พัทลุง – ที่ประชุมแก้ปัญหาที่ดินที่มีผู้ว่าฯพัทลุงเป็นประธานมีมติให้ ม.ทักษิณ คืนที่ดินสาธารณประโยชน์ในควนขนุน 1,450 ไร่ ที่ชาวบ้านยกให้สร้างมหาวิทยาลัย แต่กลับหันไปสร้างที่ป่าพะยอมไปแล้ว ขณะที่ในพื้นที่ดังกล่าวเดินทางสร้างเพียงวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชนอย่างเดียว ระบุที่ดินที่เหลือประมาณครึ่งหนึ่งให้คืนแก่ชุมชน หากฝ่าฝืนมติจะมีการเข้าดำเนินการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างที่มีทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พัทลุง ถึงกรณีที่มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง ได้ขอใช้ที่สาธารณประโยชน์ทุ่งสระบนพื้นที่ 1,450 ไร่ ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นที่ดินทำกินที่ราษฎรและมีชาวบ้านใน ต.พนางตุง ลงรายชื่ออนุญาตให้สร้างมหาวิทยาลัยทักษิณตั้งแต่ปี 2535 แต่ปรากฏว่ามหาวิทยาลัยได้ไปก่อสร้างในพื้นที่ อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง แทน และได้ปักป้ายห้ามราษฎรเข้าปลูกพืชผลในพื้นที่ดังกล่าว ปล่อยให้เป็นที่รกร้างนานกว่า 15 ปี กลายเป็นกรณีพิพาทระหว่างชาวพนางตุงที่ทำกินบนที่ดินดังกล่าว และเกิดเหตุการณ์ประท้วงหลายครั้ง หลังจากที่ ม.ทักษิณ ได้พยายามใช้พื้นที่เพื่อก่อสร้างพุทธมณฑลภาคใต้นั้น
ล่าสุด นายสุเทพ โกมลภมร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้เรียกประชุมกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ห้องประชุมแพรทอง ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดพัทลุง เพื่อพิจารณาทบทวนการใช้ประโยชน์ของพื้นที่สาธารณประโยชน์ทุ่งสระ ในที่ประชุมได้มีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง ในความคุ้มค่าการใช้ที่ดินของมหาวิทยาลัยทักษิณ ซึ่งที่ดินบริเวณดังกล่าวมหาวิทยาลัยทักษิณได้ใช้ก่อสร้างวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชนเพียงคณะเดียว แล้วพยายามก่อสร้างพุทธมณฑลบนที่ดินที่เหลือ
ปรากฏว่า ในที่ประชุมได้มีมติให้มหาวิทยาลัยทักษิณใช้ที่ดินเพียง 635 ไร่ ในการก่อสร้างวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน แต่ที่ดินส่วนที่เหลือที่กำลังมีการดำเนินการปรับที่ดินเพื่อก่อสร้างพุทธมณฑลนั้น ขอให้กลับคืนเป็นที่สาธารณประโยชน์เหมือนเดิม และให้ชาวบ้านสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ที่ดินร่วมกันเพื่อสามารถทำกินได้ และถ้าหากมหาวิทยาลัยทักษิณฝ่าฝืนมติของกรรมการ ก็จะมีการเข้าดำเนินการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างบริเวณที่ดินดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พัทลุง ถึงกรณีที่มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง ได้ขอใช้ที่สาธารณประโยชน์ทุ่งสระบนพื้นที่ 1,450 ไร่ ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นที่ดินทำกินที่ราษฎรและมีชาวบ้านใน ต.พนางตุง ลงรายชื่ออนุญาตให้สร้างมหาวิทยาลัยทักษิณตั้งแต่ปี 2535 แต่ปรากฏว่ามหาวิทยาลัยได้ไปก่อสร้างในพื้นที่ อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง แทน และได้ปักป้ายห้ามราษฎรเข้าปลูกพืชผลในพื้นที่ดังกล่าว ปล่อยให้เป็นที่รกร้างนานกว่า 15 ปี กลายเป็นกรณีพิพาทระหว่างชาวพนางตุงที่ทำกินบนที่ดินดังกล่าว และเกิดเหตุการณ์ประท้วงหลายครั้ง หลังจากที่ ม.ทักษิณ ได้พยายามใช้พื้นที่เพื่อก่อสร้างพุทธมณฑลภาคใต้นั้น
ล่าสุด นายสุเทพ โกมลภมร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้เรียกประชุมกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ห้องประชุมแพรทอง ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดพัทลุง เพื่อพิจารณาทบทวนการใช้ประโยชน์ของพื้นที่สาธารณประโยชน์ทุ่งสระ ในที่ประชุมได้มีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง ในความคุ้มค่าการใช้ที่ดินของมหาวิทยาลัยทักษิณ ซึ่งที่ดินบริเวณดังกล่าวมหาวิทยาลัยทักษิณได้ใช้ก่อสร้างวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชนเพียงคณะเดียว แล้วพยายามก่อสร้างพุทธมณฑลบนที่ดินที่เหลือ
ปรากฏว่า ในที่ประชุมได้มีมติให้มหาวิทยาลัยทักษิณใช้ที่ดินเพียง 635 ไร่ ในการก่อสร้างวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน แต่ที่ดินส่วนที่เหลือที่กำลังมีการดำเนินการปรับที่ดินเพื่อก่อสร้างพุทธมณฑลนั้น ขอให้กลับคืนเป็นที่สาธารณประโยชน์เหมือนเดิม และให้ชาวบ้านสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ที่ดินร่วมกันเพื่อสามารถทำกินได้ และถ้าหากมหาวิทยาลัยทักษิณฝ่าฝืนมติของกรรมการ ก็จะมีการเข้าดำเนินการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างบริเวณที่ดินดังกล่าว
