ศูนย์ข่าวภูเก็ต - "นายก อบต.ป่าคลอก" เมืองภูเก็ต คราญนักลงทุนต่างชาติไม่มั่นใจลงทุนในพื้นที่ หลังมีข่าวการคัดค้านโครงการบางแห่ง ทำนักลงทุนบางรายถอดใจบอกขายโครงการหลายราย
นายปัญญา สำเภารัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ป่าคลอก อ.เมือง จ.ภูเก็ต กล่าวถึงการลงทุนในพื้นที่ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ที่นักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติสนใจเข้าไปลงทุนเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่ป่าคลอกพัฒนาขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดว่า สำหรับการลงทุนทางด้านอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ ต.ป่าคลอก นั้นเมื่อ 2-3 ปีก่อนพื้นที่ป่าคลอกเป็นพื้นที่หนึ่งที่นักลงทุนทั้งคนไทยและชาวต่างชาติจับตามองและสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่ทำให้มีการซื้อขายและเปลี่ยนมือที่ดินและการลงทุนเกิดขึ้นมาก
แต่หลังจากมีการร้องเรียนคัดค้านเกี่ยวกับโครงการต่างบางแห่งที่เข้ามาลงทุน รวมทั้งกรณีของทหารและตำรวจที่ลงมาตรวจสอบในพื้นที่ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจ ซึ่งขณะนี้เวลาประมาณ 1 ปีแล้วที่ไม่มีนักลงทุนเข้ามาติดต่อหรือสอบถามเพื่อขอลงทุนในพื้นที่เลย
“ปัจจุบันนี้นักลงทุนที่เข้ามาในพื้นที่ป่าคลอกมีแต่จะถอยและประกาศขายโครงการ เปลี่ยนมือ สำหรับการประกาศขายโครงการนั้นจากการเช็กข้อมูลจากใบอนุญาตมีการเปลี่ยนมือไปแล้ว 2-3 โครงการ โดยแต่ละโครงการมีมูลค่าเป็นพันล้านบาท ซึ่งบางโครงการเปลี่ยนมือไปแล้วแต่ยังไม่ได้ทำอะไรเพราะไม่มีความมั่นใจและยังชะลอการลงทุนอยู่” นายปัญญา กล่าว และว่า
ปัญหาสำคัญที่ทำให้นักลงไม่กล้าเข้ามาลงทุนในพื้นที่ก็เนื่องจากขณะนี้นักลงทุนไม่มั่นใจ และกลัวว่าการเข้ามาลงทุนจะสูญเปล่า เนื่องจากในพื้นที่ยังมีปัญหาและมีหลายๆโครงการที่เข้ามาแล้วแต่ยังดำเนินการไม่ได้ทั้งๆที่มีการปฏิบัติตามกฎระเบียบทุกอย่าง ทางนักลงทุนจึงมองว่าเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญ
นายปัญญา กล่าวต่อว่า สำหรับการลงทุนในพื้นที่ป่าคลอกที่ผ่านมานั้นเป็นการลงทุนทางด้านโรงแรมที่พักและท่าเทียบเรือมารีน่า ซึ่งขณะนี้มีโรงแรมหลายแห่งที่สร้างเสร็จแล้วแต่ก็ประสบปัญหาเรื่องของนักท่องเที่ยวใช้บริการน้อย
ส่วนเรื่องท่าเทียบเรือมารีน่า มีการขออนุญาต 3 โครงการ และทาง อบต.อนุญาตให้ดำเนินการไปแล้ว 2 โครงการยังเหลืออีกหนึ่งโครงการ คือ โครงการเดอะยามู รวมมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ป่าคลอกที่มีการลงทุนไปแล้วไม่น้อยกว่า 5 พันล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม ยังเป็นห่วงเรื่องของการลงทุนใหม่ๆที่ยังชะลอตัวอยู่เนื่องจากนักลงทุนยังขาดความมั่นใจ ซึ่งเรื่องนี้คงจะต้องเร่งหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา
นายปัญญา กล่าวถึงการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนชาวไทยบางโครงการว่าขณะนี้มีการเข้ามากว้านซื้อที่ดินประมาณ 70-80 ไร่ในพื้นที่เพื่อลงทุนสร้างวิลล่าสำหรับกลุ่มลูกค้าระดับสูงและมีสนามบินสำหรับเครื่องบินส่วนตัวมาภายในโครงการว่า ขณะนี้โครงการดังกล่าวยังไม่ได้มาขออนุญาตก่อสร้างกับทาง อบต.เลยและไม่ทราบว่ารายละเอียดโครงการเป็นอย่างไรแต่ทราบว่ามีการขุดปรับหน้าดินแล้ว ซึ่งทาง อบต.ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังโครงการให้ดำเนินการตามระเบียบให้ถูกต้องแต่ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้คงจะต้องรอดูในรายละเอียดว่าจะต้องดำเนินการต่อไปอย่างไรเพราะขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการปรับหน้าดินเท่านั้น
นายปัญญา สำเภารัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ป่าคลอก อ.เมือง จ.ภูเก็ต กล่าวถึงการลงทุนในพื้นที่ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ที่นักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติสนใจเข้าไปลงทุนเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่ป่าคลอกพัฒนาขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดว่า สำหรับการลงทุนทางด้านอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ ต.ป่าคลอก นั้นเมื่อ 2-3 ปีก่อนพื้นที่ป่าคลอกเป็นพื้นที่หนึ่งที่นักลงทุนทั้งคนไทยและชาวต่างชาติจับตามองและสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่ทำให้มีการซื้อขายและเปลี่ยนมือที่ดินและการลงทุนเกิดขึ้นมาก
แต่หลังจากมีการร้องเรียนคัดค้านเกี่ยวกับโครงการต่างบางแห่งที่เข้ามาลงทุน รวมทั้งกรณีของทหารและตำรวจที่ลงมาตรวจสอบในพื้นที่ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจ ซึ่งขณะนี้เวลาประมาณ 1 ปีแล้วที่ไม่มีนักลงทุนเข้ามาติดต่อหรือสอบถามเพื่อขอลงทุนในพื้นที่เลย
“ปัจจุบันนี้นักลงทุนที่เข้ามาในพื้นที่ป่าคลอกมีแต่จะถอยและประกาศขายโครงการ เปลี่ยนมือ สำหรับการประกาศขายโครงการนั้นจากการเช็กข้อมูลจากใบอนุญาตมีการเปลี่ยนมือไปแล้ว 2-3 โครงการ โดยแต่ละโครงการมีมูลค่าเป็นพันล้านบาท ซึ่งบางโครงการเปลี่ยนมือไปแล้วแต่ยังไม่ได้ทำอะไรเพราะไม่มีความมั่นใจและยังชะลอการลงทุนอยู่” นายปัญญา กล่าว และว่า
ปัญหาสำคัญที่ทำให้นักลงไม่กล้าเข้ามาลงทุนในพื้นที่ก็เนื่องจากขณะนี้นักลงทุนไม่มั่นใจ และกลัวว่าการเข้ามาลงทุนจะสูญเปล่า เนื่องจากในพื้นที่ยังมีปัญหาและมีหลายๆโครงการที่เข้ามาแล้วแต่ยังดำเนินการไม่ได้ทั้งๆที่มีการปฏิบัติตามกฎระเบียบทุกอย่าง ทางนักลงทุนจึงมองว่าเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญ
นายปัญญา กล่าวต่อว่า สำหรับการลงทุนในพื้นที่ป่าคลอกที่ผ่านมานั้นเป็นการลงทุนทางด้านโรงแรมที่พักและท่าเทียบเรือมารีน่า ซึ่งขณะนี้มีโรงแรมหลายแห่งที่สร้างเสร็จแล้วแต่ก็ประสบปัญหาเรื่องของนักท่องเที่ยวใช้บริการน้อย
ส่วนเรื่องท่าเทียบเรือมารีน่า มีการขออนุญาต 3 โครงการ และทาง อบต.อนุญาตให้ดำเนินการไปแล้ว 2 โครงการยังเหลืออีกหนึ่งโครงการ คือ โครงการเดอะยามู รวมมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ป่าคลอกที่มีการลงทุนไปแล้วไม่น้อยกว่า 5 พันล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม ยังเป็นห่วงเรื่องของการลงทุนใหม่ๆที่ยังชะลอตัวอยู่เนื่องจากนักลงทุนยังขาดความมั่นใจ ซึ่งเรื่องนี้คงจะต้องเร่งหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา
นายปัญญา กล่าวถึงการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนชาวไทยบางโครงการว่าขณะนี้มีการเข้ามากว้านซื้อที่ดินประมาณ 70-80 ไร่ในพื้นที่เพื่อลงทุนสร้างวิลล่าสำหรับกลุ่มลูกค้าระดับสูงและมีสนามบินสำหรับเครื่องบินส่วนตัวมาภายในโครงการว่า ขณะนี้โครงการดังกล่าวยังไม่ได้มาขออนุญาตก่อสร้างกับทาง อบต.เลยและไม่ทราบว่ารายละเอียดโครงการเป็นอย่างไรแต่ทราบว่ามีการขุดปรับหน้าดินแล้ว ซึ่งทาง อบต.ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังโครงการให้ดำเนินการตามระเบียบให้ถูกต้องแต่ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้คงจะต้องรอดูในรายละเอียดว่าจะต้องดำเนินการต่อไปอย่างไรเพราะขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการปรับหน้าดินเท่านั้น