xs
xsm
sm
md
lg

เมืองคอนส่อเค้ารุ่ง “เชฟรอน” ศึกษาตั้งฐานชายฝั่ง-ผุดโกดังสำนักงานฝั่งสำรวจปิโตรเลียม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นครศรีธรรมราช - บ.เชฟรอน ประเทศไทย จำกัด จับมือ บ.เซ้าท์อี๊สท์เอเชีย เทคโนโลยี เตรียมศึกษาตั้งฐานการปฏิบัติงานสำรวจ และผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทย บนเนื้อที่ 300 ไร่ รองผู้ว่าฯ เผยหากก่อสร้างได้พื้นที่พัฒนาในหลายด้านแน่

วันนี้ (15 ก.พ.) คณะผู้บริหาร บริษัท เซ้าท์อี๊สท์เอเชียเทคโนโลยี จำกัด ในฐานะกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาและวิจัย ให้กับ บริษัท เชฟรอน ประเทศไทย สำรวจและผลิต จำกัด เดินทางเข้าพบนายสุนทร ประทุมทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการก่อสร้างฐานสนับสนุนการปฏิบัติงานสำรวจ และผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทย ซึ่งได้มีการเลือกใช้พื้นที่นครศรีธรรมราช ในการจัดตั้งฐานสนับสนุนดังกล่าว

นายสุนทร ประทุมทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จากการพุดคุย พบว่า ทางบริษัท เชฟรอน ได้เตรียมที่จะย้ายฐาน เพื่อบรรเทาความแออัดจากจังหวัดสงขลา มายัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเบื้องต้นมีการศึกษาพบว่า พื้นที่ อ.ท่าศาลา มีความเหมาะสมที่สุดในแถบ ต.กลาย และ ต.สระแก้ว ซึ่งพบว่า มีการเตรียมฐานบนฝั่งประมาณ 300 ไร่ ขณะนี้มีการประสานกับผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่นไปแล้ว และมีการศึกษาในพื้นที่ดังกล่าวอย่างละเอียด

“อย่างไรก็ตาม พบว่า พื้นที่ 300 ไร่นั้น เป็นเจ้าของที่ดินรายใหญ่ และมีผู้อาศัยรวมประมาณ 18 ครัวเรือน ซึ่งทั้ง 18 ครัวเรือนนี้ ต้องมีการอพยพออกไป โดยพบว่า เขาต้องคำนึงถึงอาชีพ ที่อยู่อาศัยใหม่ สภาพครอบครัว ดูแลความเป็นอยู่ ซึ่งถือว่าไม่มากเพียง 18 ครัวเรือนเท่านั้น ตรงนี้จะต้องไปทำความเข้าใจ”

รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวต่อไปว่า หากโครงการนี้นอกเหนือจากโครงการขุดเจาะในทะเล เริ่มขึ้นที่นครศรีธรรมราช สภาพเศรษฐกิจในหลายๆ เรื่องจะพัฒนาขึ้น รวมทั้งการจ้างงานคนในพื้นที่

รวมทั้งสภาพเศรษฐกิจโดยรวมบนฝั่งที่จะสะพัดมากขึ้น ลักษณะของการจัดตั้งฐานบนฝั่งนั้น จะมีสำนักงาน และมีคลังเสบียง และอุปกรณ์ที่สำหรับใช้ในแท่นขุดเจาะกลางทะเล ส่วนระบบอื่นๆ นั้นจะไม่มี จะมีเพียงท่าเรือสำหรับการขนย้ายวัสดุอุปกรณ์สิ่งของเสบียงเหล่านี้ไปยังแท่นขุดเจาะเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินการของบริษัท เชฟรอน นั้นได้มีการนำเสนอข้อมูล โดยบริษัทผ่าน นายสุนทร ประทุมทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า บริษัท เชฟรอน ประเทศไทย ได้ทำการสำรวจ และผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทย สามารถผลิตก๊าซธรรมชาติได้เฉลี่ยวันละ 1,600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้มากกว่าร้อยละ 75 นำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า สามารถตอบสนองความต้องการการใช้กระแสไฟฟ้าได้ถึง 1 ใน 3 ของปริมาณความต้องการทั้งหมด

ส่วนก๊าซธรรมชาติที่เหลืออีกร้อยละ 25 นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรม เชื้อเพลิง พาหนะ ก๊าซหุงต้ม และวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และก๊าซธรรมชาติ ที่ผลิตได้ทั้งหมดก็จะส่งให้กับบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ซึ่ง ปตท.จะส่งก๊าซผ่านท่อใต้ทะเล ไปยังโรงแยกก๊าชธรรมชาติของ ปตท.ที่ จ.ระยอง และนครศรีธรรมราช เพื่อเข้าสู่กระบวนการต่อไป ส่วนน้ำมันดิบผลิตได้ในปริมาณสูงเกือบ 90,000 บาร์เรลต่อวัน จะมีการจัดจำหน่ายทั้ง โรงกลั่นภายในประเทศ เช่น ไทยออยล์ และ บางจาก และส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ

ส่วนองค์ประกอบหลักของโครงการบนฝั่งนั้น ประกอบด้วย ท่าเรือสำหรับขนส่งวัสดุ อุปกรณ์ คลังเก็บวัสดุ และลานเก็บวัสดุต่างๆ รวมถึงอาคารสำนักงาน และจะไม่มีการก่อสร้าง หรือวางระบบท่อส่งก๊าซ หรือท่อส่งปิโตรเลียมบนฝั่งแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ เชฟรอน อยู่ในระหว่างการศึกษา และสำรวจพื้นที่ในเขตบ้านนาสาร ต.กลาย อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เพื่อพิจารณาถึงความเหมาะสม และความเป็นไปได้ในการก่อสร้างฐานสนับสนุนการปฏิบัติงาน และจะทำการศึกษาถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และสังคมการออกแบบก่อสร้างโครงการที่เหมาะสม รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณะ เพื่อประกอบการดำเนินการตามโครงการ และการก่อสร้างจะเริ่มดำเนินการหลังได้รับความเห็นชอบในรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และได้รับอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น