สุราฎร์ธานี -ประธานสภาอุตสาหกรรมสุราษฎร์ธานีระบุปี 2551 เศรษฐกิจสุราษฎร์ฯ เติบโตอย่างแน่นอน ทั้งการลงทุนในอุตสาหกรรมเกษตร พลังงาน และท่องเที่ยว
นายเพชร ศรีหล่มสัก ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยถึง ทิศทางเศรษฐกิจของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปี 2551 ว่า โดยรวมยังมีสภาพดี ปัจจัยหลักน่าจะมาจากศักยภาพภายในของจังหวัดที่มีความหลากหลายด้านทรัพยากรที่เอื้อต่อการประกอบอาชีพ และการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจจะมีการเติบโตไปในทิศทางการเกษตร และด้านอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากอุตสาหกรรมเดิม โดยเฉพาะด้านพลังงาน ซึ่งในด้านการเกษตร พืชเศรษฐกิจหลักยังคงเป็นปาล์มน้ำมัน และยางพารา ด้วยปัจจัยจากปัญหาราคาน้ำมันสูง ในขณะที่พืชทั้งสองชนิดนี้เป็นพืชที่มีความเกี่ยวพันกับราคาน้ำมัน จึงทำให้ราคาขยับเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับค่าน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับในด้านอุตสาหกรรม คาดว่าจะเป็นการขยายตัวในด้านอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากอุตสาหกรรมเดิม ทั้งเพื่อการใช้เศษวัสดุให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การผลิตกระแสไฟฟ้าด้วย Bio mass และ Bio gas เพื่อเป็นพลังงานทดแทน ทั้งนี้เป้าประสงค์หลักคือความพยายามเพิ่มรายได้ ลดต้นทุน หรือเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก
ใน จ.สุราษฎร์ธานีเอง มีโครงการขยายเพิ่มขึ้นในธุรกิจทั้ง 3 นี้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีโครงการ Bio Diesel รอลงทุนอีกหลายโครงการ หากนโยบายภาครัฐมีความชัดเจนมากขึ้น จึงกล่าวได้ว่าธุรกิจพลังงานจะเป็นธุรกิจหลักอีกหนึ่งธุรกิจของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ดังนั้น สภาอุตสาหกรรม เห็นความสำคัญในเรื่องนี้จึงมีการจัดสัมมนา ขึ้นในวันที่ 22 มกราคม 2551 โดยร่วมมือกับสถาบันพลังงาน ชื่องาน“ ESCO Fair “ ซึ่งเป็นการสัมมนาเกี่ยวกับ โครงการส่งเสริมธุรกิจบริษัทจัดการพลังงาน และจัดสร้างเครือข่ายระหว่างบริษัทจัดการพลังงาน ผู้ประกอบการ และสถาบันการเงิน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการเลือกลงทุนเพื่อการอนุรักษ์พลังงานได้อย่างเหมาะสม และขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานในวันดังกล่าวที่โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า อ.เมือง ตั้งแต่เวลา 08.30-15.00 น.
นายเพชรยังกล่าวถึงธุรกิจเกี่ยวเนื่องด้านกับการท่องเที่ยวว่า ยังเติบโตต่อเนื่องแม้ว่าการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวจะไม่มากก็ตาม แต่ในระยะหลังนี้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงในเชิงคุณภาพ คือ ระยะเวลาการพักยาวนานขึ้น ก่อให้เกิดรายได้ที่แน่นอนในระดับหนึ่ง แต่ภาคธุรกิจที่มีปัญหามากในเวลานี้คือภาคการส่งออก ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแข็งค่าของเงินบาท อยากให้รัฐบาลชุดใหม่มีนโยบายอย่างไรบ้างเกี่ยวกับอุตสาหกรรม
นายเพชรยังกล่าวถึงสิ่งที่ยากให้รัฐบาลชุดใหม่ดำเนินการว่า นโยบายภาครัฐในปัจจุบันเป็นการส่งเสริมเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น หากส่งเสริมได้ถูกประเด็นก็จะทำให้อุตสาหกรรมเติบโตไปในทางที่ถูกต้องได้ สิ่งคิดว่ารัฐบาลควรส่งเสริม คือการเสริมความสามารถในการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ และส่งเสริมให้ประเทศคู่ค้า เห็นความสำคัญของการบริหารอุตสาหกรรมในหลายด้าน ไม่ควรตัดสินการค้า โดยการใช้ปัจจัยด้านราคาเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจอย่างเดียว ซึ่งจะทำให้เราไม่สามารถแข่งขันกับประเทศที่ไม่ได้สนใจ หรือระมัดระวังในด้านนี้