ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวเพื่อขอแก้ไขรัฐธรรมนูญพุทธศักราช 2550 นั้นไม่เกี่ยวข้องกับ นายกรัฐมนตรีเก่า นายกรัฐมนตรีใหม่
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวที่จังหวัดภูเก็ตภายหลังการเปิดประธานเปิดการสัมมนาส่งเสริมและพัฒนาความรู้ในการจัดการเรียนการสอน เรื่อง “การคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544” ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ จัดขึ้นที่โรงแรมเมโทรโพล เมื่อวันที่ 3 เมษายนนี้ เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวเพื่อขอแก้ไขรัฐธรรมนูญพุทธศักราช 2550 นั้น ว่า ไม่เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรีเก่า นายกรัฐมนตรีใหม่ เพราะว่าคดีความต่างที่เกิดขึ้นต้องว่ากันไปตามเหตุและผล
แต่ที่จะขอแก้ไขนั้น เป็นประเด็นเรื่องของการแก้การยุบพรรค เพราะเห็นว่ารัฐธรรนูญฉบับปี 2550 นั้นยุบง่ายเหลือเกิน สื่อทั้งหลายก็ทราบกันดี ขณะนี้ก็ที่ว่าคำที่ว่าให้ถือว่า พรรคทำผิดด้วย ทั้งที่คนส่วนใหญ่เขาไม่รู้เรื่อง พอพรรคทำผิด ยุบพรรคเสร็จแล้ว สมาชิกพรรคก็เจอไปทั้งหมด ในเรื่องนี้อยากจะให้สื่อมวลชนไปถามพรรคประชาธิปัตย์ว่า ทำไมถึงลดกรรมการบริหารพรรคจาก 50-60 คน เหลือเพียง 19 คน ในการประชุมพรรคล่าสุดและได้มีการเปลี่ยนแล้ว รวมทั้งพรรคชาติไทย เป็นอีกพรรคหนึ่ง ที่ดำเนินการลักษณะเดียวกัน เพราะว่าเขากลัวปัญหาการยุบพรรค และคนในพรรคมีปัญหาด้วย นี่คือเรื่องที่ต้องการจะแก้
“ส่วนเรื่องของ คตส.เราไม่ไปยุ่งกับเขาด้วย คุณก็ว่ากันไป เพียงแต่ว่า ควรจะเปิดโอกาสให้เขาต่อสู้ได้ว่า มันไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ใช่คุณไปเขียนกฎหมายและบอกว่าที่ทำมาในอดีต ปัจจุบันและอนาคต ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหมด ซึ่งการเสนอขอแก้ของพรรค มีเหตุผลแบบนี้ แต่ใครที่ออกมาค้านก็ ไม่ได้ว่าอะไร และในขณะนี้ในพรรคก็คิดกันหลายส่วน บางส่วนก็บอกว่าแก้บางประเด็น บางส่วนก็บอกว่าแก้ทั้งฉบับดีไหม เรื่องนี้ก็แล้วแต่ ยังหาข้อยุติกันอยู่ว่าจะเป็นอย่างไร
ส่วนการเลื่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไป เป็นอีกส่วนหนึ่ง ที่กำลังคิดกันอยู่โดยเห็นว่า มีหลายความคิด และบางส่วนถึงขนาดบอกว่ามี ส.ส.ร.ภาค 2 ไหม ก็ว่ากันไปและปัญหาการเมืองก็แก้ด้วยการเมือ แต่ว่ากฎหมาย ผมก็ย้ำตลอดว่า ตั้งแต่เราเปลี่ยนแปลงการปกครองหรือประเภทที่ว่ามีการปฏิวัติหรือยึดอำนาจกันมา เรามีกฎหมายที่ไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรมเยอะ” นายชูศักดิ์ กล่าว และว่า
การเสนอขอแก้ไขรัฐธรรม อาจจะมีปัญหาการต่อต้าน เป็นเรื่องธรรมดาและพรรคพลังประชาชน ต้องไปคิดคำนึงเหมือนกัน
ต่อข้อถามที่ว่า ปัญหาของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ก่อเหตุเมื่อวันที่ 2 เมษายนนี้ ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาส่วนรวมจะต้องมีการดำเนินการอย่างไร นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเลย เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องการต่อยกันแต่เป็นเรื่องของจริยธรรมและอะไรต่างๆของ ส.ส.และทราบว่าในขณะนี้กำลังมีการยกร่างประมวลจริยธรรม และเห็นว่า สภาต้องตั้งกรรมการสอบสวนกันไป และในส่วนของพรรคพลังประชาชน จะต้องมีการนำไปหารือภายในพรรคแน่นอน
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวที่จังหวัดภูเก็ตภายหลังการเปิดประธานเปิดการสัมมนาส่งเสริมและพัฒนาความรู้ในการจัดการเรียนการสอน เรื่อง “การคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544” ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ จัดขึ้นที่โรงแรมเมโทรโพล เมื่อวันที่ 3 เมษายนนี้ เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวเพื่อขอแก้ไขรัฐธรรมนูญพุทธศักราช 2550 นั้น ว่า ไม่เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรีเก่า นายกรัฐมนตรีใหม่ เพราะว่าคดีความต่างที่เกิดขึ้นต้องว่ากันไปตามเหตุและผล
แต่ที่จะขอแก้ไขนั้น เป็นประเด็นเรื่องของการแก้การยุบพรรค เพราะเห็นว่ารัฐธรรนูญฉบับปี 2550 นั้นยุบง่ายเหลือเกิน สื่อทั้งหลายก็ทราบกันดี ขณะนี้ก็ที่ว่าคำที่ว่าให้ถือว่า พรรคทำผิดด้วย ทั้งที่คนส่วนใหญ่เขาไม่รู้เรื่อง พอพรรคทำผิด ยุบพรรคเสร็จแล้ว สมาชิกพรรคก็เจอไปทั้งหมด ในเรื่องนี้อยากจะให้สื่อมวลชนไปถามพรรคประชาธิปัตย์ว่า ทำไมถึงลดกรรมการบริหารพรรคจาก 50-60 คน เหลือเพียง 19 คน ในการประชุมพรรคล่าสุดและได้มีการเปลี่ยนแล้ว รวมทั้งพรรคชาติไทย เป็นอีกพรรคหนึ่ง ที่ดำเนินการลักษณะเดียวกัน เพราะว่าเขากลัวปัญหาการยุบพรรค และคนในพรรคมีปัญหาด้วย นี่คือเรื่องที่ต้องการจะแก้
“ส่วนเรื่องของ คตส.เราไม่ไปยุ่งกับเขาด้วย คุณก็ว่ากันไป เพียงแต่ว่า ควรจะเปิดโอกาสให้เขาต่อสู้ได้ว่า มันไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ใช่คุณไปเขียนกฎหมายและบอกว่าที่ทำมาในอดีต ปัจจุบันและอนาคต ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหมด ซึ่งการเสนอขอแก้ของพรรค มีเหตุผลแบบนี้ แต่ใครที่ออกมาค้านก็ ไม่ได้ว่าอะไร และในขณะนี้ในพรรคก็คิดกันหลายส่วน บางส่วนก็บอกว่าแก้บางประเด็น บางส่วนก็บอกว่าแก้ทั้งฉบับดีไหม เรื่องนี้ก็แล้วแต่ ยังหาข้อยุติกันอยู่ว่าจะเป็นอย่างไร
ส่วนการเลื่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไป เป็นอีกส่วนหนึ่ง ที่กำลังคิดกันอยู่โดยเห็นว่า มีหลายความคิด และบางส่วนถึงขนาดบอกว่ามี ส.ส.ร.ภาค 2 ไหม ก็ว่ากันไปและปัญหาการเมืองก็แก้ด้วยการเมือ แต่ว่ากฎหมาย ผมก็ย้ำตลอดว่า ตั้งแต่เราเปลี่ยนแปลงการปกครองหรือประเภทที่ว่ามีการปฏิวัติหรือยึดอำนาจกันมา เรามีกฎหมายที่ไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรมเยอะ” นายชูศักดิ์ กล่าว และว่า
การเสนอขอแก้ไขรัฐธรรม อาจจะมีปัญหาการต่อต้าน เป็นเรื่องธรรมดาและพรรคพลังประชาชน ต้องไปคิดคำนึงเหมือนกัน
ต่อข้อถามที่ว่า ปัญหาของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ก่อเหตุเมื่อวันที่ 2 เมษายนนี้ ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาส่วนรวมจะต้องมีการดำเนินการอย่างไร นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเลย เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องการต่อยกันแต่เป็นเรื่องของจริยธรรมและอะไรต่างๆของ ส.ส.และทราบว่าในขณะนี้กำลังมีการยกร่างประมวลจริยธรรม และเห็นว่า สภาต้องตั้งกรรมการสอบสวนกันไป และในส่วนของพรรคพลังประชาชน จะต้องมีการนำไปหารือภายในพรรคแน่นอน
