ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - บรรยากาศรับสมัครนายก อบจ.และ ส.อบจ.ภูเก็ตคึกคักมากตั้งก่อนถึงเวลารับสมัคร ผู้สมัครทั้งสองฝ่ายขนกองเชียร์มาร่วมพันคน ส่งเสียงเชียร์ดังสนั่นทั้งศาลาประชาคม ทั้งทีม “อัญชลี วานิช เทพบุตร” อดีตนายก อบจ.และทีม “ไพบูลย์ อุปัติศฤงค์” อดีต ส.ว.ภูเก็ต
เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (17 มี.ค.) ที่ศาลาประชาคมจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่รับสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (ส.อบจ.) คึกคักไปด้วยผู้ที่มาให้กำลังใจผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ภูเก็ต และส.อบจ.ภูเก็ต โดยเฉพาะการมาให้กำลังผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ. ซึ่งมีด้วยกัน 2 สองคน คือ นางอัญชลี วานิช เทพบุตร อดีตนายก อบจ.ภูเก็ต และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ และนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ อดีตสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดภูเก็ต
โดยกองเชียร์ของทั้งสองฝ่ายที่มาให้กำลังใจไม่ต่ำกว่า 1,000 คน แบ่งพื้นที่เชียรคนละฝั่งของศาลาประชาคม พร้อมทั้งดอกไม้และป้ายเชียร์ผู้สมัครที่ตนเองชื่นชอบ และได้ส่งเสียงเชียร์ดังสนั่นทั้งศาลาประชาคมเมื่อทราบว่าผู้ที่ตนเดินทางมาเชียร์ได้หมายเลขอะไร ขณะที่ทางฝ่ายของนางอัญชลีนั้น นายทศพร เทพบุตรและนายเรวัติ อารีรอบ ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์เดินทางมาให้กำลังใจและร่วมเชียร์ด้วย ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักกว่าทุกๆ ครั้งที่มีการรับสมัครเลือกตั้งนายกอบจ.และส.อบจ.ของภูเก็ต
โดยผู้ที่ลงสมัครับเลือกตั้งนายก อบจ.และส.อบจ.ได้เดินทางมาถึงที่ศาลาประชาคมก่อนเวลา 08.30 น.จึงต้องใช้วิธีจับฉลากในส่วนของนายก อบจ. ซึ่งผลการจับฉลากปรากฏว่า นางอัญชลี วานิช เทพบุตร ได้หมายเลข 1 ส่วนนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ ได้หมายเลข 2 และในส่วนของ ส.อบจ.ซึ่งมีทั้งหมด 24 เขตนั้น ไม่ต้องจับฉลาก เนื่องจากผู้สมัครทีมนางอัญชลีกับทีมของนายไพบูลย์สามารถที่จะตกลงกันได้ โดยผู้สมัครทีมนางอัญชลี ได้หมายเลข 1 ทั้งหมด และทีมนายไพบูลย์ได้หมายเลข 2 อย่างไรก็ตาม การสมัครในครั้งนี้มีผู้สมัครอิสระลงแข่งขันได้ด้วยประมาณ 4-5 คนในวันนี้
นางอัญชลี วานิช เทพบุตร ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ภูเก็ต หมายเลข 1 กล่าวกับสื่อมวลชนภายหลังลงสมัครรับเลือกตั้งว่า การลงสมัครรับเลือกตั้งนายกอบจ.ภูเก็ตในครั้งนี้เพื่อที่จะสานต่อนโยบาย “เมืองดี ชีวีมีสุข” ที่ได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาภูเก็ตไว้ 7 ด้านด้วยกัน ซึ่งได้ดำเนินการตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่ดำรงตำแหน่งนายกอบจ.ภูเก็ต และเห็นเป็นรูปธรรมในหลายๆ เรื่องและจะต้องสานต่อ
โดยเฉพาะในเรื่องของคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ต การบริการด้านสาธารณสุขที่จะต้องผลักดันให้เกิดขึ้นให้ได้ การศึกษาที่จะต้องมุ่งพัฒนาการศึกษาของโรงเรียนต่างๆในภูเก็ตได้เท่าเทียมกันและสร้างความเป็นเลิศในด้านต่างๆ ให้กับเด็กนักเรียน การท่องเที่ยวจะต้องมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่และรักษาแหล่งท่องเที่ยวเดิมไว้ พร้อมทั้งหาตลาดใหม่เข้ามาเสริม และพัฒนาการบริหารสู่ระดับสากล
“เราพยามที่จะทำให้ดีที่สุด จึงใช้สโลแกนในการหาเสียงครั้งนี้ ว่า “อัญชลีทำจริง ก้าวทันโลก นำภูเก็ตสู่สากล” นางอัญชลี กล่าว
ส่วนกรณีที่ประกาศกกต.เรื่องการหาเสียงโดยห้ามไม่ให้ใช้บุคคลหนึ่งบุคคลใดมาหาเสียงนั้น นางอัญชลี กล่าวว่า จะต้องดูประกาศให้ชัดเจนเท่าที่ดูระเบียบเป็นเพียงการทำข้อมูลผู้สมัครเท่านั้น ตนและผู้สมัคร ส.อบจ.ยังสามารถลงสมัครในนามของพรรคประชาธิปัตย์ได้ และกรรมการบริหารพรรคก็ยังสามารถลงมาช่วยหาเสียงได้ ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนุญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญอยู่แล้วไม่มีปัญหาอะไร
ด้านนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกอบจ.ภูเก็ต หมายเลข 2 กล่าวว่า หลังจากหมดวาระการดำรงตำแหน่ง ส.ว.ภูเก็ต ได้ลงพื้นที่มาโดยตลอดทำให้ทราบว่าภูเก็ตมีปัญหามากมายที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขจากปัญหาขาดเจ้าภาพในการดำเนินการและขาดงบประมาณ เนื่องจากในแต่ละปีภูเก็ตได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลน้อยมากๆ ทั้งที่ภูเก็ตสามารถทำเงินเข้าประเทศได้สูงจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาปีละ 5-6 ล้านคน และตนคิดว่าอบจ.น่าที่จะเป็นเจ้าภาพในการแก้ปัญหาต่างๆ ของภูเก็ตได้ จึงได้ตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งนายกอบจ.ภูเก็ต
“การทำงานในตำแหน่งนายกอบจ.ของผมนั้นจะรับฟังปัญหาของทุกฝ่ายจะไม่ทำงานและใช้งบประมาณตามอำเภอใจตนเอง การใช้งบประมาณประชาชนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการใช้และแก้ไขปัญหาทุกอย่าง จึงได้ตั้งเป็นทีม “อบจ.คนบ้านเรา” ขึ้นมาเพื่อที่จะรับทราบปัญหาของประชาชนในทุกพื้นที่ พร้อมการบริหารงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้”
สำหรับทีมบริหารนั้น ขณะนี้ได้วางตัวนายสรนนท์ จินดา เป็นรองนายกอบจ.แล้วและทีมที่ปรึกษาได้ดำเนินการเสร็จทั้งหมดแล้วด้วย ส่วนที่อีกฝ่ายหนึ่งลงสมัครในนามของพรรคการเมืองและเป็นอดีตนายกอบจ.นั้นตนไม่ได้เป็นห่วงในเรื่องนี้ เพราะตนยืนยันตลอดว่าไม่ได้อยู่พรรคการเมืองใด ทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ได้ทำเพื่อพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า ภายหลังลงพื้นที่พบปะประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ของภูเก็ตมาระยะหนึ่ง ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากประชาชนชาวภูเก็ตดีมาก