ชี้ส่งออกอุตสาหกรรมไทยเฟอร์นิเจอร์ไทยยังไปได้ดี ปี 2550 มีมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านบาท ขยายตัวเพิ่ม 6% เผยเร่งส่งเสริมหาตลาดใหม่ ทั้งตะวันออกกลาง อินเดีย และจีน วางเป้าปี 51 ส่งออกโตเพิ่มร้อยละ 3
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวในโอกาสเปิดงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ 2551 หรือ Thailand International Furniture Fair 2008 (TIFF 2008) ว่า การส่งออกเฟอร์นิเจอร์ของไทยในปี 2550 ที่ผ่าน,k ผู้ประกอบการส่งออกเฟอร์นิเจอร์ของไทยยังไม่ได้รับกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ค่าเงินบาทแข็ง หรือค่าน้ำมันที่เพิ่มขึ้น โดยมูลค่าการส่งออกเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วนปี 2550 อยู่ที่ 44,581 ล้านบาท หรือ 1,292 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6
โดยตั้งเป้ามูลค่าการส่งออกในปี 2551 ไว้ที่ 1,333 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ซึ่งตลาดหลักของไทยยังคงเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป โดยเฉพาะออสเตรเลีย นอกจากนั้น เร่งส่งเสริมการเกิดตลาดใหม่เพิ่มขึ้น อย่างประเทศในแถบตะวันออกกลาง และประเทศแถบเอเชีย เช่น จีนและอินเดีย ซึ่งประเทศเหล่านี้มีอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่าปีละร้อยละ 10 มีการก่อสร้างเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้ความต้องการในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ขยายตัวเพิ่มตามไปด้วย ขณะที่ ตลาดสหรัฐอเมริกา แม้จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ไม่มีการปลูกสิ่งก่อสร้างใหม่ แต่ความต้องการเฟอร์นิเจอร์เพื่อการตกแต่งบ้านก็ยังคงมีอยู่
นายราเชนทร์ กล่าวต่อว่า ทางกรมส่งเสริมการส่งออกได้มีการร่วมกับผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ และกลุ่มอินทีเรียดีไซน์ ให้มีการเสนอรูปแบบการขายสินค้าเป็นเพคเกจสินค้าและบริการเข้าด้วยกัน จากแนวคิดให้นักออกแบบบ้านเข้ามาช่วยให้บริการเรื่องตกแต่งเพิ่ม ทำให้สามารถขายเฟอร์นิเจอร์พ่วงกับของตกแต่งบ้านอื่นๆ ไปพร้อมกัน เมื่อ 2 แพคเกจ ทั้งเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านไปด้วยกันได้ทำให้ตลาดของตกแต่งบ้านเติบโตได้อีกมาก
นอกจากนี้ ทางกรมฯยังให้ความสำคัญกับเรื่องของการทำตราสินค้าหรือการสร้างแบรนด์ เพราะปัจจุบันมีหลายบริษัทในประเทศไทยมีตราสินค้าเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และเมื่อลูกค้าเชื่อใจในตราสินค้าเวลาทำผลิตภัณฑ์อะไรใหม่ๆออกมาถ้าเป็นแบรนด์นี้ ลูกค้าจะเชื่อใจในคุณภาพทำอะไรออกมาก็ขายได้หมด ดังนั้น กรมฯจะส่งเสริมให้บริษัทผู้ส่งออกให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์มากขึ้น
สำหรับการจัดงานแสดงสินค้า TIFF 2008 ในครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 12 ที่เมืองทองธานี โดยวันที่ 12-14 มีนาคม 2551 เป็นวันเจรจาการค้า และวันที่ 15-16 มีนาคม 2551 เป็นวันจำหน่ายปลีก โดยปีนี้มีผู้เข้าร่วมจัดแสดงสินค้า 812 คูหา คาดว่ามีผู้เข้าชมงานจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 31,000 ราย