xs
xsm
sm
md
lg

แก๊ง “หินกินเหล็ก” อาละวาดหนักหลอกขายหินโสโครกกินเงินมัดจำพระ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตาก – แก๊งต้มตุ๋นขาย “หินกินเหล็ก” อาละวาดหนัก หลอกกินเงินมัดจำจากพระ-ญาติที่หวังซื้อไปขายต่อกินกำไรกว่าเท่าตัว

เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (28 ม.ค.) พระวัลลภ ซาผุย อายุ 52 ปี พระลูกวัดทุ่งสมอ ต.ทุ่งสมอ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ พร้อมด้วยนางดวงใจ จ่าพันดุง อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวของพระวัลลภ อยู่บ้านเลขที่ 500 ม.14 ต.วังนกแป้น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก และญาติๆ อีก 4-5 คน เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ นายประสิทธิชัย รอดบำรุง อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 20/39 ม.2 ต.เขาน้อย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ นางจินดา แสงอรุณ อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 191/1 ม.5 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นสามีภรรยา ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ มี ร.ต.ท.วัชรา ยมเกิด ร้อยเวร สภ.เมืองตาก จ.ตาก รับแจ้ง

นางดวงใจ ให้การว่า ได้ทราบข่าวลือจากเจ้าคณะตำบลแห่งหนึ่งใน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ มีเสี่ยใหญ่ในประเทศฮ่องกง ต้องการหินกินเหล็ก ให้ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 200 ล้านบาท จากนั้นก็ได้มารู้จักกับนายนายสุชิน (ไม่ทราบนามสกุล) อ้างว่า ได้พบหินกินเหล็กอยู่ที่ จ.เชียงราย ให้ไปพิสูจน์ความจริง จึงพากันเดินทางไปพิสูจน์ความจริง ด้วยกัน 5 คนโดยมีพระวัลลภ นำคณะ

โดยหินดังกล่าวมีสีดำ น้ำหนัก 8 กิโลกรัม มี นายสร่าง ชาวพม่า เป็นเจ้าของนายจัน ไม่ทราบนามสกุล เป็นล่ามแปลภาษาพม่า จึงได้ทดลองเอาตะปูขนาด 4 นิ้ว วางลงบนหินสีดำ มีน้ำหนัก 8 กิโลกรัม 1 นาที จะสามารถงอได้หักได้ ถ้าหากวางบนหิน 3 นาที ตะปูก็จะเป็นเศษเหล็ก ซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่อ้าง สำหรับราคาซื้อขายตกลงกันที่ 800 ล้านบาท แต่ยังหาเงินไม่ได้ จึงต่อรองว่าจะนำไปขายต่อ ภายใต้ข้อแม้ว่าจะต้องวางมัดจำ 300,000 บาท

จากนั้น นายสุชิน แนะนำให้รู้จักกับ นายประสิทธิชัย และ นางจินดา สองสามีภรรยา เป็นเจ้าของบริษัทสุวรรณภูมิ ซอฟแวร์จำกัด มีเงินหมุนเวียนหลายพันบาท สนใจตกลงร่วมหุ้น ซื้อหินกินเหล็กในราคา 800 ล้านบาท จึงตกลงให้เข้าหุ้นเพื่อที่จะนำหินไปขายมูลค่าสูงถึง 1,600 ล้านบาท ซึ่งทุกคนต่างหลงเชื่อ

โดย พระวัลลภ ควักกระเป๋าเอง 170,000 บาท และจากญาติๆ อีก 40,000 บาท รวมเป็นเงิน 210,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 90,000 บาท นายประสิทธิชัย เป็นคนออก และจะเป็นคนรวบรวมเงินทั้งหมด เพื่อที่จะไปมัดจำหินกินเหล็ก

กระทั่งเวลานัดหมาย เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2551 นายประสิทธิชัย ขับรถเบนซ์ อี 230 สีฟ้า หมายเลขทะเบียน ศธ 6776 กทม.มี นางจินดา นั่งมาในรถด้วยกัน นัดกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองตาก จากนั้น นายประสิทธิชัย ก็หายตัวไปอย่างผิดสังเกตหลายวัน จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองตาก ให้ติดตามตัว

จนกระทั่งมาพบ นายประสิทธิชัย ถูกจับพร้อมรถเบนซ์ ด้วยข้อหาพกพาอาวุธปืน .38 โดยไม่ได้รับอนุญาต และได้ประกันตัวในชั้นศาล และได้ทิ้งรถเบนซ์-ข้าวของเสื้อผ้า หลักฐานเป็นหนังสือสัญญาซื้อขายเหล็กไหลและหินกินเหล็กอีกกว่า 30 ฉบับ บางฉบับตกลงซื้อขายเหล็กไหลมูลค่า 1,400 ล้านบาท มียอดเงินรวมกว่า 7,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ พบสมุดบัญชีเงินฝากมีเงินหมุนเวียนในบัญชี หลายพันล้านบาท และสลิปถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มทั่วประเทศ กว่า 100 ใบ จากการตรวจสอบเป็นเอกสารปลอมทำขึ้นเอง เจ้าหน้าที่จึงได้รวมรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ล่าสุด นายประสิทธิ ได้ให้ทนายติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยจะฟ้องกลับ เนื่องจากทำให้ตนได้รับความเสียหาย เสียเวลาทำมาหากิน เสื่อมเสียชื่อเสียง และยืนยันว่า ตนเป็นเจ้าของบริษัท สุวรรณภูมิ ซอฟแวร์ จำกัด จริง ส่วนเงินทั้งหมดถูกชิงไประหว่างนัดส่งมอบกันที่ถนนสายเลี่ยงเมือง ต.ป่ามะม่วง อ.เมืองตาก รายละเอียดๆ นั้นให้ไปสู้ในชั้นศาล
กำลังโหลดความคิดเห็น