ASTVผู้จัดการรายวัน - นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยภายหลังมอบนโยบายให้ผู้บริหารธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ธอท.)ว่า ได้เน้นให้ธนาคารมีการเร่งปล่อยสินเชื่อให้จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะ 3 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาความไม่สงบและจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยได้แก่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส รวมทั้งบางอำเภอในจ.สงขลา โดยต้องหาแนวทางช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนตามระบบอิสลามให้มีเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจได้ต่อไป
นอกจากนี้ จะให้ความช่วยเหลือแก่นักศึกษามุสลิม ให้ได้รับสินเชื่ออย่างทั่วถึง เนื่องจากมีนักศึกษาจำนวนมากไม่สามารถกู้เงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้ จึงต้องให้ธนาคารเป็นผู้ปล่อยกู้ตามหลักศาสนา ซึ่งได้มอบหมายให้ธนาคารเป็นองค์กรหลักในการจัดทำฐานข้อมูลของนักศึกษารวมถึงแนวทางการให้สินเชื่อ โดยให้หารือร่วมกับ กยศ.และธนาคารกรุงไทยให้ดำเนินการร่วมกัน รวมทั้งให้ธนาคารขยายบทบาทการสนับสนุนสินเชื่อให้กับผู้ส่งออกสินค้าฮาลาล เพื่อให้สินเชื่อแบบครบวงจร ทั้งให้คำปรึกษาการค้าและการลงทุน
ส่วนด้านเงินทุนนั้นได้ให้แนวทางโดยต้องการให้ธนาคารหาแหล่งเงินทุนจากกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ จึงเชื่อว่ามีทุนจำนวนมาก มาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ด้วยการออกพันธบัตรอิสลามวงเงิน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 17,500 ล้านบาท เพื่อเป็นแหล่งทุนในการนำมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
ขณะที่นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ธอท.) กล่าวว่า ธนาคารมีแผนดำเนินโครงการสนับสนุนนโยบายรัฐ 4 ด้าน รวมเป็นเงิน 24,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอ วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ 8 โครงการ และโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยผ่อนปรนเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการมีต้นทุนต่ำ โครงการให้สินเชื่อเพื่อการศึกษาร่วมกับ กยศ.วงเงิน 1,000 ล้านบาท เพื่อให้นักเรียนนักศึกษามุสลิมขาดแคลนทุนทรัพย์มีเงินทุนในการศึกษาในลักษณะ กยศ.และบริหารจัดการผ่านธนาคารอิสลามฯ โครงการสินเชื่อผู้ประกอบการท่องเที่ยว 5,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจท่องเที่ยวในภาคใต้ให้มีต้นทุนการลงทุนต่ำ โครงการสนับสนุนธุรกิจฮาลาล 3,000 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ได้รับรองมาตรฐานฮาลาลได้รับสินเชื่อจากธนาคารและสามารถขยายการส่งออกไปยังต่างประเทศมากขึ้น
สำหรับผลดำเนินปี 51 ที่ผ่านมา ธนาคารมีสินทรัพย์รวม 23,864 ล้านบาท เงินฝากรวม 20,000 ล้านบาท ให้สินเชื่อ16,721 ล้านบาท มีรายได้สุทธิ 457 ล้านบาท แต่ยังมีผลกำไรเล็กน้อย 32 ล้านบาท จากที่เคยขาดทุนในปี 50 ถึง 286 ล้านบาท ขณะที่มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ที่ 14.52% ของสินเชื่อรวม
ส่วนแนวทางการออกพันธบัตรอิสลามวงเงิน 17,500 ล้านบาทของกระทรวงการคลังนั้น ถือว่าประเทศในตะวันออกกลางมีศักยภาพสูงในการระดมทุน โดยเฉพาะเมื่อราคาน้ำมันสูงเกิน 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จะยังทำให้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันมีรายได้สูง และมีความพร้อมที่จะนำเงินไปลงทุนกับประเทศต่าง ๆ คาดว่ากระทรวงการคลังน่าจะออกพันธบัตรไตรมาส 3 ปีนี้
นอกจากนี้ จะให้ความช่วยเหลือแก่นักศึกษามุสลิม ให้ได้รับสินเชื่ออย่างทั่วถึง เนื่องจากมีนักศึกษาจำนวนมากไม่สามารถกู้เงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้ จึงต้องให้ธนาคารเป็นผู้ปล่อยกู้ตามหลักศาสนา ซึ่งได้มอบหมายให้ธนาคารเป็นองค์กรหลักในการจัดทำฐานข้อมูลของนักศึกษารวมถึงแนวทางการให้สินเชื่อ โดยให้หารือร่วมกับ กยศ.และธนาคารกรุงไทยให้ดำเนินการร่วมกัน รวมทั้งให้ธนาคารขยายบทบาทการสนับสนุนสินเชื่อให้กับผู้ส่งออกสินค้าฮาลาล เพื่อให้สินเชื่อแบบครบวงจร ทั้งให้คำปรึกษาการค้าและการลงทุน
ส่วนด้านเงินทุนนั้นได้ให้แนวทางโดยต้องการให้ธนาคารหาแหล่งเงินทุนจากกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ จึงเชื่อว่ามีทุนจำนวนมาก มาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ด้วยการออกพันธบัตรอิสลามวงเงิน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 17,500 ล้านบาท เพื่อเป็นแหล่งทุนในการนำมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
ขณะที่นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ธอท.) กล่าวว่า ธนาคารมีแผนดำเนินโครงการสนับสนุนนโยบายรัฐ 4 ด้าน รวมเป็นเงิน 24,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอ วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ 8 โครงการ และโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยผ่อนปรนเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการมีต้นทุนต่ำ โครงการให้สินเชื่อเพื่อการศึกษาร่วมกับ กยศ.วงเงิน 1,000 ล้านบาท เพื่อให้นักเรียนนักศึกษามุสลิมขาดแคลนทุนทรัพย์มีเงินทุนในการศึกษาในลักษณะ กยศ.และบริหารจัดการผ่านธนาคารอิสลามฯ โครงการสินเชื่อผู้ประกอบการท่องเที่ยว 5,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจท่องเที่ยวในภาคใต้ให้มีต้นทุนการลงทุนต่ำ โครงการสนับสนุนธุรกิจฮาลาล 3,000 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ได้รับรองมาตรฐานฮาลาลได้รับสินเชื่อจากธนาคารและสามารถขยายการส่งออกไปยังต่างประเทศมากขึ้น
สำหรับผลดำเนินปี 51 ที่ผ่านมา ธนาคารมีสินทรัพย์รวม 23,864 ล้านบาท เงินฝากรวม 20,000 ล้านบาท ให้สินเชื่อ16,721 ล้านบาท มีรายได้สุทธิ 457 ล้านบาท แต่ยังมีผลกำไรเล็กน้อย 32 ล้านบาท จากที่เคยขาดทุนในปี 50 ถึง 286 ล้านบาท ขณะที่มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ที่ 14.52% ของสินเชื่อรวม
ส่วนแนวทางการออกพันธบัตรอิสลามวงเงิน 17,500 ล้านบาทของกระทรวงการคลังนั้น ถือว่าประเทศในตะวันออกกลางมีศักยภาพสูงในการระดมทุน โดยเฉพาะเมื่อราคาน้ำมันสูงเกิน 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จะยังทำให้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันมีรายได้สูง และมีความพร้อมที่จะนำเงินไปลงทุนกับประเทศต่าง ๆ คาดว่ากระทรวงการคลังน่าจะออกพันธบัตรไตรมาส 3 ปีนี้