ตรัง – นายอำเภอวังวิเศษ นำกำลังบุกตรวจสอบป่าสงวนใน จ.ตรัง ซึ่งถูกทำลายในหลายพื้นที่ สามารถจับกุมชาวบ้านได้ 2 คนซึ่งรับจ้างถางป่าจากนายทุนอีกทีหนึ่ง
วันนี้ (22 มี.ค.) นายสัมพันธ์ เนตตกุล นายอำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง ได้นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสิเกา เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสายควน ป่าสายคลองร่วมเมือง และป่าเกาะอ้ายกลิ้ง ซึ่งผืนป่าทั้ง 3 แห่งดังกล่าวนี้ อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่า กลุ่มนายทุนได้มีการบุกรุกทำลายป่า โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลวังมะปราง อำเภอวังวิเศษนั้น ได้มีการแผ้วถางเพื่อปลูกยางพาราไปแล้ว จำนวนกว่า 50 ไร่ และพบการปลูกยางพาราที่มีอายุประมาณ 1-2 ปี ขณะที่ในพื้นที่หมู่ที่ 8 ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอสิเกา กลุ่มนายทุนก็เริ่มมีการบุกรุกทำลายป่าเช่นกัน โดยได้มีการแผ้วถางไปแล้ว จำนวนกว่า 5 ไร่
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ทราบว่า พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าสายควน ป่าสายคลองร่วมเมือง และป่าเกาะอ้ายกลิ้ง กำลังถูกกลุ่มนายทุนบุกรุกทำลายป่าเข้าไปเพิ่มขึ้น แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบตัวผู้ต้องหารายใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังแล้ว รอเพียงหลักฐานเพื่อนำไปสู่การดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยในเบื้องต้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 2 คน ได้แก่ นายประกิต จันดวง อายุ 21 ปี และนายโอฬาร ทองดี อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมกับตรวจยึดของกลางที่ใช้ในการบุกรุกทำลายป่าได้ด้วย คือ ขวาน 2 เล่ม
สำหรับผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับจ้างจากนายทุนให้แผ้วถางในราคาไร่ละ 2,000 บาท รวมความเสียหายของป่าไม้ทั้ง 2 แห่งในครั้งนี้ เป็นมูลค่าเกือบ 4 ล้านบาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตรวจยึดพื้นที่ป่าคืน และทำการตัดโค่นต้นยางพาราที่ปลูกไว้ทั้งหมด จากนั้น จะปลูกต้นไม้ชนิดอื่นขึ้นมาทดแทน เพื่อพลิกฟื้นผืนป่าให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง
วันนี้ (22 มี.ค.) นายสัมพันธ์ เนตตกุล นายอำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง ได้นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสิเกา เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสายควน ป่าสายคลองร่วมเมือง และป่าเกาะอ้ายกลิ้ง ซึ่งผืนป่าทั้ง 3 แห่งดังกล่าวนี้ อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่า กลุ่มนายทุนได้มีการบุกรุกทำลายป่า โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลวังมะปราง อำเภอวังวิเศษนั้น ได้มีการแผ้วถางเพื่อปลูกยางพาราไปแล้ว จำนวนกว่า 50 ไร่ และพบการปลูกยางพาราที่มีอายุประมาณ 1-2 ปี ขณะที่ในพื้นที่หมู่ที่ 8 ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอสิเกา กลุ่มนายทุนก็เริ่มมีการบุกรุกทำลายป่าเช่นกัน โดยได้มีการแผ้วถางไปแล้ว จำนวนกว่า 5 ไร่
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ทราบว่า พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าสายควน ป่าสายคลองร่วมเมือง และป่าเกาะอ้ายกลิ้ง กำลังถูกกลุ่มนายทุนบุกรุกทำลายป่าเข้าไปเพิ่มขึ้น แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบตัวผู้ต้องหารายใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังแล้ว รอเพียงหลักฐานเพื่อนำไปสู่การดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยในเบื้องต้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 2 คน ได้แก่ นายประกิต จันดวง อายุ 21 ปี และนายโอฬาร ทองดี อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมกับตรวจยึดของกลางที่ใช้ในการบุกรุกทำลายป่าได้ด้วย คือ ขวาน 2 เล่ม
สำหรับผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับจ้างจากนายทุนให้แผ้วถางในราคาไร่ละ 2,000 บาท รวมความเสียหายของป่าไม้ทั้ง 2 แห่งในครั้งนี้ เป็นมูลค่าเกือบ 4 ล้านบาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตรวจยึดพื้นที่ป่าคืน และทำการตัดโค่นต้นยางพาราที่ปลูกไว้ทั้งหมด จากนั้น จะปลูกต้นไม้ชนิดอื่นขึ้นมาทดแทน เพื่อพลิกฟื้นผืนป่าให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง