ศูนย์ข่าวภูเก็ต - หลายหน่วยงานมนภูเก็ตเดินหน้าแก้ปัญหาขยะล้นเมืองจัดเสวนาทางวิชาการเรื่อง “สถานการณ์ขยะ : บทสรุปและแนวทางการแก้ไข” ชี้ปริมาณขยะเพิ่มทุกปีโดยเฉพาะขวดแก้วในแหล่งท่องเที่ยววอนผู้ประกอบการ ร้านอาหาร ประชาชนแยกขยะก่อนลงถัง
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับมูลนิธิเพื่อการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและพลังงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จัดเวทีเสวนาทางวิชาการครั้งที่ 3 ปีที่ 3 เรื่อง สถานการณ์ขยะ:บทสรุปและแนวทางในการแก้ไขปัญหา โดยมีนางอัญชลี วานิช เทพบุตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานในพิธีเปิด
โดยนางอัญชลีกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาขยะของจังหวัดภูเก็ตว่า ปัจจุบันปัญหาขยะของจังหวัดภูเก็ตยังมีความรุนแรงแม้ว่าที่ผ่านมาทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาขยะของจังหวัดภูเก็ตมาโดยตลอดแม้ว่าในภาพรวมปริมาณขยะมูลฝอยจะไม่ลดลง
แต่จากผลการดำเนินงานตามโครงการต่างๆ แสดงให้เห็นว่าการดำเนินงานไม่ได้สูญเปล่า ไม่ว่าจะเป็นโครงการธนาคารวัสดุรีไซเคิลในรงเรียนซึ่งมีโรงเรียนเข้าร่วมกิจกรรมแล้ว 54 แห่งซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยแยกขยะตั้งแต่ต้นทางและนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้, โครงการจัดทำฐานข้อมูลสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน โดยมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ 32 แห่ง
โครงการถนนสวยปลอดถังขยะเป็นโครงการที่ส่งเสริมให้ชุมชนคัดแยกขยะอินทรีย์มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมโครงการแล้ว 7 แห่ง ปัจจุบันรวมรวมขยะอินทรีย์ได้วันละ 1,200-1,500 กิโลกรัม ซึ่งโครงการนี้ช่วยลดปริมาณขยะอินทรีย์เข้าสู่โรงงานเตาเผาขยะไปได้จำนวนมาก, โครงการจัดตั้งโรงงานปุ๋ยอินทรีย์
ขณะนี้มีจำนวน 2 แห่ง คือ โรงงานปุ๋ยอินทรีย์เทพกระษัตรี ดูแลโดยชุมชนบ่อกรวด สร้างเสร็จแล้วและเปิดดำเนินการแล้ว ส่วนอีกแห่งเป็นโรงงานปุ๋ยอินทรีเชิงทะเล ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการคาดว่าจะสร้างเสร็จภายในเดือน ก.พ.นี้ โดยโรงงานทั้ง 2 แห่งจะช่วยแปรสภาพขยะอินทรีเป็นปุ๋ยได้ประมาณ 2-3 ตันต่อวัน
ขณะที่ นายพีรยุตม์ วรรณพฤกษ์ ประธานมูลนิธิเพื่อการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและพลังงาน กล่าวในการจัดเวทีเสวนาว่า ขณะนี้ปริมาณขยะในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีปริมาณเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะขวดแก้วในแหล่งท่องเที่ยวที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังจากมีปัญหาเรื่องของการขนส่งที่ขึ้นราคาทำให้ไม่มีการคัดแยกขวดแก้วเพื่อนำไปขายต่อส่งผลให้ปริมาณขวดแก้วที่เกิดขึ้นในพื้นที่ถูกเก็บเข้าโรงงานเตาเผาขยะส่งผลให้เตาเผาลดประสิทธิภาพในการทำงานและสามารถผลิตความร้อนออกมาได้ลดลง ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเตาเผาขยะลดลงด้วย
เรื่องนี้จริงๆ แล้วแก้วนั้นไม่ใช้ขยะเป็นวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ไหม้ ผู้ประกอบการ ร้านอาหาร ประชาชนควรที่จะคัดแยกขวดแก้วตั้งแต่ต้นทางเพื่อลดปริมาณขยะในพื้นที่ให้เหลือน้อยลง
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.พ.) ทางกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับจังหวัดภูเก็ตและมูลนิธิพัฒนาสิ่งแวดล้อมและพลังงาน กำหนดจัดกิจกรรม “รวมพลคนภูเก็ต คัดแยกแยกแก้ว ลดขยะล้นเมือง” ที่หาดสุรินทร์ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
โดยมีนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์การคัดแยกขยะอินทรีย์และรวบรวมการคัดแยกแก้ว และขยะอันตรายของชุมชน ซึ่งในส่วนของพื้นที่เชิงทะเลนั้นเป็นพื้นที่หนึ่งที่มีปริมาณแก้วเพิ่มขึ้นมาที่สุดในจังหวัดหรือประมาณ 26%
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับมูลนิธิเพื่อการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและพลังงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จัดเวทีเสวนาทางวิชาการครั้งที่ 3 ปีที่ 3 เรื่อง สถานการณ์ขยะ:บทสรุปและแนวทางในการแก้ไขปัญหา โดยมีนางอัญชลี วานิช เทพบุตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานในพิธีเปิด
โดยนางอัญชลีกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาขยะของจังหวัดภูเก็ตว่า ปัจจุบันปัญหาขยะของจังหวัดภูเก็ตยังมีความรุนแรงแม้ว่าที่ผ่านมาทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาขยะของจังหวัดภูเก็ตมาโดยตลอดแม้ว่าในภาพรวมปริมาณขยะมูลฝอยจะไม่ลดลง
แต่จากผลการดำเนินงานตามโครงการต่างๆ แสดงให้เห็นว่าการดำเนินงานไม่ได้สูญเปล่า ไม่ว่าจะเป็นโครงการธนาคารวัสดุรีไซเคิลในรงเรียนซึ่งมีโรงเรียนเข้าร่วมกิจกรรมแล้ว 54 แห่งซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยแยกขยะตั้งแต่ต้นทางและนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้, โครงการจัดทำฐานข้อมูลสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน โดยมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ 32 แห่ง
โครงการถนนสวยปลอดถังขยะเป็นโครงการที่ส่งเสริมให้ชุมชนคัดแยกขยะอินทรีย์มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมโครงการแล้ว 7 แห่ง ปัจจุบันรวมรวมขยะอินทรีย์ได้วันละ 1,200-1,500 กิโลกรัม ซึ่งโครงการนี้ช่วยลดปริมาณขยะอินทรีย์เข้าสู่โรงงานเตาเผาขยะไปได้จำนวนมาก, โครงการจัดตั้งโรงงานปุ๋ยอินทรีย์
ขณะนี้มีจำนวน 2 แห่ง คือ โรงงานปุ๋ยอินทรีย์เทพกระษัตรี ดูแลโดยชุมชนบ่อกรวด สร้างเสร็จแล้วและเปิดดำเนินการแล้ว ส่วนอีกแห่งเป็นโรงงานปุ๋ยอินทรีเชิงทะเล ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการคาดว่าจะสร้างเสร็จภายในเดือน ก.พ.นี้ โดยโรงงานทั้ง 2 แห่งจะช่วยแปรสภาพขยะอินทรีเป็นปุ๋ยได้ประมาณ 2-3 ตันต่อวัน
ขณะที่ นายพีรยุตม์ วรรณพฤกษ์ ประธานมูลนิธิเพื่อการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและพลังงาน กล่าวในการจัดเวทีเสวนาว่า ขณะนี้ปริมาณขยะในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีปริมาณเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะขวดแก้วในแหล่งท่องเที่ยวที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังจากมีปัญหาเรื่องของการขนส่งที่ขึ้นราคาทำให้ไม่มีการคัดแยกขวดแก้วเพื่อนำไปขายต่อส่งผลให้ปริมาณขวดแก้วที่เกิดขึ้นในพื้นที่ถูกเก็บเข้าโรงงานเตาเผาขยะส่งผลให้เตาเผาลดประสิทธิภาพในการทำงานและสามารถผลิตความร้อนออกมาได้ลดลง ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเตาเผาขยะลดลงด้วย
เรื่องนี้จริงๆ แล้วแก้วนั้นไม่ใช้ขยะเป็นวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ไหม้ ผู้ประกอบการ ร้านอาหาร ประชาชนควรที่จะคัดแยกขวดแก้วตั้งแต่ต้นทางเพื่อลดปริมาณขยะในพื้นที่ให้เหลือน้อยลง
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.พ.) ทางกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับจังหวัดภูเก็ตและมูลนิธิพัฒนาสิ่งแวดล้อมและพลังงาน กำหนดจัดกิจกรรม “รวมพลคนภูเก็ต คัดแยกแยกแก้ว ลดขยะล้นเมือง” ที่หาดสุรินทร์ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
โดยมีนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์การคัดแยกขยะอินทรีย์และรวบรวมการคัดแยกแก้ว และขยะอันตรายของชุมชน ซึ่งในส่วนของพื้นที่เชิงทะเลนั้นเป็นพื้นที่หนึ่งที่มีปริมาณแก้วเพิ่มขึ้นมาที่สุดในจังหวัดหรือประมาณ 26%
