ตรัง – เหยื่อซึ่งเป้นนักศึกษาที่ถูกกลุ่มคนไม่ทราบที่มา ปาไม้ใส่รถจนได้รับบาดเจ็บที่จังหวัดตรัง มีอาการดีขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชี้เหตุอาจเกิดจากอุบัติเหตุ
จากกรณีที่ได้เกิดคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้ท่อนไม้ยางพารา ขนาดหน้าสาม ยาวประมาณ 1 คืบ และหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม ขว้างปาใส่รถเก๋งรุ่นเก่า ยี่ห้อนัสสัน สีฟ้า หมายเลขทะเบียน ก-6576 ตรัง จนถูก นางสาวปัทมา สิงหเสม หรือ น้องปัด อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ภาควิชาสัตวศาสตร์ คณะทรัพยาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) หาดใหญ่ เข้าที่บริเวณเบ้าตาขวาจนต้องเย็บถึง 7 เข็ม ขณะกำลังนั่งรถของครอบครัวกลับบ้านพัก เหตุเกิดใกล้กับวัดประสิทธิชัย (วัดท่าจีน) บนถนนสายตรัง-สิเกา เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 10 มีนาคม 2551 ที่ผ่านมา โดยได้มีการแจ้งความไว้กับ สภ.เมืองตรัง ซึ่งสงสัยว่าคนร้ายอาจเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มีความคึกคะนอง หรืออาจเป็นพฤติกรรมเลียนแบบนั้น
วันนี้ (12 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลศูนย์ตรัง ที่ตึก 298 ชั้น 7 แผนกผู้ป่วยโรคหู ตา คอ จมูก เพื่อพบกับนางสาวปัทมา เหยื่อปาไม้ ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้นจากเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา โดย นางสาวปัทมา รู้สึกตัวดีตลอด พร้อมทั้งสามารถลุกขึ้นมานั่งคุยกับนายชม ผู้เป็นพ่อ และนางอารมณ์ ผู้เป็นแม่ได้ แต่ยังคงมีอาการเจ็บอยู่ที่บริเวณตาด้านขวา และมองไม่ค่อยจะเห็นชัดเจน ต่างกับวันที่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในวันแรก ซึ่งสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ เป็นปกติ อย่างไรก็ตาม แพทย์เจ้าของไข้ ได้อนุญาตให้นางสาวปัทมา กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้ว
นายชม สิงหเสม ซึ่งมีอาชีพขับรถบรรทุก 10 ล้อ ขนส่งสินค้า ของบริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) เจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋องชื่อดังในเครือ ปุ้มปุ้ย-ปลายิ้ม จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นพ่อของเหยื่อปาไม้ และเป็นคนขับรถในคืนเกิดเหตุ ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น่าจะมีคนตั้งใจขว้างปาไม้เข้ามาในรถ
แต่ไม่เชื่อว่าจะเกิดจากการที่รถไปเหยียบท่อนไม้ยาง แล้วทำให้ท่อนไม้ยางกระเด็นเข้ามาในรถของตน จึงอยากฝากให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบ ช่วยสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด และถ้าเกิดจากคนที่ตั้งใจขว้างปาท่อนไม้เข้ามาจริงๆ ก็ขอให้จับตัวคนร้ายที่เหตุให้ได้ และตั้งแต่เกิดเหตุร้ายขึ้น ก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายใด เดินทางมาสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีที่โรงพยาบาลเลย
พ.ต.ท.วิชิต ทองรุ่ง สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองตรัง กล่าวว่า หลังจากรับแจ้งความ ตนก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเศษไม้ยางพาราตกอยู่ที่เกิดเหตุ จำนวน 1 ท่อน และเมื่อนำมาประกบกับท่อนไม้ยางที่ตกอยู่ในรถของผู้เสียหาย ปรากฏว่าเป็นชิ้นเดียวกัน และท่อนไม้ยางดังกล่าวพบรอยล้อรถยนต์ติดอยู่ด้วย จึงอาจเป็นไปได้ว่าล้อรถด้านหน้าซ้ายของนายชม จะขับมาทับท่อนไม้ยางดังกล่าว จนเป็นเหตุให้ท่อนไม้หัก แล้วกระเด็กเข้าไปใส่ในรถของผู้เสียก็เป็นได้
ทั้งนี้ จากการสอบสวน นายชม พ่อของ นางสาวปัทมา ทราบว่า จุดเกิดเหตุเป็นจุดที่มีแสงสว่างจากเสาไฟฟ้าให้แสงสว่างและเป็นพื้นที่กว้าง โดยขณะเกิดเหตุเห็นเพียงรถจักรยานยนต์พ่วงข้างจอดคุยกันอยู่ จำนวน 2 คันเท่านั้น โดยที่ไม่มีรถคันอื่นขับผ่านมาแต่อย่างใด
พ.ต.ท.วิชิต กล่าวอีกว่า สำหรับจุดเกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน ซึ่งริมถนนอยู่ห่างจากตัวรถเก๋งประมาณ 35 เมตร หากเป็นการขว้างปาท่อนไม้เข้าใส่รถจริงนั้น จะต้องถูกกระจกของรถ และกระเด็นเข้าไปภายในรถอย่างแน่นอน
แต่จากการตรวจสอบรถผู้เสียหายไม่พบรอยแตกแต่อย่างใด จึงแน่ชัดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุ ที่เกิดจากรถของผู้เสียหายเหยียบทับท่อนไม้ยาง ที่ตกอยู่กลางถนน แล้วกระเด็นเข้าใส่ตัวรถ จนเป็นเหตุให้นางสาวปัทมา ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งหลังจากอธิบายให้นายชม พ่อของนางสาวปัทมา ทราบแล้ว ก็ไม่ได้ติดใจเอาความแต่ออย่างใด เพียงขอสำนวนไปประกอบการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลเท่านั้น