xs
xsm
sm
md
lg

ตร.นำเหตุ “วันทูโก” ตกรันเวย์เป็นกรณีศึกษาทำคู่มือให้ จนท.-เผยความคืบหน้าคดีสอบพยานไปแล้วกว่า 140 ปาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจนำเหตุการณ์สายการบินวันทูโก ตกรันเวย์ที่ภูเก็ต มาทำเป็นคู่มือเจ้าหน้าที่รับมืออุบัติเหตุใหญ่ในอนาคต พร้อมเผยความคืบหน้าคดีสอบปากคำไปแล้ว 140 ปาก

วันนี้ (19 ก.พ.) พล.ต.ท.วัชรพล ประสานราชกิจ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายกิจการพิเศษ ได้แถลงต่อผู้สื่อข่าวที่โรงแรมถาวรแกรนด์พลาซ่า ภายหลังการสัมมนา เรื่อง ประเมินผลการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากการคมนาคมขนส่งของตำรวจ กรณีศึกษา เหตุการณ์เครื่องบินสายการบินวันทูโกตกรันเวย์ ที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

โดยกล่าวว่า การสัมมนาในครั้งนี้ เนื่องจากได้เกิดเหตุการณ์เครื่องบินของสายการบินวันทูโก ตกรันเวย์ที่ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2550 ที่ผ่านมา ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของคนไทยและต่างชาติ และเกิดขึ้นในจังหวัดซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก

สิ่งที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติรับผิดชอบในกระบวนการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น รวมทั้งในกระบวนการสอบสวน การชันสูตรพลิกศพ การสอบสวนเกี่ยวกับการกระทำผิดที่อาจจะเกิดขึ้นจากการประมาทเลินเล่อ และมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ ในขณะที่กระทรวงคมนาคม ซึ่งมีกฎหมายและพนักงานสอบสวนเช่นกัน

ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องการทราบผลการแก้ไขปัญหาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการแก้ปัญหาได้ดีในระดับหนึ่ง เนื่องจากผู้เกี่ยวข้องมีประสบการณ์ในคราวเกิดสึนามิ เมื่อปี 2547 ทำให้เจ้าหน้าที่มีความพร้อมในด้านการพิสูจน์เอกลักษณ์ หรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่เราก็ต้องการพัฒนางานในส่วนนี้ให้มีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น

โดยจัดทำคู่มือในการปฏิบัติงานสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้กรณีที่เกิดอุบัติเหตุหมู่ต่างๆ ที่มีการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ไม่เฉพาะเครื่องบินตกเท่านั้น โดยเฉพาะเมื่อมีการเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เพราะจะมีเรื่องของการพิสูจน์เอกลักษณ์และการส่งคืนศพให้กับญาติ

“ผู้ที่มาร่วมสัมมนานั้นเป็นผู้ปฏิบัติซึ่งมีการนำเสนอปัญหาอุปสรรคข้อขัดข้อง ทำให้เห็นแนวทางในการพัฒนางานในส่วนนี้อย่างไร เพื่อให้งานในความรับผิดชอบของหน่วยงานต่างๆ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง โดยจะมีการนำผลจากการสัมมนาไปจัดทำเป็นคู่มือ หลักสูตรการอบรมข้าราชการ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2250 ทั้งนี้ คาดว่า จะแล้วเสร็จในประมาณ 2-3 เดือนข้างหน้า”

พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวถึงการเลือกเหตุการณ์วันทูโก ว่า เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตจากจำนวนผู้โดยสารและลูกเรือ 130 คน ในจำนวนนี้มีชาวต่างชาติเสียชีวิตถึง 53 คน ปัญหาที่เกิดขึ้น จึงค่อนข้างน่าสนใจ ปัญหาที่เกิดขึ้นมีไฟไหม้ และต้องมีการพิสูจน์เอกลักษณ์ ซึ่งมีความสำคัญ แม้การคืนศพและพิสูจน์เอกลักษณ์จะทำได้สมบูรณ์ไม่มีการร้องเรียนก็ตาม แต่จะทำอย่างไรให้สามารถพัฒนาเป็นมืออาชีพให้ได้

โดยเฉพาะ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวของโลก หากสามารถมาเสริมความสามารถ และมีความเป็นมืออาชีพได้ในทุกมิติ จะสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวได้มากยิ่งขึ้น

“ปัญหาอุปสรรคที่ต้องนำไปแก้ไขนั้นจริงๆ แล้วในหลายๆ เรื่องอยู่ในวิสัยของการบริหารจัดการและการทำความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ที่มีอยู่ในกฎหมายของแต่ละหน่วยงาน แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นไม่ใช่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งที่แก้ไขปัญหาได้ แต่ต้องบูรณาการกำลังร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการประสานงาน ระเบียบปฎิบัติ แนวทางการทำงานที่ชัดเจน จะทำให้การทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เชื่อว่า หากพิสูจน์ทราบได้ว่าอะไรคือปัญหา ก็ไม่เกินความสามารถในการนำไปบูรณาการ ซึ่งที่ผ่านมาก็ต้องชื่นชมทุกหน่วยงานสามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้เป็นอย่างดี”

ส่วนผลการสอบสวนของคดีดังกล่าว พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า จากที่ได้รับรายงานจากทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต คณะกรรมการสืบสวนหาสาเหตุเครื่องบินตกรันเวย์นั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงคมนาคมตามพระราชบัญญัติเดินอากาศไทย มีปลัดกระทรวง เป็นประธาน

ขณะนี้ทราบว่า ได้รับข้อมูลทางเทคนิคมาแล้ว อยู่ระหว่างการสังเคราะห์และวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งเมื่อเขาสรุปสาเหตุแล้วในส่วนของตำรวจก็จะเกี่ยวข้องกับกระบวนการสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งทางตำรวจอาจจะคงต้องไปประสานเพื่อขอเร่งรัด เพราะในกระบวนการสอบสวนมีขั้นตอนและระยะเวลาตาม ป.วิอาญา เพราะจะเป็นงานที่ต่อเนื่องกัน ซึ่งไม่สามารถที่จะกำหนดเวลาได้ว่าเมื่อไร เพราะต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ ซึ่งทางทายาทของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตก็รอผลในส่วนนี้อยู่ด้วยเช่นกัน

พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า การสอบสวนตาม ป.วิอาญา ชันสูตรพลิกศพสมบูรณ์ไปแล้ว ส่วนการสอบสวนคดีของสาเหตุการกระทำผิดคงต้องรอผลจากคณะกรรมการของกระทรวงคมนาคม เพราะพนักงานสอบสวนไม่มีความรู้ในส่วนนี้ เมื่อทราบผลแล้วการสรุปสำนวนคงไม่ยาก หากไม่ได้เกิดจากความประมาทก็ไม่ต้องดำเนินคดีกับใคร แต่หากเกิดจากความประมาทเลินล่อก็ต้องมีการแจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญาหรือกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องรอผลทางเทคนิค

“ขณะนี้ได้มีการสอบพยานไปแล้ว 140 ปาก ประกอบด้วยพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุใกล้บริเวณลานบิน 3 ปาก พยานหอบังคับการบิน 1 ปาก เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยประจำสนามบิน 3 ปาก เจ้าหน้าที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันตก 1 ปาก ญาติผู้เสียชีวิต 132 ปาก และสอบปากคำผู้บริหารสายการบินและผู้ก่อตั้งสายการบิน รวม 2 ปาก”
กำลังโหลดความคิดเห็น