ระนอง -รถทัวร์โดยสารปรับอากาศชั้น 1 บริษัทโชคอนันต์ทัวร์ จำกัด วิ่งกรุงเทพฯ-ระนอง ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิตคาที่ 4 ศพ บาดเจ็บ 27 คน
วันนี้ (11 ก.พ.) ได้เกิดอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารประจำทางปรับอากาศชั้น 1 ของบริษัท โชคอนันต์ทัวร์ จำกัด กรุงเทพ-ระนอง หมายเลขทะเบียน 10-0499 ชุมพร ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำ บนถนนเพชรเกษมระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 537-538 หมู่ที่ 3 ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนองเป็นเหตุให้ผู้โดยสารเสียชีวิตคาที่ 4 ศพ เป็นชาวระนองทั้งหมด
ประกอบด้วย นางสุวรรณ นุ้ยเขียว ข้าราชการครูโรงเรียนบ้านสองแพรก อ.กระบุรี นางรัชนี ช่วยทุกข์ ข้าราชการครูโรงเรียนบ้านบางกุ้ง อ.กระบุรี นางวันวิสา สิขชัย อยู่บ้านเลขที่ 115/1 หมู่ที่ 5 ต.ปากน้ำ อ.เมือง และเด็กชายศุภวัฒน์ สุขประสพ อายุ 15 ปี บ้านอยู่ซอย 9 ต.เขานิเวศน์ อ.เมือง
นอกจากนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 27 คน ในจำนวนผู้บาดเจ็บสาหัส 3 รายถูกนำตัวส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลระนอง คือ นางสาวสุวรรณี ไกรเลิศ พนักงานต้อนรับบนรถ พระสมาน โควาวิเศษสุข นางสาวจูหลิน บุญอภัย และนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลกระบุรี 5 คน ส่วนที่เหลือแพทย์พยาบาลให้การรักษาแล้วอนุญาตให้กลับบ้านได้
นางเนาวรัตน์ แซ่เอี๊ยบ อายุ 41 ปี กล่าวว่า ช่วงที่เกิดเหตุส่วนใหญ่ผู้โดยสารกำลังนอนหลับอยู่ ตนมารู้สึกตัวอีกทีหนึ่งก็รถพลิกคว่ำแล้ว ได้รับบาดเจ็บที่ศรีษะ เย็บ 3 เข็ม
นางเจียมจิตร มิทธิศร กล่าวว่า ขณะที่ตนกำลังนอนหลับอยู่นั้นรู้สึกว่ารถทัวร์เอียงข้าง ส่ายไปมา จึงตื่นขึ้นมาคิดว่าก่อนเกิดอุบัติเหตุแน่นอนแล้วจึงหาที่จับยึดสักครู่รถก็พลิกคว่ำแล้วรถไถลไปไกลพอสมควรได้ยินเสียงดังกึกก้อง แต่ตนก็รู้สึกตัวดีจึงพยายามคลานออกมานอกรถ
ขณะที่นายสุพรชัย จันทับ คนขับรถ อายุ 41 ปี ซึ่งไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด และไม่ได้หลบหนีไปไหน ให้การว่า ตนรับช่วงขับรถจากคนแรกที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถเกิดส่ายไปมาโดยไม่ทราบสาเหตุ ตนพยายามเบรกแต่ไม่สามารถควบคุมรถได้ ประกอบกับจุดดั่งกล่าวเป็นทางโค้ง ทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำแล้วไถลไปฟาดกับราวเหล็กที่กั้นไหล่ทางเป็นระยะทางประมาณ 20 เมตร
ทางด้าน นายเจษฎาพร กุลลูกอินทร์ ผู้จัดการบริษัทโชคอนันต์ทัวร์ จำกัด สาขาระนอง กล่าวว่า บริษัทได้ทำประกันภัยไว้กับบริษัททิพยประกันภัย จำกัด ทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทางบริษัทจะดูแลอย่างเต็มที่
สำหรับโค้งดังกล่าวชาวบ้านได้ตั้งฉายาว่าเป็นโค้งโลงศพ เนื่องจากไปโค้งรูปตัวซี มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แม้ว่าทางกรมทางหลวงจะมีไฟสัญญาณรวมทั้งป้ายเตือนติดตั้งไว้แล้วก็ตาม