xs
xsm
sm
md
lg

“ครู-หมอ” ค้านนโยบายปลดปืน - ท้า “สมัคร” เอาเก้าอี้นายกฯประกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการออนไลน์ - ครู-หมอชายแดนใต้ประสานเสียงเถียงค้านนโยบายปลดอาวุธ 3 เดือนประหาร ฟันแนวคิดไร้เดียงสา ไม่สอดคล้องความเป็นจริง เชื่อไม่มีฝ่ายไหนยอมรับได้ ไม่ว่าข้าราชการ หรือชาวบ้าน เพราะต่างต้องป้องกันตนเอง แนะรัฐทำสงครามความคิด พร้อมท้าหาก “สมัคร” เดินหน้าปลดปืน ต้องเอาตำแหน่งนายกฯ เป็นประกัน

นายประสิทธิ์ เมฆสุวรรณ ที่ปรึกษาสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะกรรมการ กล่าวถึงข้อเสนอของรองประธานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ที่ให้มีการปลดอาวุธของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า เป็นข้อเสนอที่โรแมนติก และไร้เดียงสาเกินไป รวมทั้งไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในพื้นที่ เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ต้องถือว่าเป็นสงครามที่ปะทะกันด้วยอาวุธ เป็นความขัดแย้งขั้นสูงสุด และทำให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก รวมทั้งผู้ที่มีอาชีพครูซึ่งเสียชีวิตไปแล้วถึง 92 คน

นายประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า หากนำข้อเสนอดังกล่าวมาปฏิบัติก็คงจะสามารถเรียกเก็บปืนได้แต่คนดีๆ เพราะโจรที่กำลังก่อการอยู่ไม่กลัวกฎหมายอยู่แล้ว ถ้านายกรัฐมนตรีบ้าจี้เห็นด้วย และนำไปปฏิบัติจริงก็คงไม่ต่างกับที่อดีตนายกฯ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ รับข้อเสนอโรแมนติกไปขอโทษการกระทำแทนรัฐบาลก่อนหน้านั้น ซึ่งได้ข้อสรุปว่าเหตุการณ์ก็ยังไม่ได้ลดน้อยลงแต่อย่างใด

นายประสิทธิ์ ยืนยันว่า คนที่อยู่ในพื้นที่ยังจำเป็นที่จะต้องมีอาวุธไว้ป้องกันตัวเอง พิสูจน์ได้จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ผ่านมา พบว่า ชาวบ้านที่เสียชีวิตโดยส่วนมากไม่มีอาวุธติดตัวทั้งนั้น ในขณะที่คนที่มีอาวุธติดตัวจะตกเป็นเหยื่อน้อยกว่า

นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล อ.จะนะ และผู้ประสานงานศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ กล่าวถึงข้อเสนอให้ปลดอาวุธจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ภายใน 3 เดือน ตามที่รองประธานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เสนอต่อ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ตนไม่เห็นด้วย เพราะถ้าหากจะทำการปลดก็ต้องทำให้ได้ 100% แต่ต้องถามว่าคนที่มีใบอนุญาตพกปืนอยู่แล้วยังสามารถมีอาวุธปืนได้ต่อไปหรือไม่ หากยังมีต่อไปได้ก็ไม่เป็นธรรมแน่นอน เพราะจะเกิดกรณีไทยพุทธ มีใบอนุญาตพกปืน แต่มุสลิมไม่มี จะเกิดความเหลื่อมล้ำกันขึ้น

นพ.สุภัทร กล่าวต่อว่า นโยบายดังกล่าวคงไม่มีใครยอมรับได้ ทั้งข้าราชการ และชาวบ้าน ซึ่งก็ต้องป้องกันตนเอง ที่ผ่านมา ข้าราชการที่ไม่ถืออาวุธ เช่น ครู หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่อนามัย ก็ล้วนตกเป็นเป้า ฉะนั้น หากจะไม่ถือปืนก็ต้องเชื่อมั่นว่าอำนาจรัฐดูแลเขาได้ ซึ่งในทางปฏิบัติเป็นไปไม่ได้ ตนเห็นว่า ต้องมาถามความเห็นคนในพื้นที่ รัฐบาลไม่ควรสรุปอะไรในตอนนี้ เพราะจะมีปัญหาในทางปฏิบัติอย่างมากแน่นอน

“ถ้านายกฯตอบรับกับนโยบายนี้ ก็ต้องบอกต่อไปด้วยว่า ถ้าสถานการณ์แย่ลง ต้องลาออก ซึ่งผมคิดว่า 2-3 เดือน ก็รู้เรื่องแล้วว่าดีขึ้นหรือแย่ลง” เขากล่าว

ผู้อำนวยการโรงพยาบาล อ.จะนะ กล่าวอีกว่า นโยบายลักษณะนี้จะสร้างความหวาดหวั่นให้กับทั้งประชาชน และข้าราชการ ในพื้นที่ทั้งพุทธและมุสลิม เพราะปัจจุบันข้าราชการมุสลิมก็ตกเป็นเป้าหมายอยู่ เมื่อตนเองไม่มีปืน ก็ไม่มีใครเชื่อมั่น แม้แต่ข้าราชการเองทุกวันนี้ก็ไม่มีใครเชื่อมั่นในอำนาจรัฐ ขณะที่ชาวบ้านมุสลิมก็จะหวั่นไหวมาก เพราะผู้ที่จะมีปืน คือ ทหาร ตำรวจเท่านั้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชาวบ้านไม่เชื่อมั่นอีก สุดท้ายจะสูญเสียความเชื่อมั่นทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายข้าราชการที่ปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลัง และชาวบ้านมุสลิม

นพ.สุภัทร กล่าวด้วยว่า ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้ หลักๆ เป็นเรื่องการต่อสู้ทางความคิด เรื่องอาวุธเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ปัจจุบันในพื้นที่มีทั้งวัยรุ่นและกลุ่มคนไม่ติดอาวุธ แต่ยังทำงานความคิดเยอะแยะ ฉะนั้น ปัญหาไม่ใช่เรื่องอาวุธ

กำลังโหลดความคิดเห็น