xs
xsm
sm
md
lg

"เสธ.ยอด" ยันแก้ปัญหาขยะภูเก็ตเสร็จภายในปีนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คุยหลังร่วมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาขยะภูเก็ตให้เสร็จเรียบร้อยภายในปีนี้ ระบุแบ่งการทำงานออกเป็น 3 ส่วน

วันนี้ (8มี.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลเมืองป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายไพศาล กุวลัยรัตน์ รองปลัดกระทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและคณะ ร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อหารือถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาขยะของเทศบาลเมืองป่าตอง และเทศบาลนครภูเก็ต โดยมีนายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายองอาจ ชนะชาญมงคล ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง นายจุฬา ดุมลักษณ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา นายมาโนช พันธ์ฉลาด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล นายอยุทธ บางหลวง รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายพิรียุตม์ วรรณพฤกษ์ ประธานมูลนิธิเพื่อการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายวรพจน์ กล่าวว่า ปัญหาขยะเป็นเรื่องที่ชาวภูเก็ตเรียกร้องให้รีบมีการแก้ไข เพราะเป็นปัญหาวิกฤตระดับประเทศก็ว่าได้ เนื่องจากมีขยะที่เข้าสู่เตาเผาวันละกว่า 500 ตัน จากปริมาณที่รับได้ 250 ตัน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งในสมัยรัฐบาลที่แล้วได้ให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาติดตามปัญหาในพื้นที่ จนล่าสุดมีมติของคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนแม่บทการจัดการขยะของจังหวัดภูเก็ต มีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ คือ โครงการลดและแยกขยะมูลฝอยจากแหล่งกำเนิด วงเงิน 6.4 ล้านบาท กับโครงการปรับปรุงฟื้นฟูบ่อฝังกลบขยะมูลฝอยบ่อที่ 4 และฟื้นฟูบ่อฝังกลบที่ 5 วงเงิน 55 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้มีการว่าจ้างบริษัทในการติดตั้งหัวเตาเผาที่ 2 งบประมาณ 12 ล้านบาท แต่ขณะนี้ยังไม่มีงบประมาณ

ปัญหาหลักของจังหวัดภูเก็ตความสามารถของเตาเผาขยะที่สร้างเมื่อ 10ปีที่ผ่านมารองรับขยะได้เพียงวันละ 250 ตัน แต่ปัจจุบันมีขยะเข้าสู่เตาเผาวันละหว่า 500 ตัน และจากการที่มีการวางแผนว่าจะต้องเพิ่มเตาเผาอีก 1 หัวในปี 2546 ที่ผ่านมาทางจังหวัดได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่ได้รับงบประมาณ ขณะเดียวกันเรามีพื้นที่ฝังกลบอีกประมาณ 100 ไร่ ขณะนี้ก็ใช้ไปจนเต็มพื้นที่แล้ว

นายวรพจน์ กล่าวด้วยว่า จากปัญหาวิกฤตขยะที่เกิดขึ้นนั้น สิ่งที่เราคาดหวังจากรัฐบาลคือ หากเป็นไปได้ในการจัดสรรงบประมาณเพื่อติดตั้งหัวเตาเผาเพิ่มอีก 1 หัว ประมาณ 1,000 ล้านบาท และปรับปรุงหัวเตาเผาเดิม

ขณะที่นายพิรียุตม์ กล่าวถึงสถานการณ์ขยะของจังหวัดภูเก็ต ว่า นับตั้งแต่มีการติดตั้งเตาเผาขยะตั้งแต่ปี 2542 จนถึงปี 2546 ปริมาณขยะมีอัตราการเพิ่มปีละประมาณ 7-8 % แต่หลังจากเกิดสึนามิอัตราการเพิ่มเฉลี่ยปีละ 20 % ซึ่งนับเป้นอัตราเร่งที่ทำให้ปัญหาขยะเข้าสู่วิกฤตเร็วขึ้น ทั้งนี้เป็นผลมาจากการเติบโตด้านการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ป่าตอง กะตะกะรน และขณะนี้ก็มีการขยายตัวไปยังฝั่งตะวันออกของเกาะ เช่น ป่าคลอก เป็นต้น มากขึ้น โดยปริมาณขยะในพื้นที่ อ.ถลางปัจจุบันเฉลี่ยวันละ 100 ตัน พื้นที่ป่าตอง กะตะกะรน วันละประมาณ 150-180 ตัน จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่เชื่อว่า ในอีก 4-5 ปีข้างหน้าปริมาณขยะจะเพิ่มขึ้นสูงถึงวันละ 1,000 ตัน ฉะนั้นการเพิ่มหัวเตาเผาซึ่งจะรับได้อีก 250 ตัน ก็ไม่เพียงพอ ปัญหาที่สำคัญอีกประการคือ ค่าความร้อนของขยะที่ทำให้ประสิทธิภาพของเตาเผาลดลง นั่นคือ ขยะอินทรีย์ ซึ่งมีสูงถึง 60% ที่ผ่านมาก็ได้มีการแก้ปัญหาด้วยการคัดแยกขยะ

นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องของขวดแก้ว ซึ่งก็ได้มีการรณรงค์ให้คัดแยก เพราะที่ผ่านมาการรับซื้อจะได้ราคาไม่ดีนักอยู่ที่กิโลกรัมละ 10-20 สตางค์ แต่ขณะนี้ราคาเพิ่มเป็น 50-70 สตางค์ ก็สามารถลดปริมาณในส่วนนี้ไปได้ระดับหนึ่ง ส่วนของการขนส่งขยะเข้ามาที่เตาเผาซึ่งอยู่ในตัวเมืองนั้นก็น่าจะมีสถานีขนถ่ายเพื่อให้เกิดการคัดแยกอีกชั้นก่อนจะนำเข้าสู่เตาเผา

ด้านนางสาวสมใจ กล่าวว่า ปัญหาขยะของภูเก็ตที่เกิดขึ้นเนื่องจากเรามีแหล่งกำจัดเพียงพื้นที่เดียว คือ เตาเผาซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครภูเก็ต โดยท้องถิ่นของภูเก็ตทั้ง 19 ท้องถิ่นได้นำขยะที่เกิดขึ้นมาทิ้งที่นี่ทั้งหมด ในปี 2550 ที่ผ่านมามีขยะเข้าสู่เตาเผาวันละประมาณ 513 ตัน ในขณะที่เตาเผารับได้เพียง 250 ตัน และเราคงปฎิเสธไม่ได้ว่าเป็นผลมาจากการเติบโตและพัฒนาทางด้านการท่องเที่ยว ในขณะที่เราขาดการบริหารจัดการในเรื่องของผลกระทบที่เกิดขึ้น ไม่เฉพาะเรื่องของขยะเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของน้ำเสียและอื่นๆ ด้วย ซึ่งตนไม่อยากให้เกิดความคิดที่ว่าเมื่อการท่องเที่ยวเข้ามาแล้วทำให้คุณภาพชีวิตของคนภูเก็ตด้อยลง จึงต้องเร่งหาแนวทางในการแก้ไข ซึ่งอาจจะต้องคิดนอกกรอบ

ด้านนายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตองกล่าวว่า ปริมาณขยะที่เกิดขึ้นมีปริมาณที่สูงมาก โดยเฉพาะฤดูกาลท่องเที่ยว และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ทำให้เทศบาลเมืองป่าตองรับภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บขนและค่ากำจัดขยะที่สูงมาก ประมาณ 20 ล้านบาท ขณะที่เก็บค่าธรรมเนียมเก็บขนขยะได้เพียง 6.69 ล้านบาท จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการวางแผนการเก็บขน การบริหารทรัพยากรบุคคล เครื่องมืออุปกรณ์และงบประมาณ รวมทั้งการดำเนินกิจกรรม โครงการเพื่อรณรงค์ให้เกิดความตระหนักและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

พล.ต.อินทรัตน์ กล่าวภายหลังการฟังบรรยายสรุปของภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ว่า การดำเนินการแก้ปัญหาขยะของภูเก็ตจะเรียบร้อยภายในปีนี้ โดยแบ่งการทำงานเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนแรกการหางบประมาณมาแก้ปัญหาเร่งด่วนตามที่มีมติครม.ไปแล้วจำนวน 55 ล้านบาทเพื่อปรับปรุงฟื้นฟูบ่อฝังกลบขยะ ส่วนที่สอง คือ การจัดตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามการใช้กฎหมายของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กองทุนสิ่งแวดล้อม กองทุนพัฒนาการท่องเที่ยว เป็นต้น โดยจะทำเป็นจังหวัดนำร่องไม่เฉพาะเรื่องของขยะเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเรื่องของน้ำเสีย น้ำดี และปัญหาสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ส่วนที่สามจะได้เชิญองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 19 แห่งมาระดมความคิดเห็นกันว่า จะให้มีการสร้างเตาเผาใหม่หรือใหม่อย่างไรในพื้นที่หัวเกาะกับท้ายเกาะ เพื่อลดปัญหาอื่นๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น