ตรัง – นักศึกษาสาว มอ.หาดใหญ่ เคราะห์ร้าย นั่งรถกระบะพร้อมพ่อแม่ ถูกมือมืดขว้างท่อนไม้ยางใส่รถตาหวิดบอด แพทย์ชี้อนาคตมีแนวโน้มเป็นโรค “ต้อกระจก” ตร.คาดฝีมือวัยรุ่นเลียนแบบ “ปาหิน”
วันนี้ (11 มี.ค.) เวลา 12.30 น.ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง ได้รับแจ้งจาก นายชม สิงหเสม อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/1 หมู่ที่ 4 ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง ซึ่งมีอาชีพขับรถบรรทุก 10 ล้อ ขนส่งสินค้าของบริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) เจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋องชื่อดังในเครือ ปุ้มปุ้ย-ปลายิ้ม จังหวัดตรัง ว่า
บุตรสาวของตนได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่มีคนร้ายลอบใช้ท่อนไม้ปาใส่เข้าไปในรถจนบาดเจ็บสาหัส และถูกนำเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ตรัง ตึก 298 ชั้น 7 แผนกผู้ป่วยโรคหู ตา คอ จมูก
หลังรับร้องเรียนผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง รพ.ตรัง พบ นางสาวปัทมา สิงหเสม หรือ น้องปัด อายุ 20 ปี กำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 ภาควิชาสัตวศาสตร์ คณะทรัพยาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา กำลังนอนอยู่บนเตียงคนไข้ในสภาพอิดโรย
โดย นายชม ผู้เป็นพ่อ เล่าว่า เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 10 มีนาคม 2551 ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยภรรยา คือ นางอารมณ์ น้องปัด และเพื่อนบ้านอีก 1 คน นั่งรถมาด้วยกัน ซึ่งเป็นรถเก๋งรุ่นเก่า ยี่ห้อนิสสัน สีฟ้า หมายเลขทะเบียน ก-6576 ตรัง โดยที่ตนเองเป็นคนขับ และมีภรรยานั่งมาด้านข้าง ส่วนน้องปัด บุตรสาวนั่งเบาะหลังด้านซ้าย
ขณะที่กำลังเดินทางกลับมาจากบ้านน้องชาย ในพื้นที่ตำบลนาเมืองเพชร อำเภอสิเกา เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองตรัง เพื่อเดินทางกลับบ้านพักในพื้นที่ตำบลโคกหล่อ โดยที่กระจกรถทั้ง 4 ข้างนั้น ได้ไขลงมาประมาณครึ่งหน้าต่างเพื่อรับลม
จนกระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุใกล้กับวัดประสิทธิชัย (วัดท่าจีน) ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณสี่แยก อตก.ประมาณ 50 เมตร น้องปัด บุตรสาว ก็ได้ส่งเสียงกรีดร้องขึ้นมาเสียงดัง ทำให้ตนเองรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก จึงรีบหยุดรถแล้วหันไปดูบุตรสาว ก็พบว่ามีเลือดไหลอาบใบหน้าเต็มไปหมด
และได้พบท่อนไม้ยางพารา ขนาดหน้าสาม ยาวประมาณ 1 คืบ และหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม ตกอยู่ในรถ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีคนขว้างปาไม้ท่อนดังกล่าวเข้ามาในรถ ตนเองจึงรีบนำบุตรสาวส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ตรังทันที ซึ่งแพทย์ได้ช่วยเย็บบาดแผลที่บริเวณเบ้าตาด้านขวา จำนวน 7 เข็ม และยังพบว่าในดวงตาด้านขวามีเลือดคั่งอยู่ด้วย
แพทย์จึงให้บุตรสาวนอนพักดูอาการเป็นเวลา 2 วัน โดยจะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ในวันที่ 12 มีนาคม 2551 แต่หลังจากนั้น ก็ยังจะต้องมาดูอาการอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากแพทย์ระบุว่าบุตรสาวอาจมีโอกาสเป็นโรคต้อกระจกเกิดขึ้นได้ เพราะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทำให้เกิดอาการม่านตาเลื่อน
นายชม กล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเหตุแล้ว ตนก็ได้เข้าแจ้งความไว้กับ พ.ต.ท.วิชิต ทองรุ่ง สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองตรัง พร้อมกับนำท่อนไม้ที่พบในรถมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อใช้เป็นของกลางในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งขณะนั้นตนจำได้ว่าริมถนนจุดที่เกิดเหตุดังกล่าวนั้น มีรถจักรยานยนต์พ่วงข้างจอดอยู่ จำนวน 2 คัน และมีชายวัยกลางคนยืนอยู่ใกล้รถ จำนวน 2 คนด้วย ส่วนบุคคลอื่นไม่พบเห็นแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายอาจเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มีความคึกคะนอง ซึ่งอาจเป็นพฤติกรรมเลียนแบบ แล้วก่อเหตุดังกล่าวขึ้นมา ซึ่งจะทำการสืบสวนสอบสวนตามล่าตัวต่อไป
นางอารมณ์ แม่ของน้องปัด กล่าวว่า ตนไม่นึกเลยว่าเหตุการณ์แบบนี้จะมาเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของตัวเอง ซึ่งรู้สึกไม่ดีอย่างมาก และขอฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มีความเข้มงวดและดูแลพื้นที่ให้ดี โดยขอให้เพิ่มความกระตือรือร้นในสอดส่องดูแลปัญหาชาวบ้าน เพราะเรื่องราวแบบนี้อาจจะไปเกิดกับคนอื่นได้อีกเสมอ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง รายงานว่า เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อเวลา 18.12 น.วันที่ 6 มกราคม 2551 ที่ผ่านมา โดย นายบุญธเนศ หาญทะเล อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะลันตาใหญ่ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นบุตรชายของ นายบุญธรรม หาญทะเล เจ้าของเกาะไหงวิลล่า ธุรกิจรีสอร์ตรายใหญ่ของจังหวัดตรัง
ได้ถูกเด็กชาย อายุ 8-12 ปี รวมจำนวน 5 คน ซึ่งกำลังเรียนหนังสืออยู่ระดับชั้น ป.3-6 ในโรงเรียนแห่งหนึ่งพื้นที่ตำบลควนเมา อำเภอรัษฎา ใช้ขวดเหล้า ก้อนหิน และก้อนดิน ขว้างปาใส่ จนได้รับบาดเจ็บที่หน้าผากต้องเย็บถึง 20 เข็ม ขณะกำลังจอดรอขบวนรถไฟขบวนที่ 84 สายตรัง-กรุงเทพฯ ในบริเวณพื้นที่หมู่ที่ 12 ตำบลหนองปรือ อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง