วิโรจน์ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และ นางปราณี สื่อรุ่งเรือง อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 ม.1 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยทั้ง 3 คน ให้การว่าเมื่อประมาณปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นางกนกวรรณ อินทร์คีรี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 ม.41 ต.ธานี อ.เมืองสุโขทัย จ.สุโขทัย และเพื่อนหญิงอีกคน ชักชวนให้ร่วมลงทุนกิจการรถทัวร์
โดย นางกนกวรรณ ที่มาทำงานเป็นแม่ครัวร้านอาหารแห่งหนึ่ง ชักชวนว่า มีกิจการรถทัวร์อยู่ที่ จังหวัดสุโขทัย ลงทุนง่ายๆ เพียงคันละ 10,000 บาท จะได้ค่าตอบแทน 2,500 บาท หลังจากลงทุนแล้วประมาณ 3-5 วัน ทางบริษัททัวร์จะโอนเงินมาให้ จะมีรถทัวร์ออกทุกวันรายได้ดี พร้อมกับโชว์รายได้จากการลงทุนดังกล่าวแรกๆ ที่ชักชวนลงทุน นางกนกวรรณ จะรับโอนให้ แต่หลังๆ ให้ผู้ที่ร่วมลงทุนโอนเงินเข้าบัญชีชื่อ นายเจะแส ยุนุ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 634-0-11526-7 ธนาคารกรุงเทพ สาขาคาร์ฟูร์ หาดใหญ่ และพยายามชักชวนให้ร่วมลงทุนกันมากๆ
แต่ระยะหลังปรากฏว่า นางกนกวรรณ หายไปติดต่อไม่ได้ และเงินก็ไม่ได้โอนหรือคืนกลับมาให้ ทำให้กลุ่มผู้ลงทุนคาดว่าอาจจะถูกโกงจากการลงทุนครั้งนี้ จึงมาแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว
ซึ่ง นางนันทนา บุญโสม ร่วมลงทุนดังกล่าวไปแล้วจำนวนเงิน 30,000 บาท นางสาวโสภินภา อุตสาสาร ลงทุนไปแล้วเป็นจำนวนเงิน 30,000 บาท, นางปราณี สื่อรุ่งเรือง ลงทุนไปแล้ว 30,000 บาท
และก่อนหน้านี้ มีผู้เสียหายคดีดังกล่าวเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ภูริทัศน์ ไปแล้ว 3 คน คือ นางบัวลา บุญเสริม อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 ซอย 3 จันทร์วิโรจน์ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ ลงทุนไปแล้วจำนวน 220,000 บาท, นางพันธ์ทิพย์ เอมะรัฐ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 ซอย 3 จันทร์วิโรจน์ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ลงทุนไปจำนวน 130,000 บาท และ นางสาวธัญลักาณ์ ปิยะภัทรกุล อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129/2 ม.1 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ร่วมลงทุน 120,000 บาท ซึ่งผู้ร่วมลงทุนทั้งหมดกล่าวว่า แรกๆ ที่ลงทุนจะได้รับเงินครบตามเวลาที่กำหนด แต่เมื่อลงเงินไปมากๆ กลับไม่สามารถติดต่อผู้ชักชวนได้ จึงเข้าแจ้งต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการต่อไป