กระบี่ - 5 ปีแก้ไม่ตก สามล้อพ่วงข้างให้บริการนักท่องเที่ยว กระจายทั่วแหล่งท่องเที่ยวดังกว่า 200 คัน “นายก อบต.อ่าวนาง” เสนอคุมกำเนิด
นายพันคำ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวในที่ประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาการนำรถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาใช้รับจ้างบรรทุกคนโดยสารตามแหล่งท่องเที่ยว ทั้งอ่าวนาง และเกาะลันตา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ จ.กระบี่ว่า การแก้ไขปัญหารถสามล้อพ่วงข้างได้มีการนำปัญหาเข้าไปพูดคุยในที่ประชุมระดับจังหวัด มาตั้งแต่ปี 2545
แต่การแก้ไข ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขให้ถูกจุด ทางราชการมองเพียงแต่ว่าสามล้อพ่วงข้างเป็นรถผิดกฎหมายไม่สามารถนำมาวิ่งให้บริการผู้โดยสาร จะต้องหยุดวิ่งให้บริการเท่านั้น ซึ่งการแก้ปัญหาดังกล่าวไม่ได้สร้างผลดีให้เกิดขึ้น เพราะมันเกิดขึ้นมานานแล้ว
นายพันคำ กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่ปี 2545 จนถึงปัจจุบันสามล้อพ่วงข้างย่านอ่าวนาง มีจำนวนเพิ่มขึ้น กว่า 140 คัน โดยผู้ที่นำมาวิ่งให้บริการส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ ต.อ่าวนาง และในเมื่อปัญหาเรื้อรังที่เกิดมานานแล้วกว่า 5 ปี จะให้หยุดวิ่งให้บริการนักท่องเที่ยวคงจะเป็นไปไม่ได้แล้ว ทุกฝ่ายควรที่จะหันหน้าแก้ปัญหาร่วมกัน อย่านำกฎหมายมาแก้ปัญหา เพราะทุกคนทราบดีว่ารถสามล้อพ่วงข้างเป็นรถผิดกฏหมาย ซึ่งหนทางเดียวที่ทำได้และดีที่สุด ไม่กระทบ และสร้างความเดือดร้อนกับชาวบ้าน ก็คือ การคุมกำเนิดไม่ให้มีเพิ่มขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ และมีบางคนมองว่าสามล้อพ่วงข้างเข้าข่ายผู้มีอิทธิพล ซึ่งตนยืนยันว่าไม่มี
“บางครั้งการนำกฎหมายมาบังคับใช้เข้มงวดเกินไปในทุกเรื่อง ก็ไม่ได้ส่งผลดีเสมอไป ควรจะมีการอะลุ่มอะหล่วยกันบ้าง ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ ทางขนส่งจังหวัดกระบี่ได้เสนอข้อหารือถึงกรมการขนส่งทางบก เรื่องพิจารณารถพ่วงข้าง ซึ่งได้คำตอบว่าเป็นรถดัดแปลง ต่อเติม ที่ไม่มีความปลอดภัย ไม่สามารถนำมาจดทะเบียนเป็นรถสาธารณะได้ ซึ่งนั้นก็หมายถึงเป็นรถผิดกฏหมาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัดก็ควรจะหาวิธีการอื่น เพื่อหาทางออกให้กับทุกฝ่าย ซึ่งตนเชื่อว่าหากทุกฝ่ายมีความจริงใจ การแก้ไขปัญหาให้สมารถอยู่ร่วมกันได้ก็คงจะไม่ยาก เพียงแต่มีความจริงใจแค่ไหนเท่านั้น”
นายพันคำ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวในที่ประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาการนำรถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาใช้รับจ้างบรรทุกคนโดยสารตามแหล่งท่องเที่ยว ทั้งอ่าวนาง และเกาะลันตา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ จ.กระบี่ว่า การแก้ไขปัญหารถสามล้อพ่วงข้างได้มีการนำปัญหาเข้าไปพูดคุยในที่ประชุมระดับจังหวัด มาตั้งแต่ปี 2545
แต่การแก้ไข ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขให้ถูกจุด ทางราชการมองเพียงแต่ว่าสามล้อพ่วงข้างเป็นรถผิดกฎหมายไม่สามารถนำมาวิ่งให้บริการผู้โดยสาร จะต้องหยุดวิ่งให้บริการเท่านั้น ซึ่งการแก้ปัญหาดังกล่าวไม่ได้สร้างผลดีให้เกิดขึ้น เพราะมันเกิดขึ้นมานานแล้ว
นายพันคำ กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่ปี 2545 จนถึงปัจจุบันสามล้อพ่วงข้างย่านอ่าวนาง มีจำนวนเพิ่มขึ้น กว่า 140 คัน โดยผู้ที่นำมาวิ่งให้บริการส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ ต.อ่าวนาง และในเมื่อปัญหาเรื้อรังที่เกิดมานานแล้วกว่า 5 ปี จะให้หยุดวิ่งให้บริการนักท่องเที่ยวคงจะเป็นไปไม่ได้แล้ว ทุกฝ่ายควรที่จะหันหน้าแก้ปัญหาร่วมกัน อย่านำกฎหมายมาแก้ปัญหา เพราะทุกคนทราบดีว่ารถสามล้อพ่วงข้างเป็นรถผิดกฏหมาย ซึ่งหนทางเดียวที่ทำได้และดีที่สุด ไม่กระทบ และสร้างความเดือดร้อนกับชาวบ้าน ก็คือ การคุมกำเนิดไม่ให้มีเพิ่มขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ และมีบางคนมองว่าสามล้อพ่วงข้างเข้าข่ายผู้มีอิทธิพล ซึ่งตนยืนยันว่าไม่มี
“บางครั้งการนำกฎหมายมาบังคับใช้เข้มงวดเกินไปในทุกเรื่อง ก็ไม่ได้ส่งผลดีเสมอไป ควรจะมีการอะลุ่มอะหล่วยกันบ้าง ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ ทางขนส่งจังหวัดกระบี่ได้เสนอข้อหารือถึงกรมการขนส่งทางบก เรื่องพิจารณารถพ่วงข้าง ซึ่งได้คำตอบว่าเป็นรถดัดแปลง ต่อเติม ที่ไม่มีความปลอดภัย ไม่สามารถนำมาจดทะเบียนเป็นรถสาธารณะได้ ซึ่งนั้นก็หมายถึงเป็นรถผิดกฏหมาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัดก็ควรจะหาวิธีการอื่น เพื่อหาทางออกให้กับทุกฝ่าย ซึ่งตนเชื่อว่าหากทุกฝ่ายมีความจริงใจ การแก้ไขปัญหาให้สมารถอยู่ร่วมกันได้ก็คงจะไม่ยาก เพียงแต่มีความจริงใจแค่ไหนเท่านั้น”