xs
xsm
sm
md
lg

กระบี่จัดประชุมสามเหลี่ยมเศรษฐกิจด้านอาหารฮาลาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กระบี่ -จังหวัดกระบี่โชว์ศักยภาพ เป็นเจ้าภาพจัดประชุมสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย

เวลา 14.00 น.วันนี้ (22 ก.พ.) ที่ห้องประชุมโรงแรมกระบี่มาริไทม์ปาร์คแอนด์สปารีสอร์ท ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมนานาชาติด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาล อุตสาหกรรมและธุรกิจ ร่วมกับงานแสดงสินค้าฮาลาลสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ พ.ศ.2551 การอบรมเชิงปฎิบัติการ การพัฒนาผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกี่ยวกับมาตรฐานฮาลาล และงานเมาว์ลิด จังหวัดกระบี่ ครั้งที่ 27 ระหว่างวันที่ 22-24 กุมภาพันธ์ 51 พร้อมกล่าวบรรยายพิเศษ เรื่อง ศักยภาพด้านการค้า และอุตสาหกรรมฮาลาล ที่ซ่อนเร้นอยู่ในหมู่ประชาคมอาเซียน

ทั้งนี้ มี นายธันวาคม เขมะศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ รศ.ดรวินัย ดะห์ลัน คณบดี คณะสหเวชศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะให้การต้อนรับ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากประเทศต่างๆ กว่า 300 คน

รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน คณบดี คณะสหเวชศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะผู้ริเริ่มการจัดงาน World of Halal Science,Industry & Business Conference 2008 หรือ WHASIB 08 เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดฮาลาลทั่วโลกขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก 80,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา กลายเป็น 256,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปัจจุบัน

ในขณะที่การส่งออกอาหารสู่ประเทศสมาชิกโอไอซี หรือกลุ่มโลกมุสลิมของไทยมีปริมาณมากขึ้น โดยปีที่ผ่านมา มูลค่าสูงถึง 1,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2549 กว่าร้อยละ 50 รัฐบาลได้เห็นความสำคัญผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารฮาลาลของภูมิภาค โดยขณะนี้ไทยเป็นประธานคณะทำงาน ด้านผลิตภัณฑ์ และบริการฮาลาล ภายใต้โครงการสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย หรือที่เรียกกันว่า IMT-GT

การจัดประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีด้านผลิตภัณฑ์ และบริการฮาลาล ทั้งยังผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำทางด้านการส่งออกผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาล สู่ตลาดโลกมุสลิม

ขณะเดียวกัน เป็นการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจฮาลาลในระดับสากล และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในเขตจังหวัดภาคใต้ ที่มีประชากรมุสลิมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก พร้อมเป็นการสร้างตลาดการค้าแนวใหม่ ให้แก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ในเขตจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้จังหวัดกระบี่เป็นฐานกระจายสินค้า นอกจากนี้ยังเป็นการต่อยอดนโยบายรัฐบาล ในการสร้างความสมานฉันท์โดยใช้จังหวัดกระบี่เป็นแบบอย่างสำหรับ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่กำลังมีปัญหา

ทางด้าน นางจิตราภรณ์ เตชาชาญ ผู้อำนวยการ สสว.ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนการจัดงาน WHASIB 08 ว่า ในปัจจุบันวิสาหกิจระดับเอสเอ็มอี กลายเป็นธุรกิจหลัก ที่มีจำนวนมากถึง 99 ของจำนวนธุรกิจทั้งหมด มีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก ความก้าวหน้าของเอสเอ็มอี จึงเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นถึงความเจริญเติบโตของประเทศไทย

สสว.เล็งเห็นว่า การจัดงาน WHASIB 08 ในครั้งนี้สามารถสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่เป็นมุสลิม และที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับสุสลิม ให้พัฒนาธุรกิจของตนได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการบริหาร การจัดการในด้านต่างๆ ตลอดจนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตน ให้เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ พร้อมก้าวเข้าสู่ตลาดสากล

ด้าน นายประสิทธิ์ ชุมเมือง รอง ผอ.ศูนย์อำนวยการบริหารชายแดนใต้ กล่าวด้วยว่า ศอ.บต.ในฐานะผู้รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ทีมีมุสลิมอยู่เป็นจำนวนมาก ได้เห็นความสำคัญของงานดังกล่าว โดยวัตถุประสงค์ของงาน มุ่งที่จะยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมและธุรกิจไม่ใช่เฉพาะจังหวัดกระบี่ แต่รวมถึงพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมด เนื่องจากเป็นพื้นที่ในเขตสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ และเมื่อจุดเน้นอยู่ที่ฮาลาล ผู้ที่แสดงบทบาทนำย่อมเป็นประชากรมุสลิม พื้นที่ในความดูแล ของ ศอ.บต.จึงกลายเป็นพื้นที่หลัก ที่จะได้ประโยชน์จากการพัฒนาธุรกิจการค้าและอุตสาหกรรมฮาลาลดังกล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น