ปัตตานี - ศาลจังหวัดปัตตานีมีคำสั่งจำหน่ายคดีซ้อม 3 นักศึกษายะลา เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวผู้เสียหายไปแล้ว เพราะไม่ต้องการให้ปัญหาบานปลาย
นายสิทธิพงษ์ จันทวิโรจน์ เลขาธิการศูนย์ทนายความมุสลิม กล่าวภายหลังที่ศาลจังหวัดปัตตานี ได้ไต่สวนคำร้องของพยานผู้ร้อง คือ นางสาวกูแสะเราะ อีแต พี่สาวนายกูยิ อีแต นายอาหะมะ บาดง และนายมะเละ เตะ ซึ่งเป็นญาติและผู้ปกครองของ 3 นักศึกษายะลาที่ถูกซ้อมร่างกาย ให้มีการเพิกถอนการควบคุมตัวและเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ศาลจังหวัดปัตตานี
นายไพโรจน์ โปเล็ม หัวหน้าศาลจังหวัดปัตตานี และนายอนันต์ หมาดเท่ง ผู้พิพากษา ได้นั่งบัลลังไต่สวนคำร้องพยานฝ่ายผู้ร้องใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ปรากฏว่า คดีนี้ศาลได้มีคำสั่งให้จำหน่ายคดี เหตุที่ศาลไม่รับว่าเป็นคดีและจำหน่ายคดีนี้ เพราะว่าเราได้ยื่นร้อง ร้องขอให้มีการปล่อยตัว ตาม ป.วิอาญา มาตรตรา 90 และ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรตรา 32 ที่ขอให้มีการปล่อยตัว การควบคุมตัวโดยมิชอบตามมาตรตรา 90 แต่วันนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการปล่อยตัว 3นักศึกษาแล้ว ศาลไม่สามารถที่จะออกคำสั่งอะไรได้ จึงต้องมีการจำหน่ายคดีไป
“เมื่อมีการปล่อยตัวแล้วถือว่าจบไป เขาคงรู้เกม เพราะมีประสบการณ์เรื่องร้องขอให้ปล่อยตัวที่ศาล จ.สุราษฏร์ธานี มาแล้วเลยชิงปล่อยตัวไปก่อน เพราะหากไม่มีการปล่อยตัว เรื่องการถูกซ้อม การทรมานก็จะลามเป็นเรื่องใหญ่โต”
นายสิทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องการปล่อยตัวคงจบเพราะศาลได้สั่งจำหน่ายคดีแล้ว ส่วนเรื่องการทำร้ายร่างกายผู้เสียหายไม่เอาความและไม่ถือโกรธแค้นใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนประเด็นเรื่องของทรัพย์สิน ก็ต้องฟ้องร้องทางแพ่งอีกเป็นคดีต่างหาก ถ้าไปขอแล้วเขาไม่ให้คืนก็จะต้องมีการแจ้งความไว้
“เรื่องการทำร้ายร่างกายและควบคุมตัวถือว่ายุติ เพราะทางผู้เสียหายไม่ติดใจที่จะเอาความ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะไม่อยากเป็นคดี ซึ่งมองว่าไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหาเลย ตรงนี้เป็นตัวสะท้อนให้เห็นว่า รัฐควรจะมีมาตรการที่เข้มข้น ในการตรวจสอบต่อการกระทำของเจ้าหน้าที่ให้มากกว่านี้ แต่ว่าอันหนึ่งที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนได้เป็นสิ่งที่ดี ก็คือว่าได้เป็นช่องทางออกของประชาชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ศาลเป็นที่พึ่งของประชาชนได้” นายสิทธิพงษ์ กล่าว
