ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ดึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำแผนงานกิจกรรมหมุนเวียนการใช้แก้ว แยกขยะอินทรีย์ และของเสียอันตรายชุมชนหวังแก้ปัญหาขยะล้นเมือง
วันนี้ (13 ก.พ.) ที่ห้องประชุมโรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน นางรัชนี เอมะรุจิ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นประธานเปิดการสัมมนา การจัดทำแผนงานกิจกรรมหมุนเวียนการใช้แก้ว แยกขยะอินทรีย์ และของเสียอันตรายจากชุมชน ซึ่งกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เครือข่ายท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ตเพื่อการจัดการสิ่งแวดล้อม มูลนิธิเพื่อการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและพลังงาน ตลอดจนหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ มีผู้แทนจากหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 19 แห่งในจังหวัดภูเก็ต ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถานประกอบการ นักวิชาการส่วนภูมิภาค และภาคประชาชน เข้าร่วมจำนวนประมาณ 200 คน
นายพิรียุตม์ วรรณพฤกษ์ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิเพื่อการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและพลังงาน กล่าวว่า จากปัญหาปริมาณขยะมูลฝอยของจังหวัดภูเก็ตซึ่งเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเมื่อปี 2549 มีปริมาณเฉลี่ย 439 ตัน/วัน ส่งผลให้ขยะมูลฝอยเกินจากการเผา ต้องนำไปกองทิ้งในพื้นที่ฝังกลบกว่าวันละ 150 ตัน และทำให้พื้นที่ฝังกลบที่เหลือไม่เพียงพอรองรับ และในปี 2550 ปริมาณขยะเพิ่มขึ้นกว่าวันละ 500 ตัน
ขณะเดียวกัน โรงงานคัดแยกขยะมูลฝอยหยุดทำงาน เนื่องจากไม่สามารถแบกรับต้นทุนดำเนินการได้ ทำให้ปริมาณขยะมูลฝอยเกือบ 250 ตัน/วัน ถูกกองทิ้งในพื้นที่ฝังกลบจนเกิดปัญหาน้ำชะขยะไหลลงสู่แหล่งน้ำ และเกิดผลกระทบต่อการเลี้ยงปลาของชุมชนบริเวณใกล้เคียง อีกทั้งขยะที่เข้าเตาเผาเป็นขยะอินทรีย์ หรือเศษอาหารกว่าร้อยละ 60 ซึ่งมีผลต่อการควบคุมอุณหภูมิ ประสิทธิภาพและการควบคุมมลพิษจากการเผา และจากการศึกษาองค์
ประกอบของขยะมูลฝอย ณ สถานที่กำจัดขยะมูลฝอย จ.ภูเก็ต ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2550 พบสัดส่วนของขยะรีไซเคิลประเภทแก้วเพิ่มขึ้นในทุกท้องถิ่น กว่าร้อยละ 15 โดยน้ำหนักของปริมาณขยะรวม หรือวันละ 75 ตัน โดยที่แก้วไม่ถูกเผา และจะต้องเอาไปฝังกลบ โดยไม่มีการใช้ประโยชน์ อีกทั้งยังทำให้ต้นทุนการเก็บขนและค่ากำจัดของท้องถิ่นเพิ่มสูงขึ้น
“แก้วจัดเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีศักยภาพในการอนุรักษ์พลังงานแฝงอยู่ การนำแก้วกลับมาใช้ใหม่จะช่วยให้สามารถประหยัดพลังงานได้กว่า 15% ของพลังงานที่ต้องการใช้ในการผลิตแก้วจากวัตถุดิบตามธรรมชาติ(ทราย) การคัดแยกและจัดเก็บแก้วทำได้ง่าย ไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จึงสามารถรณรงค์ให้ประชาชนและสถานประกอบการ มีส่วนร่วมในการคัดแยกและจัดระบบเก็บรวบรวมแก้วได้ทันที”
ส่วนขยะอันตรายจากชุมชน แม้จะมีสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับขยะประเภทอื่น แต่สามารถก่อให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตที่รุนแรง โดยเฉพาะกรณีที่กำจัดด้วยการเผา สารพิษ โลหะหนักจากขยะอันตรายสามารถแปรรูปเป็นมลพิษ ในสถานะก๊าซที่ปล่อยออกมาจากการเผาไหม้ของเหลวที่ปนออกมากับน้ำชะขยะ หรือในรูปของแข็งที่ปะปนมากับเถ้าของเตาเผา การคัดแยกขยะอันตรายจากชุมชน จึงมีความสำคัญในการป้องกันมลพิษที่ประชาชนและสถานประกอบการสามารถมีส่วนร่วมและเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดวิธีหนึ่ง
ทางด้านนางรัชนี กล่าวว่า กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เล็งเห็นความสำคัญของการคัดแยกขยะมูลฝอยทั้ง 3 ประเภท จึงกำหนดจัดงานเปิดกิจกรรมหมุนเวียนการใช้แก้ว แยกขยะอินทรีย์และของเสียอันตรายจากชุมชน ภายใต้ชื่องาน รวมพลังคนภูเก็ต คัดแยกแก้ว ลดขยะล้นเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์การคัดแยกขยะอินทรีย์ การคัดแยกและรวบรวมแก้วและขยะอันตรายจากชุมชน ภายใต้โครงการสนับสนุนความร่วมมือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดการขยะมูลฝอย จังหวัดภูเก็ต
ทั้งนี้ คาดหวังว่าประชาชนในจังหวัดภูเก็ตร่วมมือกันคัดแยกขยะมูลฝอยทั้ง 3 ประเภท เพื่อนำไปใช้ประโยชน์หรือกำจัดอย่างปลอดภัยต่อไป ก็จะทำให้ปัญหาขยะมูลฝอยของจังหวัดภูเก็ตละลง ลดขยะล้นเมือง และยังช่วยลดปัญหาโลกร้อนอีกด้วย
การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรมการคัดแยกและรวบรวมแก้ว ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในจังหวัดภูเก็ต รวมถึงเริ่มต้นโครงการฯอย่างเป็นรูปธรรม สนับสนุนความร่วมมือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการจัดการขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ต โดยการเข้าร่วมสัมมนาจัดทำแผนการจัดการคัดแยกขยะมูลฝอยประเภทขยะอินทรีย์ แก้วและของเสียอันตรายจากชุมชน รวมทั้งนำเสนอสถานการณ์ปัญหาขยะมูลฝอยจากแหล่งกำเนิด ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในจังหวัดภูเก็ต นางรัชนีกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วย ในเวลาประมาณ 17.00 น.วันเดียวกันนี้ ที่บริเวณชายหาดสุรินทร์ ต.เชิงถลาง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล และกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) ร่วมกัน เปิดกิจกรรมหมุนเวียนการใช้แก้ว แยกขยะอินทรีย์ และของเสียอันตรายจากชุมชน “รวมพลังคนภูเก็ต คัดแยกแก้ว ลดขยะล้นเมือง” พร้อมกันนี้ก็ได้มีการปล่อยขบวนรถเก็บรวบรวมแก้วด้วย
วันนี้ (13 ก.พ.) ที่ห้องประชุมโรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน นางรัชนี เอมะรุจิ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นประธานเปิดการสัมมนา การจัดทำแผนงานกิจกรรมหมุนเวียนการใช้แก้ว แยกขยะอินทรีย์ และของเสียอันตรายจากชุมชน ซึ่งกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เครือข่ายท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ตเพื่อการจัดการสิ่งแวดล้อม มูลนิธิเพื่อการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและพลังงาน ตลอดจนหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ มีผู้แทนจากหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 19 แห่งในจังหวัดภูเก็ต ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถานประกอบการ นักวิชาการส่วนภูมิภาค และภาคประชาชน เข้าร่วมจำนวนประมาณ 200 คน
นายพิรียุตม์ วรรณพฤกษ์ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิเพื่อการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและพลังงาน กล่าวว่า จากปัญหาปริมาณขยะมูลฝอยของจังหวัดภูเก็ตซึ่งเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเมื่อปี 2549 มีปริมาณเฉลี่ย 439 ตัน/วัน ส่งผลให้ขยะมูลฝอยเกินจากการเผา ต้องนำไปกองทิ้งในพื้นที่ฝังกลบกว่าวันละ 150 ตัน และทำให้พื้นที่ฝังกลบที่เหลือไม่เพียงพอรองรับ และในปี 2550 ปริมาณขยะเพิ่มขึ้นกว่าวันละ 500 ตัน
ขณะเดียวกัน โรงงานคัดแยกขยะมูลฝอยหยุดทำงาน เนื่องจากไม่สามารถแบกรับต้นทุนดำเนินการได้ ทำให้ปริมาณขยะมูลฝอยเกือบ 250 ตัน/วัน ถูกกองทิ้งในพื้นที่ฝังกลบจนเกิดปัญหาน้ำชะขยะไหลลงสู่แหล่งน้ำ และเกิดผลกระทบต่อการเลี้ยงปลาของชุมชนบริเวณใกล้เคียง อีกทั้งขยะที่เข้าเตาเผาเป็นขยะอินทรีย์ หรือเศษอาหารกว่าร้อยละ 60 ซึ่งมีผลต่อการควบคุมอุณหภูมิ ประสิทธิภาพและการควบคุมมลพิษจากการเผา และจากการศึกษาองค์
ประกอบของขยะมูลฝอย ณ สถานที่กำจัดขยะมูลฝอย จ.ภูเก็ต ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2550 พบสัดส่วนของขยะรีไซเคิลประเภทแก้วเพิ่มขึ้นในทุกท้องถิ่น กว่าร้อยละ 15 โดยน้ำหนักของปริมาณขยะรวม หรือวันละ 75 ตัน โดยที่แก้วไม่ถูกเผา และจะต้องเอาไปฝังกลบ โดยไม่มีการใช้ประโยชน์ อีกทั้งยังทำให้ต้นทุนการเก็บขนและค่ากำจัดของท้องถิ่นเพิ่มสูงขึ้น
“แก้วจัดเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีศักยภาพในการอนุรักษ์พลังงานแฝงอยู่ การนำแก้วกลับมาใช้ใหม่จะช่วยให้สามารถประหยัดพลังงานได้กว่า 15% ของพลังงานที่ต้องการใช้ในการผลิตแก้วจากวัตถุดิบตามธรรมชาติ(ทราย) การคัดแยกและจัดเก็บแก้วทำได้ง่าย ไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จึงสามารถรณรงค์ให้ประชาชนและสถานประกอบการ มีส่วนร่วมในการคัดแยกและจัดระบบเก็บรวบรวมแก้วได้ทันที”
ส่วนขยะอันตรายจากชุมชน แม้จะมีสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับขยะประเภทอื่น แต่สามารถก่อให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตที่รุนแรง โดยเฉพาะกรณีที่กำจัดด้วยการเผา สารพิษ โลหะหนักจากขยะอันตรายสามารถแปรรูปเป็นมลพิษ ในสถานะก๊าซที่ปล่อยออกมาจากการเผาไหม้ของเหลวที่ปนออกมากับน้ำชะขยะ หรือในรูปของแข็งที่ปะปนมากับเถ้าของเตาเผา การคัดแยกขยะอันตรายจากชุมชน จึงมีความสำคัญในการป้องกันมลพิษที่ประชาชนและสถานประกอบการสามารถมีส่วนร่วมและเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดวิธีหนึ่ง
ทางด้านนางรัชนี กล่าวว่า กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เล็งเห็นความสำคัญของการคัดแยกขยะมูลฝอยทั้ง 3 ประเภท จึงกำหนดจัดงานเปิดกิจกรรมหมุนเวียนการใช้แก้ว แยกขยะอินทรีย์และของเสียอันตรายจากชุมชน ภายใต้ชื่องาน รวมพลังคนภูเก็ต คัดแยกแก้ว ลดขยะล้นเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์การคัดแยกขยะอินทรีย์ การคัดแยกและรวบรวมแก้วและขยะอันตรายจากชุมชน ภายใต้โครงการสนับสนุนความร่วมมือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดการขยะมูลฝอย จังหวัดภูเก็ต
ทั้งนี้ คาดหวังว่าประชาชนในจังหวัดภูเก็ตร่วมมือกันคัดแยกขยะมูลฝอยทั้ง 3 ประเภท เพื่อนำไปใช้ประโยชน์หรือกำจัดอย่างปลอดภัยต่อไป ก็จะทำให้ปัญหาขยะมูลฝอยของจังหวัดภูเก็ตละลง ลดขยะล้นเมือง และยังช่วยลดปัญหาโลกร้อนอีกด้วย
การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรมการคัดแยกและรวบรวมแก้ว ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในจังหวัดภูเก็ต รวมถึงเริ่มต้นโครงการฯอย่างเป็นรูปธรรม สนับสนุนความร่วมมือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการจัดการขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ต โดยการเข้าร่วมสัมมนาจัดทำแผนการจัดการคัดแยกขยะมูลฝอยประเภทขยะอินทรีย์ แก้วและของเสียอันตรายจากชุมชน รวมทั้งนำเสนอสถานการณ์ปัญหาขยะมูลฝอยจากแหล่งกำเนิด ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในจังหวัดภูเก็ต นางรัชนีกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วย ในเวลาประมาณ 17.00 น.วันเดียวกันนี้ ที่บริเวณชายหาดสุรินทร์ ต.เชิงถลาง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล และกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) ร่วมกัน เปิดกิจกรรมหมุนเวียนการใช้แก้ว แยกขยะอินทรีย์ และของเสียอันตรายจากชุมชน “รวมพลังคนภูเก็ต คัดแยกแก้ว ลดขยะล้นเมือง” พร้อมกันนี้ก็ได้มีการปล่อยขบวนรถเก็บรวบรวมแก้วด้วย