xs
xsm
sm
md
lg

ทุ่ม 30 ล้านพัฒนา “ตะรุเตา” รับท่องเที่ยวโต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – อุทยานแห่งชาติตะรุเตาทุ่ม30 ล้าน เพื่อก่อสร้างสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก รองรับการท่องเที่ยวทางทะเลฝั่งอันดามันตอนล่าง ที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ฟุ้งปี 52 เดินหน้าทำพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และทะเลบนเกาะตะรุเตา ซึ่งจะเป็นอีกความพร้อมหนึ่งที่รองรับการผลักดันเป็นให้มรดกโลกในอนาคต

นายณัฐพล รัตนพันธ์ หัวหน้าเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล เปิดเผยว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ให้ความสนใจเที่ยวอุทยานแห่งชาติตะรุเตามากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะช่วงวันหยุดศุกร์-อาทิตย์ จะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาพักผ่อน รวมถึงการเข้าแคมป์พักแรม ทำกิจกรรมของสถานบันการศึกษาต่างๆ มากกว่าวันปกติ

เกาะที่มีธรรมชาติสวยงาม อาทิ เกาะอาดัง เกาะราวี เกาะหลีเป๊ะ เกาะไข่ เกาะหินงาม และเกาะตะรุเตา ที่ถือเป็นเพชรเม็ดงามของ จ.สตูล ที่มีความปลอดภัยและสงบท่ามกลางความสวยงามตามธรรมชาติของฝั่งทะเลอันดามัน

จากการที่มีนักท่องเที่ยวมากขึ้น ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาได้จัดระบบการเก็บรายได้ค่าธรรมเนียมขึ้นเกาะในเขตอุทยานฯ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมทั้งลดค่าธรรมเนียมขึ้นเกาะที่อยู่ในเขตอุทยานลง 50% โดยชาวต่างชาติเหลือ 200 บาท และชาวไทย 40 บาท แต่ก็พบว่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาสามารถจัดเก็บรายได้จากการท่องเที่ยวทุกประเภทประมาณ 2,000,000 บาท เทียบเท่ากับการจัดเก็บแบบเก่าทั้งปี โดยในปีนี้ตั้งเป้าที่ตั้งไว้ 5,000,000 บาท ซึ่งจะได้จากการเก็บค่าธรรมเนียมขึ้นเกาะ บริการบ้านพัก และเงินบริจาค

หัวหน้าเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ปัญหาของเกาะตะรุเตานั้นยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกยังไม่เพียงพอ ทั้งที่จอดเรือ ห้องน้ำ และบ้านพัก ดังนั้น ในปี 2551 นี้เขตอุทยานฯ จะดำเนินการก่อสร้างสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกบนเกาะตะรุเตาและเกาะอาดังรวม 30 ล้านบาท ทั้งการก่อสร้างห้องน้ำ แคมกราวด์สำหรับเป็นสถานที่กางเต็นท์ บ้านพัก ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ศาลาเอนกประสงค์ ร้านอาหาร

พร้อมทั้งแก้ปัญหาการลักลอบตัดไม้หอม และทำประมงอวนลากของชาวบ้าน บริเวณรอบเกาะตะรุเตา ซึ่งทำลายธรรมสิ่งแวดล้อม และปัญหาการจัดการน้ำเสีย ขยะ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของเกาะหลีเป๊ะที่มีภาคเอกชนไปลงทุน โดยไม่ช่วยรักษาทรัพยากรธรรมชาติไม่ให้ถูกทำลาย รวมถึงการสร้างอิทธิพลของบางกลุ่ม เพื่อผลประโยชน์บางอย่าง ซึ่งยังเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องอาศัยความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ ให้ความร่วมมือแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ส่วนในปี 2552 อุทยานแห่งชาติ ได้วางแผนจะก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์บนเกาะตะรุเตา ที่เคยเป็นสถานคุมขังนักโทษการเมืองในอดีต ร่วมด้วยพิพิธภัณฑ์โลกใต้น้ำที่มีการจัดนิทรรศการเผยแพร่ข้อมูลที่ทันสมัยขึ้นด้วยงบอีก 2 ล้านบาท เพื่อเป็นสถานที่ศึกษาให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยว

“ตอนนี้อุทยานจะพัฒนาเกาะตะรุเตาให้มีความพร้อมด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เพื่อที่จะผลักดันสู่การเป็นมรดกโลก ภายหลังที่ได้รับการประกาศเป็นมรดกอาเซียน ตั้งแต่ปี 2525 ทำให้เป็นที่รู้จักของต่างชาติ มีนักเขียนทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับที่แห่งนี้กว่า 30 เล่ม ส่งผลให้การจัดการท่องเที่ยวของที่นี่เป็นระบบ มีระเบียบ และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ศึกษาหาความรู้ที่อนุรักษ์ธรรมชาติอย่างยั่งยืน” หัวหน้าเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตากล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น