ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – พันธมิตรสงขลา ฟื้นรวมตัวอีกครั้งหลังพบสัญาณอันตรายทางการเมือง ใช้อำนาจแทรกแซงการโยกย้าย ขรก.และพฤติกรรมอื่นเพื่อกรุยทางให้ “ทักษิณ” เดินทางกลับไทย ชี้ชัดรัฐบาลนอมินีใช้อำนาจเพื่อนายใหญ่มากกว่าสนใจประชาชน ลั่นศุกร์นี้จะประชุมพันธมิตรเพื่อประสานงานไปยังจังหวัดอื่นทั่วภาคใต้ ประกาศเลือกข้างความถูกต้องให้สังคม
แม้ว่ากว่า 1 ปีแล้ว ที่พันธมิตรจังหวัดสงขลา ร่วมยุติบทบาทเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมได้ทำหน้าที่ตรวจสอบทุจริตของรัฐบาลชุดก่อนแล้วแยกย้ายกันประกอบอาชีพตามปกติ แต่รัฐบาลภายใต้การนำของ นายสมัคร สุนทรเวช บริหารประเทศได้ไม่ทันข้ามเดือนก็ใช้อำนาจแทรกแซงโดยมิชอบ เพื่อเอื้ออำนวยผลประโยชน์ให้กับอดีตนายกรัฐมนตรี นับเป็นสัญญาณอันตรายอีกครั้งหนึ่งของการเมืองประเทศไทย ทำให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประกาศรวมตัวฟื้นบทบาทใหม่อีกครั้ง
วันนี้ (25 ก.พ.) นายอติวัณณ์ ปานเพชร แกนนำพันธมิตรจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ในส่วนของพันธมิตรจังหวัดสงขลา ภายหลังจากที่มีการเลือกตั้งและรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารงานก็ได้มีการเฝ้าติดตามสถานการณ์บ้านเมืองอย่างใกล้ชิดเช่นกัน เนื่องจากหลายพฤติกรรมชี้ชัดแล้วว่าการเข้ามาของรัฐบาลชุดนี้เพื่อเป็นการสานต่อความต้องการของนายใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง
หลังจากที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศจะฟื้นความร่วมมืออีกครั้ง พันธมิตรจังหวัดสงขลา ก็ได้มีการติดต่อกับแกนนำและสมาชิกว่าทาง จ.สงขลา ก็เตรียมประชุมและประเมินสถานการณ์ในวันศุกร์ที่ 29 ก.พ.นี้ เพื่อประสานงานยังแกนนำพันธมิตรในภาคใต้ ซึ่งคาดว่า การเตรียมพร้อมของพลังประชาชนจะช่วยยับยั้งไม่ให้มีการใช้อำนาจตามอำเภอใจได้ในระดับหนึ่งและถ้าสถานการณ์เข้าสู่วิกฤตพี่น้องชาวใต้ก็จะยังเป็นกำลังสำคัญในการเรียกร้องความถูกต้องต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
สำหรับการประกาศว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับมาประเทศไทยนั้นยังไม่มีความเป็นไปได้น้อย เนื่องจากรัฐบาลนอมินียังวางตำแหน่งสำคัญไม่ครบ แต่ใช้การโยนหินถามทางเพื่อหยั่งกระแสจากประชาชนก่อน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือการใช้อำนาจแทรกแซงตำแหน่งสำคัญที่ตรวจสอบการทุจริตของอดีตนายกรัฐมนตรีที่ต้องเดินหน้าต่อไปอย่างแน่นอน
นายอติวัณณ์ กล่าวด้วยว่า ตนรู้สึกหมดหวังกับการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ไม่ลงรอยแม้จะทำงานร่วมกัน ทำให้มีการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมายังคลุมเครือ ส่งผลต่อความล้มเหลวของการเลือกตั้งล่วงหน้า ส.ว.ในครั้งนี้ที่ประชาชนไม่ค่อยให้ความร่วมมือและสับสน
ด้าน นางอรทวี มิตรปวงชน แกนนำพันธมิตรจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า แม้ว่าสถานการณ์ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จะยังไม่มีการเคลื่อนไหวรวมตัวเหมือนกับพันธมิตรส่วนกลาง แต่ก็ได้เริ่มได้รับทราบข่าวแล้ว และยังคงเฝ้าตามติดสถานการณ์บ้านเมืองอย่างใกล้ชิดด้วยเช่นกัน เพราะระบอบทักษิณยังไม่ทันถูกพิพากษาตามกระบวนการยุติธรรม แต่รัฐบาลหุ่นเชิดก็เข้ามาใช้อำนาจเพื่อแทรกแซงการทำงานในกระบวนการยุติธรรมแล้ว
ส่วนกรณีที่มีการใช้อำนาจโยกย้าย นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นคนแรกเพื่อกรุยทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับมาประเทศไทย เชื่อแน่ว่าวิธีการที่ไม่ถูกต้องนี้จะทำให้พลังประชาชนลุกขึ้นมาต่อต้านเรียกร้องความถูกต้องขึ้นอีกครั้ง ซึ่งมีการตัดสินใจของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ว่าจะเดินเกมตามคำสั่งหรือการทำเพื่อความถูกต้องก็เป็นอีกตัวแปรหนึ่งที่จะเร่งให้ก้าวสู่สถานการณ์นั้นได้เร็วหรือช้าเพียงไร
“ถ้าหากมีการใช้อำนาจโยกย้ายคนที่ตรวจสอบทุจริตคุณทักษิณแล้ว คิดว่าคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องก็คงจะถูกย้ายด้วย ล่าสุดได้มีการโทรศัพท์พูดคุณจรัญ ภักดีธนากุล ก็บอกว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แต่ถ้าปล่อยให้สถานการณ์เหล่านี้ดำเนินต่อไปอาจจะมีการนองเลือดก็เป็นได้ การต่อสู้เพื่อเรียกร้องความชอบธรรมในภาคประชาชนก็ยากขึ้น เพราะมีตัวแทนของระบอบทักษิณและมีอำนาจอยู่ในตอนนี้ แต่สำหรับบุคลิกของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันแล้ว คิดว่าก็คงสองจิตสองใจว่าจะหาทางเพื่อให้ตัวเองอยู่เก้าอี้นี้ต่อ หรือจะทำให้ทักษิณกลับมาเพื่อจะมีอำนาจเบ็ดเสร็จเองอีกครั้ง”