xs
xsm
sm
md
lg

มาลีชูแนวรบน้ำผลไม้ครบเซกเมนต์ ปั้น”คูลแมกซ์ฯ”ลุยซุปเปอร์อีโคโนมี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มาลี อัดฉีดงบ 300 ล้านบาท สู้ศึกตลาดน้ำผลไม้ 7,000 ล้านบาท แข่งเดือด แตกไลน์” จู๊ซ มิกซ์ คูล แมกซ์” ลงเซกเมนต์ซุปเปอร์ อีโตโนมี 1,300 ล้านบาท ชูความแปลกใหม่ เย็นแบบไม่ซ่า ทะลวงคนรุ่นใหม่ พร้อมขยายช่องทางสถานบันเทิง สปอร์ตคลับ ปีแรกโกยแชร์ 10-11% ส่วนสิ้นปีตั้งเป้าโต 50% หรือกวาดรายได้ 1,800 ล้านบาท

นางสาวสุวรรณา โชคดีอนันต์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มาลีสามพราน จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำผลไม้ตรามาลี เปิดเผยว่า นโยบายการตลาดน้ำผลไม้มาลีปีนี้ มุ่งเน้นการทำตลาดอย่างครบวงจร ภายใต้ยุทธศาสตร์ของการก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดน้ำผลไม้ในอนาคต ด้วยแนวทางการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีความแตกต่างและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากที่สุด โดยปีนี้เน้นการขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มวัยรุ่น นักศึกษา ตลอดจนการมุ่งเน้นการทำตลาดเซกเมนต์พรีเมียม เป็นหลัก

ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบ 60 ล้านบาท จากงบการตลาดรวม 300 ล้านบาท เปิดตัวน้ำผลไม้พร้อมดื่ม 15% มาลี จู๊ซ มิกซ์ คูล แมกซ์ ลงสู่ตลาดซุปเปอร์ อีโคโนมี ซึ่งทำให้มาลีมีน้ำผลไม้ให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ จากปัจจุบันบริษัทมีน้ำผลไม้มาลี 2 เซกเมนต์ ได้แก่ เซกเมนต์พรีเมียมครองส่วนแบ่ง 30% และเซกเมนต์กลาง มีส่วนแบ่ง 14% ทั้งนี้เพื่อรองรับกับการแข่งขันตลาดน้ำผลไม้มูลค่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งมีปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 15% แบ่งน้ำผลไม้เซกเมนต์พรีเมียม 2,800 ล้านบาท เติบโต 14% เซกเมนต์กลางมูลค่า 500 ล้านบาท โต 10% ส่วนซุปเปอร์ อีโคโนมี มูลค่า 1,300 ล้านบาท และอีโคโนมีมูลค่า 3,000 ล้านบาท โต 22%

สำหรับการทำตลาดน้ำผลไม้พร้อมดื่มมาลี จู๊ซ มิกซ์ คูล แมกซ์ เน้นจุดขาย โดดเด่น แปลกใหม่ ด้วยรสชาติที่ให้ความเย็น สดชื่น และไม่ซ่า เจาะกลุ่มเป้าหมายกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุระหว่าง 15-25 ปี ที่รู้สึกเบื่อรสชาติของน้ำอัดลม และต้องการเครื่องดื่มใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนใคร โดยมีด้วยกัน 3 รสชาติ ได้แก่ คูลลิ่ง เรด,คูลลิ่ง บูล และคูลลิ่ง ออเร้นจ์ ขนาด 350 มล. ราคา 18 บาท โดยบริษัทจะขยายช่องทางใหม่ตามสถานที่เที่ยวกลางคืน สปอร์ตคลับ และร้านเกมออนไลน์ และเตรียมจัดกิจกรรมและการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง นำร่องโรดโชว์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 13-15 เมษายน นี้ ที่ ถนนข้าวสาร พัทยา และสถานที่ท่องเที่ยวตามจุดใหญ่ๆ

แนวโน้มตลาดน้ำผลไม้ซุปเปอร์ อีโคโนมี หรือน้ำผลไม้ต่ำกว่า 25% มูลค่า 1,300 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักอย่างต่อเนื่อง โดยมีน้ำผลไม้สแปลชผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 75% และทวิสเตอร์ มีส่วนแบ่ง 20% เป็นผู้ผลักดันตลาดให้มีอัตราการเติบโต ส่งผลให้ตลาดมีขนาดใหญ่ขึ้น อย่างไรก็ตามจากการดำเนินการตลาดในเชิงรุก ปีแรกบริษัทตั้งเป้าน้ำผลไม้มาลี จู๊ซ มิกซ์ คูล แมกซ์มีส่วนแบ่ง 10-11% ส่วนผลประกอบการโดยรวมปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีรายได้ 1,800 ล้านบาท จากการมีอัตราการเติบโต 50% จากรายได้ปีที่ผ่านมา 1,200 ล้านบาท เติบโต 15-16% โดยในไตรมาสแรกเติบโต 20%
กำลังโหลดความคิดเห็น