เมื่อไหร่ที่เสียงเศรษฐกิจชุมชนดังจนเราต้องหันมามอง? ครั้งนี้เกิดที่ภาคใต้ของประเทศไทย ที่ซึ่งผู้ประกอบการ OTOP ไม่ได้เพียงแค่ "ขายของ" แต่กำลังสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับชุมชน การเพิ่มขึ้นของสินค้า OTOP ภาคใต้บน TikTok Shop และการขยายตัวของผู้ขายที่ไลฟ์สด เป็นสัญญาณแห่งการเปลี่ยนผ่านจากชุมชนเล็กๆ สู่เวทีการค้าที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์และเรื่องราว พร้อมกับผลตอบแทนทั้งด้านรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และนี่คือจุดเริ่มต้นของ "Southern Digital Commerce"
เศรษฐกิจดิจิทัลที่เริ่มจากหัวใจชุมชนภาคใต้
แม่ค้าท้องถิ่นรายหนึ่งที่สงขลาไลฟ์สดขายเม็ดมะม่วงหิมพานต์อบกรอบจัมโบ้ สร้างรายได้ครึ่งล้านบาทจากการไลฟ์ 181 ครั้ง และ 176 วิดิโอสั้น หรือผู้ขายขนมเปี๊ยะโฮมเมดจากตรัง บ้านขนมศุภวัลย์ สร้างยอดขายกว่า 80,000 บาท จากการไลฟ์ 82 ครั้ง และ 6 วิดิโอสั้น ทั้งสองเป็นเสียงเล่าความสำเร็จของผู้ประกอบการ OTOP ภาคใต้บน TikTok Shop ที่กำลังเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าเศรษฐกิจชุมชน
ภายใน 2 ปี จำนวนสินค้า OTOP ภาคใต้บน TikTok Shop เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดถึง 122.28% ในปี 2025 การเติบโตนี้เป็นเสียงสะท้อนของความเข้มแข็งของเศรษฐกิจรากหญ้าที่กำลังปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว
พลังแห่งไลฟ์ เมื่อความดั้งเดิมผสานเทคโนโลยี
ปี 2025 ผู้ขาย OTOP ที่ไลฟ์สด เพิ่มขึ้นถึง 108.45% เพียงครึ่งปีแรกนี้ สะท้อนถึงความมั่นใจและการยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ของชาวใต้ แม้จะเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม แต่ด้วยการเล่าเรื่องที่ดึงดูดและการตลาดที่เหมาะสม ก็สามารถสร้างฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งได้ หรือแม้จะเป็นชุมชนเล็ก หากมีกลยุทธ์ที่ใช่ ก็สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ใน 7 เดือนแรกของปีนี้ ผู้ขายที่ไลฟ์สดมียอดคำสั่งซื้อเฉลี่ยต่อวันสูงกว่า 9.5 เท่า คิดเป็น 849.48% เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ขายที่ไม่ไลฟ์สด
อาหารและเครื่องดื่ม: จุดแข็งหลักของภาคใต้
"อาหารและเครื่องดื่ม" คือสินค้า OTOP ยอดฮิตของภาคใต้ และมีผู้ขายที่ประสบความสำเร็จจากการไลฟ์ เช่น
1.ขนมเปี๊ยะโฮมเมด
2.ถั่วและอาหารแปรรูปจากปลา
3.ข้าวเกรียบปลา
ถอดรหัสกลยุทธ์ OTOP ภาคใต้ที่สร้างเศรษฐกิจชุมชน
จันทร์จำปาเฮิร์บ - เมื่อ Gen X พาเศรษฐกิจชุมชนเติบโตแบบไม่ต้องตามใคร ใช้ "ความรู้" เป็นพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง
ยุคที่การสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์มักถูกผูกติดกับการไลฟ์ หรือการทำคอนเทนต์ไวรัล หลายคนอาจรู้สึกว่าพื้นที่นี้ไม่ใช่สำหรับเรา โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ถนัดเรื่อง 'คุณภาพสินค้า' มากกว่าการออกหน้ากล้อง เรื่องราวของ “พี่อ้อย-วาสนา แซ่ฉั่ว”เจ้าของช่อง Nature.drop บน TikTok Shop และเจ้าของ‘จันทร์จำปาเฮิร์บ’จากกระบี่ คือกรณีศึกษาที่พิสูจน์ว่าความสำเร็จไม่ได้มีแค่สูตรเดียว
นักวิจัยป่าชายเลนวัย Gen X ที่กลัวการออกหน้าจอ แต่ด้วยความรู้ทางชีววิทยาที่สั่งสมมา 20 ปี เธอได้พัฒนาแชมพูสมุนไพรที่ถูกมองข้าม จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์แชมพูสมุนไพร OTOP แบรนด์ “ผิงอันเฮอร์เบิล (Phing’an Herbal)” ที่ได้รับการยอมรับจนพัฒนาต่อยอดสูตรร่วมกันกับนักวิจัยคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หาดใหญ่
"ตอนนั้นลูกสาวเป็นเหามาจากโรงเรียน หัวอกคนเป็นแม่ก็ไม่อยากใช้สารเคมีแรงๆ กับลูก เราที่จบชีวะด้านพืช ชอบพืชและทำงานเป็นนักวิจัยอิสระด้านป่าชายเลนมา 20 ปี พอจะมีความรู้เรื่องสมุนไพรติดตัวอยู่บ้าง เลยนึกได้ว่าเราน่าจะทำแชมพูสมุนไพรใช้เองได้"
จากความคิดวันนั้น เธอได้เปลี่ยนห้องรับแขกที่บ้านเป็นห้องทดลอง สกัดสมุนไพรใกล้ตัวอย่างมะคำดีควายและอัญชันในพื้นที่ จนได้สูตรแชมพูที่ปลอดภัยและใช้ได้ผลจริง
"เราเห็นชาวบ้านตัดสาง 'เหงือกปลาหมอดอกม่วง' หรือ 'ขลู่' ทิ้งเป็นกองๆ แล้วรู้สึกเสียดายของมาก เพราะเรารู้ว่าของพวกนี้มันมีคุณค่ามหาศาล พอได้มาทำสินค้าของตัวเอง เลยตั้งใจว่าจะใช้ของดีจากชุมชนเรานี่แหละมาสร้างมูลค่า แรกเริ่มเลย เราทำแบรนด์ผิงอันเฮอร์เบิลก่อน ขายผ่านตัวแทนจำหน่ายเป็นช่องทางขายหลัก จนกระทั่งเราขยายไลน์สินค้าสมุนไพรไปกลุ่ม 'pet lover' ซึ่งเป็นตลาดเฉพาะ ตอนนั้นคิดอยู่เหมือนกันว่าจะไลฟ์ขายแชมพูอาบน้ำน้องหมาน้องแมวยังไง ยากเหมือนกันนะ เมื่อโควิดมาเหมือนทุกอย่างหยุดไปเลย ยอดขายไม่มี แต่รายจ่ายยังมีเหมือนเดิม "เราเป็นคน Gen X ที่กลัวกล้องมาก พูดไม่เก่ง สินค้าเราก็เป็นของเฉพาะกลุ่ม" เธอตัดสินใจศึกษาการทำตลาดบน TikTok Shop อย่างจริงจังเข้าคอร์ส TikTok Academy จนค้นพบฟีเจอร์ "โปรโมท" ของ TikTok Shop เพื่อส่งคอนเทนต์ให้ความรู้เรื่องสมุนไพรไปยังกลุ่มเป้าหมาย"
เราคิดว่าในเมื่อเราพูดไม่เก่ง เอนเตอร์เทนคนไม่เป็น เราก็เอาความรู้ที่เรามีมาแบ่งปัน ทำเป็นวิดิโอสั้นเข้าถึงกลุ่มคนเลี้ยงสัตว์ และได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับสัตว์เลี้ยงแบรนด์ “Pethology Plus”
พี่อ้อยทำคลิปวิดีโอสั้นๆ ที่ให้ความรู้เรื่องสมุนไพรกับผิวหนังสัตว์เลี้ยง และเบื้องหลังการผลิตซึ่งเป็นสิ่งที่ถนัดที่สุด แล้วใช้ฟีเจอร์โปรโมท ส่งคอนเทนต์ไปยังกลุ่มเป้าหมาย “คนรักสัตว์เลี้ยง" ผลลัพธ์ที่ได้นอกเหนือจากรายได้ที่เติบโตก็คือการสร้างระบบเศรษฐกิจแบบกระจายศูนย์ที่รายได้จาก TikTok Shop ตรงไปยังเกษตรกรที่ขายวัตถุดิบสมุนไพรในชุมชนด้วย
"บางทีเราอาจไม่่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อเอาชนะโลกดิจิทัลเสมอไป แต่ใช้ ‘ความเป็นตัวเอง’ และ ‘ประสบการณ์’ ที่สั่งสมมาทั้งชีวิตให้กลายเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุด"
สิ่งที่ทำให้เรื่องราวของพี่อ้อยพิเศษยิ่งขึ้น คือการคืนกำไรสู่ระบบนิเวศที่หล่อเลี้ยงเธอมาอย่างต่อเนื่อง ในทุกๆ เดือน รายได้จากการจำหน่ายแชมพูทุกขวด จะถูกแบ่งปันไปสมทบทุนให้กับกลุ่มธนาคารปูม้าในพื้นที่ที่นำแม่ปูม้าที่มีไข่แก่ติดหน้าท้องมาอนุบาลไว้ในสภาพใกล้เคียงธรรมชาติ เมื่อแม่ปูม้าเขี่ยไข่ออกจากหน้าท้องแล้ว จึงนำแม่ปูไปขาย ไข่ที่ถูกเขี่ยออกจากตัวแม่ก็จะฟักเป็นตัวอ่อนแล้วจะถูกปล่อยลงสู่ธรรมชาติ
"ประสบการณ์ ไม่ใช่สิ่งที่ล้าสมัย แต่มันคือคอนเทนต์ที่ล้ำค่าที่สุด ‘ความจริงใจ’ ไม่ใช่จุดอ่อน แต่มันคือแม่เหล็กที่ทรงพลังที่สุด และ ‘เทคโนโลยี’ ไม่ใช่เจ้านาย แต่เป็นเครื่องมือที่ทำให้เราเรียนรู้และใช้งานมันในแบบของเรา" พี่อ้อยทิ้งท้าย
AFRAA STORE จากแม่ค้าออนไลน์มาเป็น Affiliate Creator เจาะลึกกลยุทธ์ "ไลฟ์" ที่สร้างรายได้เจ็ดหลักต่อเดือน เจออาชีพที่ใฝ่ฝันและสร้างความสุขในทุกวัน
คุณ สุวัยบ๊ะ ดีเย๊าะ หรือคุณสุ เจ้าของช่อง AFRAA STORE จากจังหวัดยะลา เป็นตัวอย่างของการลุกขึ้นมาใหม่หลังจากไม่ประสบความสำเร็จนักจากการเป็นแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องดิ้นรนกับธุรกิจนำเข้าเสื้อผ้าเด็กจากจีน แต่ด้วยทุนน้อยทำให้แข่งราคากับรายใหญ่ไม่ไหว
"ตอนนั้นเราไปศึกษาเรื่องการนำเข้าสินค้าอย่างจริงจัง แต่ด้วยความที่เราทุนน้อย ทำให้ต้องลงไปแข่งเรื่องราคากับรายใหญ่ ซึ่งสุดท้ายก็สู้ไม่ไหวจริงๆ พอเราสู้ราคาไม่ได้ สต็อกก็จม มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก เราเห็นของที่สั่งมากองอยู่เต็มบ้าน แต่เปลี่ยนเป็นเงินไม่ได้ มันท้อจนเกือบจะถอดใจไปแล้ว"
เมื่อโควิดมาทำให้การนำเข้ายากขึ้น เธอหันมาขายสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป พอดีกับที่ TikTok Shop เปิดตัวอย่างเป็นทางการ วันแรกที่ไลฟ์สดก็ทำยอดขายปัง "ไม่น่าเชื่อว่าแค่วันแรกที่เปิดไลฟ์พร้อมปักตะกร้า ยอดขายก็ถล่มทลาย ของหมดสต็อกใน 2-3 วัน ที่สำคัญคือระบบหลังบ้านของ TikTok Shop จัดการให้เกือบทั้งหมด ตั้งแต่การชำระเงินไปจนถึงการประสานงานกับขนส่ง หน้าที่ของเราเหลือแค่ไลฟ์สด กับแพ็คของเท่านั้น มันลดขั้นตอนที่วุ่นวายไปได้เยอะมาก"
จุดเปลี่ยนที่แท้จริงเกิดขึ้นเมื่อเธอค้นพบโมเดล Affiliate Creator ที่ยังไม่มีใครรู้จักในตอนนั้น "ตอนนั้นทุนเราเริ่มหมดจากการสต็อกของครั้งก่อน แล้วก็ไม่รู้เลยว่ามีระบบนายหน้า TikTok จนได้ไปศึกษาและลองทำดู มันตอบโจทย์มาก เราไม่ต้องสต็อกของ ไม่ต้องแพ็คของเอง ความเสี่ยงเป็นศูนย์"
เธอสร้างความสำเร็จด้วยกลยุทธ์ที่ดูง่ายแต่ทำได้ยาก นั่นคือ "วินัย" การ 'มาทุกวัน มาให้ตรงเวลา' เหมือนเปิดร้านค้าประจำ" ความสม่ำเสมอนี้ทำให้เธอสามารถสร้างรายได้เฉลี่ยเจ็ดถึงแปดหลักต่อเดือน และก้าวขึ้นเป็น Star Creator ที่ TikTok Shop มอบให้กับครีเอเตอร์ที่สามารถสร้างประสบการณ์ซื้อขายที่ยอดเยี่ยมและรักษามาตรฐานไว้ได้อย่างต่อเนื่อง
"สุไม่ได้มอง TikTok Shop เป็นแค่พื้นที่ขายของ แต่มองเป็นเครื่องมือที่ช่วยผ่อนแรงในการทำงาน และความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเข้าใจและใช้ประโยชน์จากเครื่องมือนั้นได้อย่างเต็มที่" เธอศึกษาและใช้เครื่องมือต่างๆ ที่แพลตฟอร์มมีให้อย่างชาญฉลาด เธอยกตัวอย่างการใช้ Dashboard หลังบ้านว่า "ฟีเจอร์นี้ช่วยให้เราศึกษาพฤติกรรมลูกค้าได้ดี ทำให้เราวางแผนได้ว่าลูกค้าเราเป็นกลุ่มไหน ชอบใช้สินค้าประเภทไหน การรู้ insight ของลูกค้าทำให้เราสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ต่อยอดได้ว่า ควรจะเลือกขายสินค้าประเภทไหนที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่อยู่ในไลฟ์ของเรา"
นอกจากนี้ เธอยังเรียนรู้ที่จะเล่นตามกติกาของแพลตฟอร์มอย่างเคร่งครัด หลังจากเคยมีประสบการณ์ถูกระงับการไลฟ์ 1 วันเพราะทำผิดนโยบายโดยไม่ตั้งใจ
"เหตุการณ์นั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่เราต้องเข้าใจนโยบายและการเปลี่ยนแปลงบน TikTok Shop อย่างจริงจัง เราแก้ไขโดยการเข้าร่วม TikTok Shop Academy ที่มีการอัปเดตข้อมูลอยู่เสมอ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเราได้รับข่าวสารจากแหล่งข้อมูลที่ถูกต้อง"
เมื่อธุรกิจเติบโตและมั่นคง สุเริ่มใช้แพลตฟอร์มของเธอสร้างประโยชน์ให้สังคม โดยสนับสนุนสินค้า OTOP จากภาคใต้ "เราเริ่มขายสินค้า OTOP อย่างข้าวสารจากพัทลุงเมื่อปลายปีที่แล้วบน TikTok Shop เป็นโอกาสที่ดีในการนำสินค้าชุมชนมาวางขาย อย่างสุอยู่ยะลา ได้ช่วยขายสินค้าให้พัทลุง ทำให้สุเองก็ได้รู้ว่ามีสินค้าดีๆ แบบนี้ด้วย"
ผลกระทบที่เกิดขึ้นยิ่งใหญ่กว่าแค่ยอดขาย "สิ่งที่สะท้อนกลับมาคือ สุเหมือนเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่สร้างการรับรู้ให้กับชุมชนนั้นๆ พอเขาทราบว่าเราช่วยเขาขายของได้ ก็ทำให้คนในชุมชนที่ต้องไปทำงานนอกพื้นที่ สามารถกลับมาทำงานในพื้นที่ของตัวเองได้อีกครั้ง ช่วยสร้างอาชีพให้กับชุมชน"
"สำหรับสุตอนนี้ วินัยสำคัญที่สุด แล้วเราต้องตอบให้ได้ด้วยว่าเราอยากจะทำอะไรจริงๆ ไม่ทำตามกระแส และต้องรักในสิ่งที่ทำ มีความอดทน ความพยายาม ไลฟ์ให้ตรงเวลา สิ่งสำคัญคือตั้ง "เป้าหมาย" ถ้ายังไม่ถึงก็ต้องปรับเปลี่ยนแนวทาง ดูว่าติดที่ตรงไหนและแก้ไขทันที ต้องปรับตัวตลอดเวลา"
ปัจจุบันเธอมีทีมงาน 7 คน และตั้งเป้าขยายธุรกิจเป็น MCN และสร้างสตูดิโอในยะลา "เป้าหมายคืออยากเปิด MCN ของตัวเอง ทำสตูดิโอให้คนมาไลฟ์ เพราะเราเห็นว่าคนในพื้นที่เราสามารถเป็นครีเอเตอร์ได้ ทุกคนสามารถทำอาชีพนี้ได้”
อนาคตของ OTOP ภาคใต้: จากเอกลักษณ์ท้องถิ่นสู่สากล
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคใต้นี้เป็นแค่จุดเริ่มต้น TikTok Shop ไม่ได้เป็นเพียงเแค่แพลตฟอร์มการขายเท่านั้น แต่เป็นเครื่องมือปลดปล่อยศักยภาพ ที่ช่วย: ลดอุปสรรคทางภูมิศาสตร์ ผู้ขายสามารถเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศได้โดยไม่ต้องลงทุนสูงในการตลาดแบบเดิม, อนุรักษ์อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม แต่ละผลิตภัณฑ์ OTOP มาพร้อมกับเรื่องเล่า ประวัติศาสตร์ และความเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ทำให้การอนุรักษ์วัฒนธรรมกลายเป็นกิจการที่มีรายได้, สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชน ความสำเร็จของผู้ขายแต่ละรายไม่ได้มีผลเฉพาะตัวเอง แต่สร้างโอกาสการทำงานให้คนในชุมชน ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการรายใหม่
การเติบโตของ OTOP ภาคใต้บน TikTok Shop
การเติบโตของ OTOP ภาคใต้ เป็นมากกว่าเรื่องของตัวเลขและรายได้ มันคือ "เรื่องราวของการเปลี่ยนแปลงชีวิต ของการที่ความดั้งเดิมพบกับนวัตกรรม และของการที่ชุมชนท้องถิ่นก้าวสู่เวทีโลก"
จากสินค้าสมุนไพรจากพืชท้องถิ่น สินค้าแปรรูปจากสวนผลไม้ผสมผสานในกระบี่ ขนมเปี๊ยะโฮมเมดจากตรัง เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบกรอบจากหาดใหญ่ ทุกเรื่องราวพิสูจน์ว่า เมื่อเทคโนโลยีถูกใช้อย่างถูกทาง มันไม่ได้ทำลายสิ่งที่มีอยู่ แต่กลับช่วยขยายขีดความสามารถ และเสริมสร้างคุณค่าของชุมชนที่มีอยู่แล้วให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของ OTOP ภาคใต้บน TikTok Shop เป็นผลมาจากการทำงานร่วมกันระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐ ที่พร้อมพิสูจน์ว่าประเทศไทยคือดินแดนแห่งโอกาส และ TikTok Shop คือกุญแจที่ปลดล็อคศักยภาพอันไม่จำกัดของผู้ประกอบการไทยทุกคน
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *