ตรัง – ตร.ตรัง จับมือ ป.ป.ส.- ฝ่ายปกครอง บุกทลายไร่กระท่อมกลางเมืองรัษฎา หลังชาวบ้านร้องเรียนมีการปลูกเชิงพาณิชย์ พ่อเฒ่าเจ้าของไร่ปากแข็ง อ้างเจ้าของสวนเก่าปลูกทิ้งไว้ ด้าน “พ่อเมืองตรัง” เชื่อไม่นานทำลายต้นกระท่อมหมดทั้งจังหวัด
วันนี้ (22 ม.ค.) เวลา 17.30 น.พล.ต.ต.ประเสริฐ จันทร์สว่าง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพบูลย์ จ้อยกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ประสานร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สถานีตำรวจภูธรรัษฎา อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอรัษฎา กว่า 50 นาย ลงพื้นที่ทลายแหล่งพืชกระท่อมขนาดใหญ่
หลังจากสืบทราบและได้รับร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่อำเภอรัษฎา ว่า มีการลักลอบปลูกพืชกระท่อมเชิงพาณิชย์ โดยมีการลักลอบจำหน่ายเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ภายในสวนผลไม้ผสมผสาน ของ นายมานพ แซ่ฉั่ว อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ที่ 5 ตำบลหนองบัว อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง พบว่า
มีการปลูกพืชกระท่อมแซมต้นผลไม้ชนิดต่างๆ ไว้เป็นแนวร่องอย่างสวยงาม ในพื้นที่สวนผลไม้กว่า 7 ไร่ โดยต้นกระท่อมดังกล่าวนั้น มีอายุตั้งแต่ 2 ปี ไปจนถึง 10 ปี โดยแต่ละต้นจะมีความสูงอยู่ที่ประมาณเกือบ 4 เมตร ซึ่งมีจำนวนทั้งหมดกว่า 100 ต้น
นายมานพ แซ่ฉั่ว เจ้าของสวนผลไม้ กล่าวว่า สวนผลไม้ทั้งหมดได้ซื้อมาอีกทอดหนึ่งเมื่อหลายปีมาแล้ว ซึ่งในขณะที่ซื้อมานั้น เจ้าของสวนคนเก่า ได้มีการปลูกต้นกระท่อมไว้ภายในสวนผลไม้แล้ว ส่วนต้นกระท่อมที่มีขนาดเล็กนั้น ได้มีการขึ้นมาเองตามธรรมชาติ โดยที่ไม่ได้มีการปลูกขึ้นมาใหม่เพิ่มเติมแต่อย่างใด และไม่คิดว่าจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากทราบว่า พืชกระท่อม เป็นยาสมุนไพรไทยชนิดหนึ่ง ที่สามารถช่วยรักษาโรคได้หลายชนิด จึงไม่ได้มีการโค่นทิ้ง จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาโค่นทำลายและถูกจับกุมดังกล่าว
พล.ต.ต.ประเสริฐ จันทร์สว่าง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากการลงพื้นที่มาตรวจสอบแหล่งพืชกระท่อมในครั้งนี้ เนื่องจากมีประชาชนในพื้นที่ร้องเรียนมายังสถานีตำรวจภูธรรัษฎา และตำรวจภูธรจังหวัดตรัง
พร้อมกับ เมื่อปี 2550 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภูธรรัษฎา อำเภอรัษฎา สามารถจับกุมบุคคลจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้ามาซื้อพืชกระท่อมจำนวนโ ดยได้ให้การสารภาพว่า ได้รับซื้อมาจากชาวบ้านในพื้นที่อำเภอรัษฎา จึงถือเป็นข้อมูลที่สอดคล้อง
จึงได้สั่งการสืบสวนสอบสวนขยายผลว่าพืชกระท่อมทั้งหมด เป็นการเกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือเป็นเจตนาปลูก และพบว่าเป็นเจตนาของเจ้าของที่ปลูกขึ้นมาเพื่อเชิงพาณิชย์อย่างแน่นอน จึงได้เข้าจับกุมและโค่นทำลายพืชกระท่อมในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่ของผู้สื่อข่าว พบว่า ในพื้นที่ดังกล่าวนั้น มีการปลูกพืชกระท่อมเกือบทุกบ้าน โดยแต่ละบ้านจะมีพืชกระท่อมไว้ประมาณ 2-3 ต้น จึงทำให้เป็นที่สังเกตว่า เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2551 ที่ผ่านมา นายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้เปิดงานสัปดาห์ปราบปรามยาเสพติด
โดยเน้นหนักที่การโค่นทำลายพืชกระท่อม ด้วยการมอบหมายให้ฝ่ายปกครองของแต่ละอำเภอ ทั้ง 10 อำเภอ ในจังหวัดตรัง ทำการสืบค้นและทำลายพืชกระท่อมที่มีการปลูกเพื่อเชิงพาณิชย์
ทั้งนี้ ทางจังหวัดพบว่า เมื่อปี 2550 ที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง สามารถจับกุมบุคคลจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เข้ามาลักลอบขนพืชกระท่อม ไปจำหน่ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นจำนวนหลายราย และแต่ละรายนั้นได้ของกลางเป็นพืชกระท่อมจำนวนมาก
และถือเป็นการตัดตอนการแพร่ระบาดของยาเสพย์ติดชนิด 4 คูณ 100 และ 5 คูณ 100 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งอาจเป็นการนำไปมอมเมาเยาวชน หลอกล่อให้ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ยังคงไม่สงบในเวลานี้
นายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า สำหรับการทำลายพืชกระท่อมในพื้นที่อำเภอรัษฎา ครั้งนี้นั้น ถือว่าไม่ได้ขัดกับการตรวจสอบของทางอำเภอแต่อย่างใด แม้ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 22 มกราคมนี้ ซึ่งอยู่ในช่วงสัปดาห์ปราบปรามยาเสพติด จังหวัดตรัง พบว่า พื้นที่อำเภอรัษฎา มีการทำลายพืชกระท่อมไปแล้วทั้งหมด 7 ต้นก็ตาม เนื่องจากตลอดทั้งสัปดาห์ยังคงเป็นระยะเวลาในการค้นหา กวาดล้าง ทำลาย พืชกระท่อมของทุกอำเภอ
ดังนั้น ในส่วนของอำเภอรัษฎา ถือว่าเป็นการค้นหาและทำลายแหล่งพืชกระท่อมรายใหญ่ของพื้นที่ ซึ่งไม่ใช่เป็นการปลูกเพื่อเป็นสมุนไพรรักษาโรคแต่อย่างใด และคาดว่าในทุกอำเภอของจังหวัดตรัง จะมีการทำลายพืชกระท่อม ให้หมดไปจากจังหวัดตรังได้อย่างแน่นอน
วันนี้ (22 ม.ค.) เวลา 17.30 น.พล.ต.ต.ประเสริฐ จันทร์สว่าง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพบูลย์ จ้อยกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ประสานร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สถานีตำรวจภูธรรัษฎา อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอรัษฎา กว่า 50 นาย ลงพื้นที่ทลายแหล่งพืชกระท่อมขนาดใหญ่
หลังจากสืบทราบและได้รับร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่อำเภอรัษฎา ว่า มีการลักลอบปลูกพืชกระท่อมเชิงพาณิชย์ โดยมีการลักลอบจำหน่ายเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ภายในสวนผลไม้ผสมผสาน ของ นายมานพ แซ่ฉั่ว อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ที่ 5 ตำบลหนองบัว อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง พบว่า
มีการปลูกพืชกระท่อมแซมต้นผลไม้ชนิดต่างๆ ไว้เป็นแนวร่องอย่างสวยงาม ในพื้นที่สวนผลไม้กว่า 7 ไร่ โดยต้นกระท่อมดังกล่าวนั้น มีอายุตั้งแต่ 2 ปี ไปจนถึง 10 ปี โดยแต่ละต้นจะมีความสูงอยู่ที่ประมาณเกือบ 4 เมตร ซึ่งมีจำนวนทั้งหมดกว่า 100 ต้น
นายมานพ แซ่ฉั่ว เจ้าของสวนผลไม้ กล่าวว่า สวนผลไม้ทั้งหมดได้ซื้อมาอีกทอดหนึ่งเมื่อหลายปีมาแล้ว ซึ่งในขณะที่ซื้อมานั้น เจ้าของสวนคนเก่า ได้มีการปลูกต้นกระท่อมไว้ภายในสวนผลไม้แล้ว ส่วนต้นกระท่อมที่มีขนาดเล็กนั้น ได้มีการขึ้นมาเองตามธรรมชาติ โดยที่ไม่ได้มีการปลูกขึ้นมาใหม่เพิ่มเติมแต่อย่างใด และไม่คิดว่าจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากทราบว่า พืชกระท่อม เป็นยาสมุนไพรไทยชนิดหนึ่ง ที่สามารถช่วยรักษาโรคได้หลายชนิด จึงไม่ได้มีการโค่นทิ้ง จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาโค่นทำลายและถูกจับกุมดังกล่าว
พล.ต.ต.ประเสริฐ จันทร์สว่าง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากการลงพื้นที่มาตรวจสอบแหล่งพืชกระท่อมในครั้งนี้ เนื่องจากมีประชาชนในพื้นที่ร้องเรียนมายังสถานีตำรวจภูธรรัษฎา และตำรวจภูธรจังหวัดตรัง
พร้อมกับ เมื่อปี 2550 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภูธรรัษฎา อำเภอรัษฎา สามารถจับกุมบุคคลจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้ามาซื้อพืชกระท่อมจำนวนโ ดยได้ให้การสารภาพว่า ได้รับซื้อมาจากชาวบ้านในพื้นที่อำเภอรัษฎา จึงถือเป็นข้อมูลที่สอดคล้อง
จึงได้สั่งการสืบสวนสอบสวนขยายผลว่าพืชกระท่อมทั้งหมด เป็นการเกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือเป็นเจตนาปลูก และพบว่าเป็นเจตนาของเจ้าของที่ปลูกขึ้นมาเพื่อเชิงพาณิชย์อย่างแน่นอน จึงได้เข้าจับกุมและโค่นทำลายพืชกระท่อมในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่ของผู้สื่อข่าว พบว่า ในพื้นที่ดังกล่าวนั้น มีการปลูกพืชกระท่อมเกือบทุกบ้าน โดยแต่ละบ้านจะมีพืชกระท่อมไว้ประมาณ 2-3 ต้น จึงทำให้เป็นที่สังเกตว่า เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2551 ที่ผ่านมา นายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้เปิดงานสัปดาห์ปราบปรามยาเสพติด
โดยเน้นหนักที่การโค่นทำลายพืชกระท่อม ด้วยการมอบหมายให้ฝ่ายปกครองของแต่ละอำเภอ ทั้ง 10 อำเภอ ในจังหวัดตรัง ทำการสืบค้นและทำลายพืชกระท่อมที่มีการปลูกเพื่อเชิงพาณิชย์
ทั้งนี้ ทางจังหวัดพบว่า เมื่อปี 2550 ที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง สามารถจับกุมบุคคลจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เข้ามาลักลอบขนพืชกระท่อม ไปจำหน่ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นจำนวนหลายราย และแต่ละรายนั้นได้ของกลางเป็นพืชกระท่อมจำนวนมาก
และถือเป็นการตัดตอนการแพร่ระบาดของยาเสพย์ติดชนิด 4 คูณ 100 และ 5 คูณ 100 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งอาจเป็นการนำไปมอมเมาเยาวชน หลอกล่อให้ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ยังคงไม่สงบในเวลานี้
นายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า สำหรับการทำลายพืชกระท่อมในพื้นที่อำเภอรัษฎา ครั้งนี้นั้น ถือว่าไม่ได้ขัดกับการตรวจสอบของทางอำเภอแต่อย่างใด แม้ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 22 มกราคมนี้ ซึ่งอยู่ในช่วงสัปดาห์ปราบปรามยาเสพติด จังหวัดตรัง พบว่า พื้นที่อำเภอรัษฎา มีการทำลายพืชกระท่อมไปแล้วทั้งหมด 7 ต้นก็ตาม เนื่องจากตลอดทั้งสัปดาห์ยังคงเป็นระยะเวลาในการค้นหา กวาดล้าง ทำลาย พืชกระท่อมของทุกอำเภอ
ดังนั้น ในส่วนของอำเภอรัษฎา ถือว่าเป็นการค้นหาและทำลายแหล่งพืชกระท่อมรายใหญ่ของพื้นที่ ซึ่งไม่ใช่เป็นการปลูกเพื่อเป็นสมุนไพรรักษาโรคแต่อย่างใด และคาดว่าในทุกอำเภอของจังหวัดตรัง จะมีการทำลายพืชกระท่อม ให้หมดไปจากจังหวัดตรังได้อย่างแน่นอน